
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อหนังสือ : Principles (หลักการ)
ชื่อผู้แต่ง : Ray Dalio (เรย์ ดาลิโอ)
สำนักพิมพ์ : เอ็นซิกซ์/Nsix
ปีที่พิมพ์ : 2017
จำนวนหน้า : 264 หน้า
สารบัญ
- พาร์ทที่ 1: ชีวิตของ เรย์ ดาลิโอ และผู้สร้างความเปลี่ยนแปลง
- พาร์ทที่ 2: หลักการแห่งชีวิต (Life Principle)
- พาร์ทที่ 3: หลักการในการทำงาน (Work Principle)
สรุปข้อคิดจากหนังสือ
หนังสือเล่มนี้นำเสนอหลักการและแนวคิดของ เรย์ ดาลิโอ ผู้ก่อตั้งกองทุนบริหารความเสี่ยง Bridgewater Associates ซึ่งเป็นกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก เรย์ได้แบ่งปันหลักการที่เขาใช้ในการดำเนินชีวิตและการทำงาน ซึ่งเป็นหลักการที่ช่วยให้เขาประสบความสำเร็จในทั้งด้านชีวิตส่วนตัวและธุรกิจ
1. ยอมรับความเป็นจริง และจัดการกับมัน
เรย์เชื่อว่าการยอมรับความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือร้าย เป็นพื้นฐานสำคัญของการตัดสินใจที่ดี คนที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่นักเพ้อฝัน แต่เป็นคนที่ยึดถือความจริงอย่างมาก (hyperrealist) เขามองว่าสมการแห่งความสำเร็จคือ “ความฝัน + ความจริง + ความตั้งใจ = ชีวิตที่ประสบความสำเร็จ” การยอมรับความเป็นจริงทำให้เราเห็นปัญหาและจุดอ่อนของตัวเอง ซึ่งเป็นก้าวแรกของการพัฒนา ถ้าเราปฏิเสธความเป็นจริง เราจะไม่มีวันพัฒนาตัวเองได้
2. นำการล้มเหลวมาเป็นโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนา
เรย์มองว่า “ความเจ็บปวด + การสะท้อนคิด = ความก้าวหน้า” การล้มเหลวและความผิดพลาดไม่ใช่สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง แต่เป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ในการเรียนรู้และพัฒนา เขาแนะนำให้มองความล้มเหลวเป็นเหมือน “บทเรียนที่มีค่า” ที่ช่วยให้เราเติบโตและแข็งแกร่งขึ้น การหลีกเลี่ยงความล้มเหลวเพียงเพราะกลัวความเจ็บปวดจะทำให้เราพลาดโอกาสในการพัฒนาตัวเอง
3. ใช้ 5 ขั้นตอนเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการในชีวิต
เรย์แนะนำ 5 ขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายในชีวิต:
- มีเป้าหมายที่ชัดเจน
- ระบุปัญหาให้ชัดและไม่ยอมให้ปัญหาเหล่านั้นมาขวางทางระหว่างตัวคุณกับการบรรลุเป้าหมาย
- วินิจฉัยปัญหาให้ถึงแก่นว่าอะไรคือต้นเหตุที่แท้จริง
- คิดแผนการที่จะจัดการกับปัญหาเหล่านั้น
- ทำให้แผนเกิดผลจริง ไม่ว่าจะต้องลงทุนอย่างไรก็ตาม
สิ่งสำคัญคือต้องทำตามลำดับขั้นตอน และในแต่ละขั้นตอน ต้องทำอย่างเต็มที่โดยไม่กังวลกับขั้นตอนถัดไปมากเกินไป
4. เป็นคนใจกว้างอย่างแท้จริง
การเป็นคนใจกว้างหรือ “Radically Open-Minded” คือกุญแจสำคัญสู่การพัฒนาและการตัดสินใจที่ดี เรย์เชื่อว่ามนุษย์มีอุปสรรค 2 อย่างที่ขัดขวางการเปิดใจ คือ “อีโก้” และ “จุดบอด” อีโก้คือความต้องการที่จะ “ถูก” มากกว่าการหา “ความจริง” ส่วนจุดบอดคือการที่เรามองไม่เห็นมุมมองของคนอื่นเพราะสมองเราคุ้นเคยกับการคิดในกรอบเดิม
การเปิดใจกว้างหมายถึงการยอมรับว่าเราอาจผิดได้ และพร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง โดยเฉพาะจากคนที่ไม่เห็นด้วยกับเรา คนที่เปิดใจกว้างจะถามคำถามมากกว่าแจ้งให้ทราบ และพยายามเข้าใจมุมมองของคนอื่นก่อนจะให้คนอื่นเข้าใจมุมมองของตน
5. เข้าใจความแตกต่างของคน
คนแต่ละคนมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน บางคนคิดเร็ว บางคนคิดช้า บางคนเก่งเรื่องภาพรวม บางคนเก่งเรื่องรายละเอียด เรย์เชื่อว่าการเข้าใจความแตกต่างนี้จะช่วยให้เราทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดีขึ้น และรู้ว่าควรมอบหมายงานอะไรให้ใคร
ลักษณะเฉพาะตัวมักเป็นเหมือนดาบสองคม ยิ่งลักษณะนั้นสุดโต่งเท่าไร ผลบวกหรือลบของมันก็จะยิ่งสุดโต่งตามไปด้วย เช่น คนที่มีความคิดสร้างสรรค์สูงอาจไม่ให้ความสำคัญกับรายละเอียด ในขณะที่คนที่ทำงานละเอียดอาจขาดความคิดสร้างสรรค์ การรู้จุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเองและผู้อื่นจะช่วยให้สร้างทีมที่มีความสมดุลและทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6. เรียนรู้วิธีการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ
การตัดสินใจที่ดีต้องอาศัยข้อมูลที่ถูกต้องและมุมมองที่หลากหลาย เรย์แนะนำให้เราระวังข้อผิดพลาดทั่วไปในการตัดสินใจ เช่น การเชื่อทุกอย่างที่ได้ยิน การให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ปัจจุบันมากเกินไป หรือการหลงใหลในสิ่งใหม่โดยไม่พิจารณาคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่แล้ว
เขาเสนอแนวคิด “แนวคิดเชิงความสามารถนิยม” (Idea Meritocracy) ซึ่งเป็นการให้น้ำหนักความคิดเห็นตามความเชี่ยวชาญและผลงานที่ผ่านมา ไม่ใช่ตามตำแหน่งหรือความอาวุโส คนที่มีความน่าเชื่อถือในการตัดสินใจคือคนที่เคยทำสำเร็จมาแล้วในเรื่องนั้น หรือสามารถอธิบายเหตุและผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
7. สร้างองค์กรแบบ “แนวคิดเชิงความสามารถนิยม”
เรย์มองว่าองค์กรคือเครื่องจักรที่ประกอบด้วย 2 ส่วนสำคัญ คือ คนและวัฒนธรรม เขาเชื่อว่าความสำเร็จขององค์กรขึ้นอยู่กับการได้คนที่ถูกต้องและการสร้างวัฒนธรรมที่เหมาะสม
องค์กรแบบ “แนวคิดเชิงความสามารถนิยม” คือองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความจริง ความโปร่งใส และการถ่วงน้ำหนักการตัดสินใจตามความเชี่ยวชาญ ไม่ใช่ตำแหน่งหรืออาวุโส ในองค์กรแบบนี้ ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น แต่ไม่ใช่ทุกความคิดเห็นจะมีน้ำหนักเท่ากัน ความคิดเห็นของผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและผลงานที่ผ่านมาในเรื่องนั้นจะมีน้ำหนักมากกว่า
8. จ้างคนที่ถูกต้อง เพราะโทษของการจ้างคนผิดนั้นรุนแรง
เรย์เน้นย้ำความสำคัญของการจ้างคนที่เหมาะสม เขาแนะนำให้พิจารณาจาก 3 ด้าน คือ:
- คุณค่า: ความเชื่อพื้นฐานที่ส่งผลต่อการกระทำ ซึ่งเปลี่ยนแปลงได้ยากที่สุด
- ความสามารถ: วิธีคิดและการปฏิบัติตัว เช่น ความสามารถในการเรียนรู้เร็ว หรือการมองภาพรวม
- ทักษะ: ความสามารถเฉพาะด้านที่สามารถฝึกฝนได้
เรย์ให้ความสำคัญกับคุณค่ามากที่สุด ตามด้วยความสามารถ และทักษะเป็นอันดับสุดท้าย แต่หลายองค์กรมักทำตรงกันข้าม คือดูทักษะก่อน แล้วค่อยพิจารณาความสามารถ ในขณะที่มองข้ามคุณค่าไป
9. สร้างวัฒนธรรมที่ยอมรับความผิดพลาดและเรียนรู้จากมัน
องค์กรที่ประสบความสำเร็จต้องมีวัฒนธรรมที่เปิดกว้างต่อความผิดพลาด เพราะทุกคนล้วนทำผิดพลาด สิ่งที่แตกต่างกันคือการเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น เรย์เชื่อว่าการสร้างสภาพแวดล้อมที่ทุกคนรู้สึกปลอดภัยที่จะยอมรับความผิดพลาดและเรียนรู้จากมัน จะทำให้องค์กรพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยอมรับไม่ได้คือการทำผิดพลาดซ้ำๆ โดยไม่เรียนรู้หรือพัฒนา เรย์มักพูดว่า “ความเจ็บปวด + การสะท้อนคิด = ความก้าวหน้า” ซึ่งหมายความว่าความผิดพลาดและความเจ็บปวดจะนำไปสู่การพัฒนาได้ ก็ต่อเมื่อเรานำมันมาพิจารณาอย่างจริงจัง
10. เชื่อมั่นในความจริงและความโปร่งใส
เรย์เชื่อว่าความจริงและความโปร่งใสเป็นพื้นฐานของการตัดสินใจที่ดีและการพัฒนาที่ยั่งยืน เขาส่งเสริมให้ทุกคนในองค์กร รวมถึงตัวเขาเอง พูดความจริงและเปิดเผยข้อมูล แม้แต่ความผิดพลาดและจุดอ่อน
เขามองว่าการปกปิดความจริงเพื่อปกป้องความรู้สึกของคนอื่นเป็นการกระทำที่ไม่จริงใจและไม่เป็นประโยชน์ในระยะยาว เปรียบเสมือนการบอกเด็กๆ ว่าซานตาคลอสมีจริง ซึ่งอาจทำให้พวกเขามีความสุขในตอนนี้ แต่จะทำให้พวกเขาขาดความไว้วางใจเมื่อรู้ความจริงในภายหลัง
11. วินิจฉัยเพื่อหาต้นเหตุที่แท้จริงของปัญหา
เมื่อเกิดปัญหา สิ่งสำคัญคือการหาต้นเหตุที่แท้จริง ไม่ใช่แค่แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เรย์เตือนว่าความผิดพลาดที่พบบ่อยคือการแก้ปัญหาเหมือนเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว มันอาจเป็นปัญหาเชิงระบบที่ต้องแก้ที่การออกแบบระบบงานใหม่
การวินิจฉัยปัญหาอย่างละเอียดอาจใช้เวลามากกว่า แต่จะเกิดประโยชน์มากกว่าในระยะยาว เพราะจะช่วยป้องกันไม่ให้ปัญหาเดิมเกิดขึ้นซ้ำ เรย์แนะนำให้ใช้คำถามง่ายๆ ในการวินิจฉัยปัญหา เช่น ผลลัพธ์ออกมาดีหรือแย่ ใครเป็นผู้รับผิดชอบ และถ้าผลลัพธ์แย่ มันเกิดจากความสามารถของคนหรือการออกแบบระบบที่ไม่ดี
12. มองชีวิตและงานเป็นวิวัฒนาการที่ไม่หยุดนิ่ง
เรย์มองว่าความสำเร็จไม่ใช่จุดหมายปลายทาง แต่เป็นกระบวนการวิวัฒนาการที่ไม่มีวันจบ เขาเชื่อว่าความพึงพอใจที่แท้จริงไม่ได้มาจากการบรรลุเป้าหมาย แต่มาจาก “การต่อสู้ที่มีความหมาย” ต่างหาก
แม้จะประสบความสำเร็จมากมาย เรย์ยังคงเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เขาเชื่อว่า “วิวัฒนาการคือความสำเร็จสูงสุดของชีวิตและเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” การเรียนรู้ ล้มเหลว และพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่งคือกุญแจสู่ชีวิตที่มีความหมายและความสำเร็จที่ยั่งยืน
สรุป
หนังสือ Principles ของ เรย์ ดาลิโอ นำเสนอหลักการที่มีคุณค่าและใช้ได้จริงสำหรับการดำเนินชีวิตและการทำงาน เรย์ได้พิสูจน์แล้วว่าหลักการเหล่านี้ใช้ได้ผล ผ่านความสำเร็จของ Bridgewater Associates และชีวิตส่วนตัวของเขา
แนวคิดสำคัญที่เขานำเสนอ ได้แก่ การยอมรับความเป็นจริง การเรียนรู้จากความล้มเหลว การเป็นคนใจกว้าง การเข้าใจความแตกต่างของคน และการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ เขาเน้นย้ำความสำคัญของความจริงและความโปร่งใส การสร้างวัฒนธรรมที่เปิดรับความผิดพลาด และการวินิจฉัยเพื่อหาต้นเหตุที่แท้จริงของปัญหา
สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดของหนังสือเล่มนี้คือความเรียบง่ายและการนำไปใช้ได้จริงของหลักการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในชีวิตส่วนตัวหรือการทำงาน หลักการเหล่านี้ไม่ได้ล้าสมัยและสามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกยุคสมัย ซึ่งทำให้หนังสือเล่มนี้มีคุณค่าไม่น้อยไปกว่าการเรียน MBA ทีเดียว
หากมีโอกาส ผู้อ่านควรหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านซ้ำเป็นระยะ เพราะเมื่อสถานการณ์ในชีวิตเปลี่ยนไป สิ่งที่หนังสือเล่มนี้จะสื่อสารกับเราก็อาจเปลี่ยนไปด้วย และอาจพบข้อคิดใหม่ๆ ที่เหมาะสมกับช่วงชีวิตนั้นๆ