สรุปรีวิวหนังสือ Think & Grow Rich for the Modern Reader คิดให้รวย

หนังสือ Think & Grow Rich for the Modern Reader คิดให้รวย
หนังสือ Think & Grow Rich for the Modern Reader คิดให้รวย

ข้อมูลทั่วไป

ชื่อหนังสือ : Think & Grow Rich (คิดให้รวย)

ชื่อผู้แต่ง : Napoleon Hill (นโปเลียน ฮิลล์)

สำนักพิมพ์ : เนชั่นบุ๊คส์

ปีที่พิมพ์ : 2563

จำนวนหน้า : 172 หน้า

สารบัญ

  • บทที่ 1 เคล็ดลับแห่งความสำเร็จ
  • บทที่ 2 ความคิดคือสินทรัพย์
  • บทที่ 3 ปณิธาน
  • บทที่ 4 ศรัทธาในศักยภาพของตัวเอง
  • บทที่ 5 การเสนอแนะตัวเอง
  • บทที่ 6 ความรู้เฉพาะทาง
  • บทที่ 7 จินตนาการ
  • บทที่ 8 การวางแผนอย่างเป็นระบบ
  • บทที่ 9 กล้าตัดสินใจ
  • บทที่ 10 ความมุ่งมั่น
  • บทที่ 11 พลังแห่งการระดมความคิด
  • บทที่ 12 สัมพันธภาพทางเพศ
  • บทที่ 13 จิตใต้สำนึก
  • บทที่ 14 ศักยภาพแห่งสมอง
  • บทที่ 15 ประสาทสัมผัสที่ 6
  • บทที่ 16 หกปีศาจร้ายแห่งความกลัว

สรุปข้อคิดจากหนังสือ

หนังสือ “Think & Grow Rich” หรือ “คิดให้รวย” ของนโปเลียน ฮิลล์ ถือเป็นตำราปรัชญาแห่งความสำเร็จที่มีอิทธิพลมากที่สุดเล่มหนึ่งในโลก นโปเลียน ฮิลล์ได้ใช้เวลากว่า 20 ปีในการศึกษาและสัมภาษณ์บุคคลที่ประสบความสำเร็จในยุคนั้น อาทิ โทมัส เอดิสัน, เฮนรี่ ฟอร์ด, แอนดรูว์ คาร์เนกี และอีกหลายร้อยคน เพื่อค้นหา “เคล็ดลับ” ที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่

เคล็ดลับที่ฮิลล์ค้นพบไม่ได้เน้นเรื่องการ “ทำงานหนักให้รวย” แต่เน้นที่ “คิด” และ “คิดให้ต่าง” โดยนำเสนอหลักการ 13 ประการที่จะช่วยให้บรรลุความมั่งคั่งและความสำเร็จในชีวิต พร้อมกับวิธีการขจัด “ปีศาจร้ายแห่งความกลัว” 6 ประการที่ขัดขวางความสำเร็จ

1. ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและมีปณิธานอันแรงกล้า

จุดเริ่มต้นของความมั่งคั่งคือการมีเป้าหมายที่ชัดเจนและแน่วแน่ ฮิลล์ยกตัวอย่างเรื่องราวของ เอ็ดวิน ซี. บาร์นส์ ที่มีปณิธานอันแรงกล้าที่จะเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับ โทมัส เอดิสัน แม้ในตอนแรกเขาจะไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อตั๋วรถไฟไปพบเอดิสัน แต่ด้วยความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อ เขาก้าวเข้าไปทำงานกับเอดิสันในตำแหน่งต่ำต้อยก่อน และในที่สุดก็ได้เป็นหุ้นส่วนธุรกิจเครื่องพิมพ์ดีดรุ่นใหม่ของเอดิสัน จนประสบความสำเร็จและร่ำรวย

ฮิลล์แนะนำให้เขียนเป้าหมายที่ชัดเจน ทั้งจำนวนเงินที่ต้องการ วันที่จะได้รับ และแผนการที่จะทำให้สำเร็จ พร้อมอ่านข้อความนั้นออกเสียงวันละสองครั้งทั้งเช้าและก่อนนอน ซึ่งเป็นวิธีที่จะนำพาเป้าหมายเข้าไปสู่จิตใต้สำนึก

2. ศรัทธาในศักยภาพของตัวเอง

ศรัทธาเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ปณิธานเป็นจริง ถ้าไม่เชื่อว่าตัวเองสามารถทำได้ ก็จะไม่มีทางประสบความสำเร็จ ศรัทธาเป็นสภาวะจิตใจที่สามารถสร้างได้ผ่านการเสนอแนะตัวเอง โดยเฉพาะเมื่อผสมผสานกับอารมณ์เชิงบวกอย่างศรัทธา ความรัก หรือกามารมณ์

ฮิลล์เปรียบเทียบศรัทธาเป็นเหมือน “น้ำทิพย์อมตะ” ที่ให้ชีวิต พลัง และผลในทางปฏิบัติแก่พลังความคิด เป็นจุดเริ่มต้นของความมั่งคั่ง และเป็นภูมิต้านทานความล้มเหลวเพียงอย่างเดียวที่รู้จัก

3. การเสนอแนะตัวเอง

การเสนอแนะตัวเองเป็นวิธีการที่จะนำความคิดที่มีพลังเข้าสู่จิตใต้สำนึก ไม่ใช่แค่คิดแต่ต้องพูดออกมาด้วย โดยเฉพาะช่วงก่อนเข้านอนและหลังตื่นนอน เพราะเป็นช่วงที่จิตใต้สำนึกไวต่อการรับข้อมูล

ฮิลล์แนะนำให้เขียนปณิธานเป็นข้อความที่ชัดเจน ซึ่งระบุจำนวนเงิน กรอบเวลา สิ่งที่จะทำ และแผนการ จากนั้นให้อ่านออกเสียงพร้อมสร้างมโนภาพว่าได้ครอบครองเงินนั้นแล้ว จิตใต้สำนึกจะทำงานตอบสนองต่อคำแนะนำที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกเท่านั้น

4. แสวงหาความรู้เฉพาะทาง

ความรู้ทั่วไปมีประโยชน์น้อยในการสร้างความมั่งคั่ง แต่ความรู้เฉพาะทางต่างหากที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จ ฮิลล์เน้นว่าความรู้จะไม่มีคุณค่าเลยถ้าไม่นำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดผลจริง นอกจากนี้เรายังไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่อง แต่ต้องรู้วิธีหาความรู้และรู้จักระดมความคิดจากผู้รู้

หนังสือยกตัวอย่างเรื่องราวของ แมรี่ เคย์ แอช ผู้ก่อตั้ง Mary Kay Cosmetics ที่ใช้ความรู้เฉพาะทางด้านการขายผลิตภัณฑ์ความงามมาสร้างธุรกิจมูลค่าพันล้านดอลลาร์ โดยเริ่มต้นจากเงินเพียง 5,000 ดอลลาร์

5. ใช้จินตนาการอย่างสร้างสรรค์

ฮิลล์กล่าวถึงจินตนาการ 2 แบบ คือ “จินตนาการสังเคราะห์” (Synthetic Imagination) ซึ่งเป็นการนำความคิดหรือประสบการณ์เดิมมาผสมผสานกัน และ “จินตนาการสร้างสรรค์” (Creative Imagination) ซึ่งเชื่อมโยงกับอัจฉริยภาพแห่งจักรวาล (Infinite Intelligence) และเป็นแหล่งที่มาของความคิดและแรงบันดาลใจใหม่ๆ

จินตนาการเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างแผนการและเปลี่ยนความคิดให้เป็นรูปธรรม ไอเดียดีๆ มักมาจากจินตนาการ และถ้าใช้จินตนาการอย่างถูกวิธี จะสามารถมองเห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่คนอื่นมองไม่เห็น

6. วางแผนอย่างเป็นระบบ

ปณิธานอย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องมีแผนการที่เป็นระบบเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมาย ฮิลล์แนะนำให้ใช้หลักการ “ระดมความคิด” (Mastermind) โดยรวมกลุ่มคนที่มีความรู้ความสามารถต่างกันมาช่วยคิดและวางแผน

สิ่งสำคัญคือต้องไม่ย่อท้อเมื่อแผนแรกล้มเหลว แต่ต้องสร้างแผนใหม่และลองอีกครั้ง แผนงานที่ดีต้องมีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ร่วมกัน และมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสมาชิกในทีม

7. กล้าตัดสินใจอย่างรวดเร็วและแน่วแน่

คนที่ประสบความสำเร็จมักตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและไม่เปลี่ยนใจง่ายๆ ในทางตรงกันข้าม คนที่ล้มเหลวมักลังเลไม่กล้าตัดสินใจ หรือถูกชักจูงด้วยความคิดเห็นของผู้อื่นง่ายเกินไป

ฮิลล์ยกตัวอย่างเฮนรี่ ฟอร์ด ที่ตัดสินใจสร้างเครื่องยนต์ V8 ทั้งๆ ที่วิศวกรบอกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ด้วยความแน่วแน่ในการตัดสินใจ ฟอร์ดสั่งให้ทีมวิศวกรทำงานต่อไปจนในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ

8. มีความมุ่งมั่น ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค

ความมุ่งมั่นเป็นปัจจัยสำคัญในการแปรเปลี่ยนปณิธานไปเป็นเงินทอง โดยฮิลล์ได้ยกตัวอย่างเรื่องราวของ อาร์ ยู ดาร์บี้ กับเหมืองทองคำที่เขาเลิกขุดไปเพียง 3 ฟุตก่อนจะถึงแหล่งทองคำที่อุดมสมบูรณ์ แสดงให้เห็นว่าคนเรามักล้มเลิกเมื่อเจออุปสรรคทั้งที่อาจอยู่ใกล้ความสำเร็จแล้ว

ความมุ่งมั่นเป็นสภาวะของจิตใจที่สามารถพัฒนาได้ผ่านการมีเป้าหมายที่ชัดเจน มีปณิธาน มีความเชื่อมั่นในตัวเอง มีแผนการที่ชัดเจน รู้จริงในสิ่งที่ทำ มีความร่วมมือกับผู้อื่น และมีพลังแห่งความตั้งใจ

9. ใช้พลังแห่งการระดมความคิด

ฮิลล์กล่าวถึงพลังที่เกิดจากการรวมกลุ่มคนที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญต่างกันมาทำงานร่วมกัน เรียกว่า “Mastermind” หรือ “การระดมความคิด” ซึ่งก่อให้เกิดพลัง 2 ประการ คือ พลังทางเศรษฐกิจและพลังจิต

พลังนี้เปรียบเสมือนแบตเตอรี่หลายตัวที่ให้พลังงานมากกว่าแบตเตอรี่ตัวเดียว เมื่อสมองของหลายคนมาเชื่อมโยงกันด้วยความสมัครสมานสามัคคี จะเกิดพลังความคิดที่ยิ่งใหญ่กว่าสมองของคนคนเดียว

10. ใช้เสน่ห์ดึงดูดและพลังอารมณ์เชิงบวก

ฮิลล์กล่าวถึง “สัมพันธภาพทางเพศ” หรือ “เสน่ห์ดึงดูด” ว่าเป็นพลังสำคัญที่สามารถแปรเปลี่ยนเป็นพลังสร้างสรรค์ได้ อารมณ์เชิงบวกอย่างศรัทธา ความรัก และความปรารถนา สามารถกระตุ้นจิตใจให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นักขาย นักพูด ผู้นำ หรือคนที่ต้องโน้มน้าวผู้อื่น ล้วนต้องมีเสน่ห์ดึงดูดที่จะทำให้ผู้อื่นคล้อยตาม เสน่ห์นี้แสดงออกผ่านการจับมือ น้ำเสียง กิริยาท่าทาง บุคลิกภาพ และการแต่งกาย

11. เข้าใจและใช้พลังจิตใต้สำนึก

จิตใต้สำนึกเป็นสื่อกลางที่เชื่อมต่อระหว่างจิตสำนึกกับ “อัจฉริยภาพแห่งจักรวาล” จิตใต้สำนึกจะรับและเก็บข้อมูลทุกอย่างโดยไม่มีการคัดกรอง ดังนั้นต้องระวังอย่าให้ความคิดเชิงลบเข้าไปอยู่ในจิตใต้สำนึก

ฮิลล์เปรียบเทียบการสื่อสารกับอัจฉริยภาพแห่งจักรวาลเหมือนการส่งคลื่นวิทยุ โดยจิตใต้สำนึกเป็นเหมือนเครื่องส่งที่แปลงความคิดให้อยู่ในรูปแบบที่อัจฉริยภาพแห่งจักรวาลจะรับรู้ได้ และส่งกลับมาเป็นแผนการหรือไอเดียที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมาย

12. เข้าใจศักยภาพแห่งสมอง

ฮิลล์เชื่อว่าสมองมนุษย์เป็นทั้งสถานีส่งและรับคลื่นความคิด สามารถรับความคิดจากผู้อื่นและส่งความคิดไปยังผู้อื่นได้ คล้ายกับระบบรับส่งวิทยุ โดยเฉพาะเมื่อจิตใจถูกกระตุ้นด้วยอารมณ์

การทำงานร่วมกันเป็นทีมโดยใช้หลักการระดมความคิด จะช่วยให้สมาชิกแต่ละคนเรียนรู้ที่จะเข้าใจความคิดของกันและกัน และสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ดีขึ้น ยิ่งใช้มากก็ยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น

13. พัฒนา “ประสาทสัมผัสที่ 6” หรือญาณหยั่งรู้

ฮิลล์กล่าวถึง “ประสาทสัมผัสที่ 6” หรือ “ญาณหยั่งรู้” ว่าเป็นช่องทางที่อัจฉริยภาพแห่งจักรวาลใช้สื่อสารกับเรา เป็นแหล่งที่มาของความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจ

ในการพัฒนาประสาทสัมผัสที่ 6 ฮิลล์แนะนำให้ใช้จินตนาการสร้างที่ปรึกษาในอุดมคติ (Invisible Counselors) โดยนึกภาพตัวเองนั่งประชุมกับบุคคลที่เรานับถือ และลองสร้างบทสนทนากับพวกเขาในจินตนาการ วิธีนี้จะช่วยพัฒนาบุคลิกภาพและความคิดของเราให้เหมือนบุคคลที่เรานับถือ

14. เอาชนะปีศาจร้ายแห่งความกลัวทั้ง 6

บทสุดท้ายของหนังสือกล่าวถึง “ปีศาจร้ายแห่งความกลัว” 6 ประการที่ขัดขวางความสำเร็จ ได้แก่:

  1. ความกลัวความยากจน – ทำให้ขาดความกระตือรือร้น ไม่กล้าตัดสินใจ ลังเลสงสัย วิตกกังวลเกินเหตุ และชอบผัดวันประกันพรุ่ง
  2. ความกลัวการถูกวิพากษ์วิจารณ์ – ทำให้ขาดความมั่นใจ มีบุคลิกภาพอ่อนแอ รู้สึกด้อย ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเพื่อสร้างภาพ และไม่กล้าริเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ
  3. ความกลัวความเจ็บป่วย – ทำให้คิดแต่เรื่องโรคภัย ไม่ออกกำลังกาย ภูมิต้านทานลดลง และพึ่งพาสารเสพติดเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด
  4. ความกลัวการสูญเสียคนที่รัก – ทำให้เกิดความอิจฉาริษยา ชอบจับผิด และอาจนำไปสู่พฤติกรรมเสี่ยง
  5. ความกลัวความแก่ชรา – ทำให้ขาดความกระตือรือร้น คิดแต่เรื่องอายุมาก และพยายามทำตัวหนุ่มสาวเกินวัย
  6. ความกลัวความตาย – ทำให้หมกมุ่นกับความตายแทนที่จะใช้ชีวิตให้คุ้มค่า

ฮิลล์เน้นว่าสิ่งเดียวที่เราควบคุมได้อย่างสมบูรณ์คือความคิดของเราเอง ความกลัวเป็นเพียงสภาวะของจิตใจ เราสามารถเอาชนะได้ด้วยการมีระเบียบวินัยในตัวเอง ยุ่งอยู่กับเป้าหมายที่ชัดเจน และมีแผนการที่เป็นระบบ

สรุป

“Think & Grow Rich” ไม่ใช่แค่หนังสือที่สอนวิธีสร้างความมั่งคั่งทางการเงิน แต่ยังเป็นปรัชญาแห่งความสำเร็จที่ครอบคลุมทุกมิติของชีวิต หลักการสำคัญที่ฮิลล์นำเสนอคือ การเริ่มต้นจากความคิด (Think) ที่ถูกต้อง มีเป้าหมายชัดเจน มีปณิธานแรงกล้า มีศรัทธาในศักยภาพของตัวเอง กล้าตัดสินใจ มีความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อ และรู้จักใช้พลังจิตใต้สำนึก

แนวคิดของฮิลล์อาจดูเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติสำหรับบางคน แต่หลายหลักการก็สอดคล้องกับการค้นพบทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่เกี่ยวกับพลังของจิตใจและการตั้งเป้าหมาย ไม่ว่าจะเชื่อในเรื่อง “อัจฉริยภาพแห่งจักรวาล” หรือไม่ แต่การฝึกคิดเชิงบวก มีวินัยในตัวเอง และมุ่งมั่นสู่เป้าหมายอย่างไม่ย่อท้อ ล้วนเป็นคุณสมบัติที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จได้จริง

หากนำหลักการในหนังสือไปประยุกต์ใช้อย่างถูกต้อง ไม่เพียงแต่จะช่วยให้บรรลุความมั่งคั่งทางการเงินเท่านั้น แต่ยังจะช่วยให้ชีวิตมีความสุข มีความหมาย และประสบความสำเร็จในทุกด้านอีกด้วย