NWOG และ NDOG คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรในการวิเคราะห์ Forex ในการเทรด Forex การวิเคราะห์แนวรับและแนวต้านถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้เรากำหนดจุดเข้า-ออกออเดอร์ที่เหมาะสมได้ โดยหนึ่งในเครื่องมือวิเคราะห์แนวรับแนวต้านที่น่าสนใจ คือ NWOG และ NDOG ซึ่งเป็นแนวคิดที่ริเริ่มโดย ICT หรือ Inner Circle Trader นั่นเอง ความหมายของ NWOG และ NDOG NWOG ย่อมาจาก New Week Opening Gap หมายถึง ช่องว่างของราคาเปิดตลาดประจำสัปดาห์ NDOG ย่อมาจาก New Day Opening Gap หมายถึง ช่องว่างของราคาเปิดตลาดประจำวัน ในภาพรวม NWOG และ NDOG เป็นระดับราคาที่มีความสำคัญ เนื่องจากเป็นจุดเริ่มต้นการซื้อขายในรอบสัปดาห์หรือรอบวัน ซึ่งสะท้อนถึงมุมมองและความคาดหวังของตลาดในช่วงเวลานั้น ๆ ประโยชน์ของ NWOG และ NDOG ในการวิเคราะห์กราฟ [อ่านเนื้อหา]
Tag Archives: PDH Forex คือ
London Kill Zone คืออะไร และใช้วิเคราะห์ตลาด Forex อย่างไร London Kill Zone เป็นช่วงเวลาเปิดตลาดที่สำคัญของกรุงลอนดอน ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุดในรอบวัน ส่งผลให้ตลาดมีความผันผวนและมีโอกาสในการเทรดที่ดี โดย London Kill Zone จะอยู่ในช่วงเวลา 02:00 น. ถึง 05:00 น. ตามเวลามาตรฐานนิวยอร์ก (New York Session หรือ EST) ลักษณะสำคัญของ London Kill Zone เวลาการเทรด: 02:00 น. – 05:00 น. EST คู่สกุลเงินที่น่าสนใจ: EUR/USD, GBP/USD เนื่องจากเป็นสกุลเงินหลักของยุโรป ตลาดมักมีการเคลื่อนไหวแบบเทรนด์ระยะสั้นที่ชัดเจน (Intraday Trend) ซึ่งมีโอกาสทำกำไรมากกว่า 30 pips ต่อครั้ง การวิเคราะห์กรอบเวลาสูง (Higher Time Frame) [อ่านเนื้อหา]
Inner Circle Trader (ICT) คืออะไร มีแนวคิดการเทรด Forex อย่างไร Inner Circle Trader หรือที่รู้จักกันในนาม ICT คือ Michael J. Huddleston เทรดเดอร์ชื่อดังที่มีชื่อเสียงในแวดวงเทรด Forex จากการแชร์กลยุทธ์ เทคนิค และมุมมองการเทรดผ่านทางวิดีโอออนไลน์และฟอรั่มต่าง ๆ ซึ่งเนื้อหาที่เขาสอนนั้นเน้นไปที่การวิเคราะห์กราฟ การเทรดไปตามกระแสราคา และจิตวิทยาการเทรด หัวใจหลักของแนวคิด ICT คืออะไร ICT มองว่าการเข้าใจโครงสร้างของตลาดและพฤติกรรมของกลุ่มทุนใหญ่ถือเป็นกุญแจสำคัญในการเทรด โดยมีแนวคิดหลัก ๆ ดังนี้ วิเคราะห์โครงสร้างตลาด (Market Structure) ICT เน้นการวิเคราะห์โครงสร้างตลาดโดยการระบุแนวรับแนวต้าน จุด Swing High และ Swing Low รวมถึงช่วงของการพักตัว เพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาและจุดกลับตัวที่สำคัญ วิเคราะห์ปริมาณออร์เดอร์ (Order Flow) การสังเกตปริมาณการซื้อขายในตลาด โดยเฉพาะออเดอร์ขนาดใหญ่จากสถาบันการเงิน ถือเป็นปัจจัยบ่งชี้แนวโน้มราคาที่น่าเชื่อถือ ICT ให้ความสำคัญกับการมองหาบริเวณที่มีความต้องการในการถือครองสถานะซื้อหรือขายจำนวนมาก [อ่านเนื้อหา]
Weak High และ Strong Low คืออะไร มีความสำคัญอย่างไรในการวิเคราะห์กราฟ Forex ในการเทรด Forex การวิเคราะห์แนวโน้มตลาดถือเป็นทักษะพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้เราคาดการณ์ทิศทางของราคาได้แม่นยำยิ่งขึ้น โดยหนึ่งในเครื่องมือที่นักเทรดนิยมใช้คือ การระบุจุด High (จุดสูงสุด) และ Low (จุดต่ำสุด) ของราคา ทั้งแบบ Weak (อ่อนแอ) และ Strong (แข็งแกร่ง) ซึ่งในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับ Weak High และ Strong Low ว่าคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรในการวิเคราะห์กราฟ Weak High คืออะไร Weak High คือจุดสูงสุด (high) ของราคา ที่ไม่สามารถทะลุผ่าน Structure ของกราฟได้ นั่นหมายความว่า การเคลื่อนไหวลงของราคาจากจุด High นี้ ไม่ต่ำกว่าจุดต่ำสุด (low) ก่อนหน้า หรือแนวรับ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแรงขายที่ไม่มากพอ ลักษณะของ [อ่านเนื้อหา]
Weak Low และ Strong High คืออะไร มีความหมายอย่างไรในการเทรด ในการวิเคราะห์กราฟเพื่อเทรด Forex การทำความเข้าใจเกี่ยวกับจุด High และ Low ทั้งแบบ Strong (แข็งแกร่ง) และ Weak (อ่อนแอ) เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราตัดสินใจเข้าเทรดได้ดียิ่งขึ้น โดยในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับ Weak Low และ Strong High ว่าคืออะไร และมีนัยยะสำคัญอย่างไรในการเทรด strong high คือ high ที่ทำให้เกิด low ใหม่ Weak Low คืออะไร Weak Low คือจุดต่ำสุด (low) ของราคาที่ไม่สามารถทำลาย Structure ของกราฟได้ นั่นหมายความว่า การเคลื่อนไหวของราคาขึ้นไปจากจุด Low นี้ ไม่สามารถผ่านจุดสูงสุด (high) ก่อนหน้า หรือ แนวต้านได้ [อ่านเนื้อหา]
Swing High และ Swing Low คืออะไร? ในการซื้อขาย Forex Swing High และ Swing Low เป็นจุดสำคัญที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงทิศทางของราคา ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ราคาขึ้นไปทำจุดสูงสุด (Swing High) แล้วเปลี่ยนกลับลงมา หรือราคาลงไปทำจุดต่ำสุด (Swing Low) แล้วเปลี่ยนกลับขึ้นมา การเปลี่ยนทิศทางนี้อาจเป็นเพียงการย้อนกลับในระยะสั้น (retracement) หรืออาจเป็นการกลับตัวของแนวโน้มใหญ่ (reversal) ก็ได้ ลักษณะการเกิด Swing High เกิดจากแท่งเทียน 3 แท่งที่เรียงต่อกัน แท่งเทียนตรงกลาง (แท่งที่ 2) มีจุดสูงสุด (high) ที่สูงกว่าจุดสูงสุดของแท่งเทียนทั้งด้านซ้ายและขวา ราคาจะเปลี่ยนเป็นทิศทางขาลงหลังจากแท่งเทียนที่ทำ Swing High ลักษณะการเกิด Swing Low เกิดจากแท่งเทียน 3 แท่งที่เรียงต่อกัน แท่งเทียนตรงกลาง (แท่งที่ 2) มีจุดต่ำสุด (low) ที่ต่ำกว่าจุดต่ำสุดของแท่งเทียนทั้งด้านซ้ายและขวา ราคาจะเปลี่ยนเป็นทิศทางขาขึ้นหลังจากแท่งเทียนที่ทำ [อ่านเนื้อหา]
BISI คืออะไร BISI ย่อมาจาก Buy Side Imbalance Sell Side Inefficiency เป็นอีกหนึ่งแนวคิดสำคัญของ ICT (Inner Circle Trader) ในการวิเคราะห์ Fair Value Gap (FVG) แบบ Bullish ซึ่งมีลักษณะตรงกันข้ามกับ SIBI โดยมีจุดสำคัญดังนี้: เกิดจาก FVG ในทิศทางขาขึ้น ที่มีการเคลื่อนไหวของราคาอย่างต่อเนื่อง แรงซื้อมีมากกว่าแรงขายอย่างเห็นได้ชัด สะท้อนถึงการครอบงำของฝั่งซื้อ (Buy Side Imbalance) การเข้ามาของแรงขายมีอย่างจำกัด ไม่สามารถสกัดกั้นแรงซื้อได้ (Sell Side Inefficiency) ลักษณะของรูปแบบ BISI BISI จะปรากฏเป็นการเรียงตัวของแท่งเทียนอย่างน้อย 3 แท่งติดกัน โดยแท่งแรกมักจะมีขนาดใหญ่ที่สุด แสดงถึงแรงซื้อที่หนักแน่น ตามมาด้วยแท่งเทียนที่มีขนาดเล็กลง แต่ก็ยังค่อนข้างใหญ่และมีการปิดตัวสูงกว่าแท่งก่อนหน้า ลักษณะเด่นของแท่งเทียนแต่ละแท่งใน BISI คือจะมีไส้เทียน (Real Body) ที่ใหญ่ [อ่านเนื้อหา]
SIBI คืออะไร SIBI ย่อมาจาก Sell Side Imbalance Buy Side Inefficiency เป็นหนึ่งในแนวคิดสำคัญของ ICT (Inner Circle Trader) ในการวิเคราะห์ Fair Value Gap (FVG) แบบ Bearish โดยมีลักษณะสำคัญคือ: เป็นการเกิด FVG ในทิศทางขาลง ตามด้วยการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็ว เกิดจากแรงขายมากกว่าแรงซื้ออย่างเห็นได้ชัด สะท้อนให้เห็นถึงการครองตลาดของฝั่งขาย (Sell Side Imbalance) การเข้ามาของแรงซื้อมีจำกัด และไม่สามารถสร้างแรงต้านกดดันได้มากพอ (Buy Side Inefficiency) ลักษณะของรูปแบบ SIBI SIBI จะมีลักษณะเป็นการเรียงตัวของ 3 แท่งเทียนเป็นอย่างน้อย โดยมักมีแท่งเทียนแรกที่ใหญ่ที่สุด บ่งบอกถึงแรงขายที่หนักแน่น ตามด้วยแท่งเทียนที่เล็กลงมา แต่ยังคงมีขนาดค่อนข้างใหญ่และปิดตัวต่ำกว่าแท่งก่อนหน้า จุดสำคัญคือ แท่งเทียนแต่ละแท่งจะมีส่วนไส้เทียน (Real Body) ขนาดใหญ่ ในขณะที่ส่วนเงา (Shadow/Wick) มีขนาดเล็กมากหรือแทบไม่มีเลย [อ่านเนื้อหา]
PDL และ PDH คืออะไร PDL ย่อมาจาก Previous Day Low หมายถึงจุดต่ำสุดของราคาในวันก่อนหน้า PDH ย่อมาจาก Previous Day High หมายถึงจุดสูงสุดของราคาในวันก่อนหน้า แม้จะเป็นแนวคิดที่เข้าใจง่าย แต่ PDL และ PDH มีความสำคัญอย่างมากต่อการเทรดระยะสั้นแบบ Day Trade เนื่องจาก: เป็นระดับราคาสำคัญที่สะท้อนถึงแนวโน้มและความรู้สึกของตลาดในวันก่อนหน้า มักจะกลายเป็นแนวรับ/แนวต้านชั่วคราว ที่นักเทรดจำนวนมากจับตามองและวางคำสั่งซื้อขายเอาไว้ ราคามักจะมีปฏิกิริยาที่น่าสนใจ เมื่อเทียบกับระดับ PDL / PDH เช่น อาจมีการรีบาวน์ หรือเบรคผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว ประโยชน์ของการดู PDL / PDH สำหรับ Day Trader ใช้วัดความแข็งแกร่ง/อ่อนแอของราคา หากราคาเปิดมาอยู่เหนือ PDH และสามารถรักษาระดับไว้ได้ตลอดช่วงแรก แสดงถึงแรงซื้อที่มากกว่า บ่งบอกถึงโอกาสในการเทรดตามเทรนด์ขาขึ้น หากราคาร่วงหลุด PDL ตั้งแต่ช่วงแรก และไม่สามารถกลับขึ้นมาได้ แสดงถึงแรงขายที่มีมากกว่า บ่งบอกถึงโอกาสในการชอร์ตตามเทรนด์ขาลง [อ่านเนื้อหา]