
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อหนังสือ : The Laws of Wealth มั่งคั่งด้วยกฎแห่งการลงทุน
ชื่อผู้แต่ง : Daniel Crosby (แดเนียล ครอสบี)
ผู้แปล : วิญญู กิ่งหิรัญวัฒนา
สำนักพิมพ์ : Live Rich
ปีที่พิมพ์ : 2023
จำนวนหน้า : 304 หน้า
สารบัญ
- บทนำ : เรื่องของพยาธิกับความร่ำรวย
- ตอนที่หนึ่ง : กฎแห่งการบริหารชีวิตเชิงพฤติกรรม
- ความย้อนแย้งของลิงกับชุดหรู
- กฎข้อ 1 : ปัจจัยสำคัญที่สุดอยู่ในมือคุณ
- กฎข้อ 2 : คุณทำสิ่งนี้คนเดียวไม่ได้
- กฎข้อ 3 : ปัญหาคือโอกาส
- กฎข้อ 4 : ถ้าคุณตื่นเต้นกับมัน แสดงว่ามันเป็นความคิดที่ไม่ดี
- กฎข้อ 5 : คุณไม่ใช่คนพิเศษ
- ตอนที่สอง : การลงทุนเชิงพฤติกรรม
- สถานการณ์การบริหารการเงิน
- การบริหารความเสี่ยงเชิงพฤติกรรม
- 4 ซีของการลงทุนเชิงพฤติกรรมตามกฎเกณฑ์
- 5 พีของการลงทุน
- บทส่งท้าย : การลงทุนเชิงพฤติกรรมในโลกอันบ้าคลั่ง
สรุปข้อคิดจากหนังสือ
หนังสือเล่มนี้นำเสนอมุมมองด้านจิตวิทยาการลงทุนโดย แดเนียล ครอสบี นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมการลงทุน ที่ได้รวบรวมกฎ 10 ข้อด้านจิตวิทยาที่มีพื้นฐานมาจากประวัติศาสตร์ของตลาดนับร้อยๆ ปี ซึ่งจำเป็นสำหรับการบริหารตัวเองบนเส้นทางของการสร้างความมั่งคั่ง หนังสือไม่ได้มุ่งตอบคำถามโดยตรงว่า “จะรวยได้อย่างไร?” หรือ “ควรลงทุนอย่างไร?” แต่เน้นวางหลักการพื้นฐานทางจิตวิทยาที่จะช่วยให้นักลงทุนเข้าใจตนเอง และรู้เท่าทันอารมณ์ที่มีผลต่อการตัดสินใจลงทุน
1. เข้าใจและยอมรับธรรมชาติของนักลงทุน
ครอสบีเริ่มต้นด้วยการชี้ให้เห็นว่านักลงทุนทุกคนมี “โรคที่รักษาไม่หาย” นั่นคือความโลภและความกลัว สองอารมณ์พื้นฐานนี้มีอิทธิพลอย่างมากต่อการตัดสินใจลงทุน และมักทำให้เกิดความผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า การเข้าใจและยอมรับว่าเรามีแนวโน้มที่จะถูกครอบงำโดยอารมณ์เหล่านี้ จะช่วยให้เราสามารถจัดการกับมันได้ดีขึ้น ไม่ว่านักลงทุนจะมีความรู้หรือประสบการณ์มากเพียงใด หากไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ ก็มีโอกาสสูงที่จะทำผิดพลาดในตลาด การรู้เท่าทันอารมณ์ตนเองจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน
2. ปัจจัยสำคัญที่สุดอยู่ในมือคุณ
หนึ่งในกฎข้อสำคัญที่ครอสบีเน้นย้ำคือ “ปัจจัยสำคัญที่สุดอยู่ในมือคุณ” ซึ่งหมายถึง การควบคุมตนเองและการตัดสินใจของคุณเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความสำเร็จในการลงทุนมากที่สุด ไม่ใช่ปัจจัยภายนอกอย่างสภาพเศรษฐกิจหรือการเคลื่อนไหวของตลาด แม้เราจะไม่สามารถควบคุมตลาดหรือเหตุการณ์โลกได้ แต่เราสามารถควบคุมการตอบสนองต่อเหตุการณ์เหล่านั้น การตัดสินใจ และพฤติกรรมการลงทุนของเราได้ การเข้าใจว่าความสำเร็จในการลงทุนขึ้นอยู่กับเราเป็นหลัก จะช่วยให้เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่เราควบคุมได้ แทนที่จะกังวลกับสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุม
3. คุณทำสิ่งนี้คนเดียวไม่ได้
แม้จะเน้นเรื่องการควบคุมตัวเอง แต่ครอสบีก็ชี้ให้เห็นว่าการลงทุนที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่สิ่งที่ทำคนเดียวได้ การมีที่ปรึกษาที่ดีหรือคนที่ช่วยตรวจสอบการตัดสินใจของเรา จะช่วยป้องกันเราจากอคติและความผิดพลาดของตัวเอง หนึ่งในข้อได้เปรียบของการมีที่ปรึกษาคือ พวกเขาไม่มีอารมณ์ผูกพันกับเงินของเราเหมือนตัวเรา จึงสามารถให้คำแนะนำที่เป็นกลางและมีเหตุผลมากกว่า การฟังคำแนะนำทางการเงินที่ดีไม่เพียงแต่ให้ผลดีทางการเงิน แต่ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจของเราด้วย
4. ปัญหาคือโอกาส
ครอสบีมองว่าช่วงเวลาที่ตลาดผันผวนหรือเกิดวิกฤตการณ์ไม่ใช่เวลาที่ควรหนีออกจากตลาด แต่เป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่มีความอดทน ในประวัติศาสตร์ของตลาดหุ้น ช่วงเวลาหลังวิกฤตมักเป็นช่วงที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุด ปัญหาสร้างโอกาสเพราะทำให้ราคาสินทรัพย์ลดลงต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ซึ่งเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่มีวินัยสามารถซื้อหุ้นดีๆ ในราคาที่ถูกลง อย่างไรก็ตาม การเห็นปัญหาเป็นโอกาสต้องอาศัยมุมมองระยะยาวและความสามารถในการควบคุมอารมณ์ความกลัวในช่วงที่ตลาดผันผวน
5. ถ้าคุณตื่นเต้นกับมัน แสดงว่ามันเป็นความคิดที่ไม่ดี
หนึ่งในกฎที่น่าสนใจคือ “ถ้าคุณตื่นเต้นกับมัน แสดงว่ามันเป็นความคิดที่ไม่ดี” ครอสบีเตือนว่าเมื่อใดก็ตามที่คุณรู้สึกตื่นเต้นมากเกินไปกับโอกาสการลงทุนใดๆ นั่นมักเป็นสัญญาณเตือนว่าอารมณ์กำลังครอบงำเหตุผลของคุณ การลงทุนที่ดีมักไม่ใช่เรื่องที่น่าตื่นเต้น แต่เป็นการตัดสินใจที่มีเหตุผล อาศัยข้อมูล และเป็นไปตามแผน เมื่อใดก็ตามที่เรารู้สึกตื่นเต้นหรืออยากรีบลงทุนเพื่อไม่ให้พลาดโอกาส นั่นเป็นเวลาที่เราควรหยุด คิดทบทวน และตรวจสอบแรงจูงใจของตัวเองให้ดี
6. คุณไม่ใช่คนพิเศษ
ครอสบีเตือนนักลงทุนให้ระวังความเชื่อที่ว่าตัวเองเป็นคนพิเศษ สามารถทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ เช่น เอาชนะตลาดได้อย่างสม่ำเสมอ หรือจับจังหวะตลาดได้อย่างแม่นยำ ความจริงก็คือ แม้แต่นักลงทุนมืออาชีพส่วนใหญ่ยังไม่สามารถเอาชนะตลาดได้ในระยะยาว การยอมรับข้อจำกัดของตัวเองและความจริงที่ว่าเราไม่ได้ฉลาดกว่าตลาด จะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงการเสี่ยงมากเกินไปและสร้างกลยุทธ์การลงทุนที่เป็นจริงและยั่งยืนมากขึ้น หากพบว่าผลตอบแทนของเราดีกว่าตลาดมากๆ นั่นอาจไม่ได้เกิดจากความเก่งกาจ แต่อาจเกิดจากการเสี่ยงมากเกินไปหรือเพียงแค่โชคช่วย
7. ความอดทนคือกุญแจสู่ความสำเร็จ
ในโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสารและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความอดทนกลับเป็นคุณสมบัติที่หายากและมีค่ามากสำหรับนักลงทุน ครอสบีเน้นย้ำว่า “ไม่ว่าอุตสาหกรรมการเงินจะมีนวัตกรรมก้าวหน้าเพียงใด ความอดทนก็ยังคงเป็นตัวปรับสมดุลที่ดีมากในตลาดเงิน” นอกจากนี้ “หนึ่งในข้อได้เปรียบที่สุดที่คนธรรมดามีต่อมืออาชีพคือ ศักยภาพในการอดทนรอ” นักลงทุนรายย่อยไม่มีแรงกดดันที่ต้องสร้างผลงานระยะสั้นเหมือนผู้จัดการกองทุน จึงสามารถมองการลงทุนในระยะยาวและอดทนผ่านช่วงเวลาที่ตลาดผันผวนได้ดีกว่า
8. เตรียมพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอน
การลงทุนเกี่ยวข้องกับอนาคตซึ่งไม่มีใครสามารถทำนายได้อย่างแม่นยำ ครอสบีแนะนำให้ “เตรียมเงินไว้เผื่อต้องอดในเวลาที่มีกินและเผื่อการกินในเวลาที่อด” หมายถึง การวางแผนรับมือกับทั้งสถานการณ์ดีและร้าย การมีเงินสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉิน การกระจายการลงทุน และการไม่นำเงินทั้งหมดไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง นอกจากนี้ ยังต้องระวัง “สิ่งที่มากเกินนั้นไม่ยั่งยืน” ไม่ว่าจะเป็นตลาดขาขึ้นหรือขาลง ทุกสิ่งล้วนไม่ยั่งยืนและจะกลับสู่ค่าเฉลี่ยในที่สุด การเข้าใจหลักการนี้จะช่วยให้นักลงทุนไม่หลงไปกับกระแสตลาดมากเกินไป
9. การบริหารความเสี่ยงที่แท้จริง
ครอสบีเน้นว่าการบริหารความเสี่ยงที่แท้จริงไม่ใช่แค่การกระจายการลงทุน แต่รวมถึงการตรวจสอบความมั่นคงของบริษัทที่เราจะลงทุนด้วย การลงทุนในบริษัทที่มีฐานะการเงินมั่นคง มีธุรกิจที่เข้าใจง่าย และมีผู้บริหารที่น่าเชื่อถือ จะช่วยลดความเสี่ยงได้มากกว่าการกระจายการลงทุนไปในหลายบริษัทที่ไม่มีคุณภาพ นอกจากนี้ การบริหารความเสี่ยงยังหมายถึงการระวังไม่ให้เกิด “รวยเร็วและจนเร็ว คือสองด้านของเหรียญเดียวกัน” การพยายามสร้างผลตอบแทนสูงมากในระยะสั้นมักมาพร้อมกับความเสี่ยงสูงเช่นกัน
10. ความเรียบง่ายคือความซับซ้อนขั้นสูงสุด
ครอสบีสนับสนุนแนวคิดที่ว่า “ความเรียบง่ายคือความซับซ้อนขั้นสูงสุด” ในโลกการลงทุนที่เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ซับซ้อนและเทคนิคการวิเคราะห์มากมาย การยึดมั่นในหลักการลงทุนพื้นฐานที่เรียบง่ายกลับเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า เช่น การลงทุนอย่างสม่ำเสมอ การกระจายความเสี่ยง การลงทุนในสิ่งที่เข้าใจ และการมองระยะยาว การลงทุนที่ซับซ้อนมักนำไปสู่ความผิดพลาดและค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น โดยไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า
11. แตกต่างเพื่อกำไร
ในตลาดการลงทุน การทำเหมือนคนส่วนใหญ่มักนำไปสู่ผลตอบแทนเฉลี่ยหรือต่ำกว่าเฉลี่ย ครอสบีชี้ให้เห็นว่า “แตกต่างเพื่อกำไร” หมายถึง การกล้าที่จะมีมุมมองและการตัดสินใจที่แตกต่างจากฝูงชน โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความโลภหรือความกลัวสูง การมีความกล้าที่จะเดินสวนทางกับคนส่วนใหญ่ เช่น การซื้อเมื่อคนอื่นกลัวและขายเมื่อคนอื่นโลภ เป็นวิธีที่จะสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าตลาด อย่างไรก็ตาม การแตกต่างต้องมาจากการวิเคราะห์และเหตุผลที่ดี ไม่ใช่เพียงเพื่อต่อต้านกระแสหลักเท่านั้น
12. ความกล้าในการลงทุน
ครอสบีให้นิยามที่น่าสนใจว่า “ความกล้าคือมีความกลัวสุดขีด แล้วยังเดินหน้าต่อไปอยู่ดี” นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่คนที่ไม่กลัว แต่เป็นคนที่รู้จักจัดการกับความกลัวและไม่ปล่อยให้มันมาขัดขวางการตัดสินใจ ความกล้าในการลงทุนไม่ได้หมายถึงการเสี่ยงมากขึ้น แต่หมายถึงการยึดมั่นในหลักการและกลยุทธ์ของตนเองแม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก การมีความกล้าที่จะเดินสวนทางกับฝูงชน การมีความกล้าที่จะรอ และการมีความกล้าที่จะยอมรับผิดเมื่อเราตัดสินใจผิดพลาด
13. ศัตรูตัวฉกาจที่สุดคือตัวของนักลงทุนเอง
ข้อคิดที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ “ปัญหาหลักของนักลงทุน หรือถึงขั้นเป็นศัตรูตัวฉลาดที่สุดก็คือตัวของนักลงทุนเอง” ความล้มเหลวในการลงทุนส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากการเลือกหุ้นหรือกองทุนที่ไม่ดี แต่เกิดจากพฤติกรรมและการตัดสินใจของตัวนักลงทุนเอง เช่น การซื้อขายบ่อยเกินไป การตามกระแส การตัดสินใจด้วยอารมณ์ และการขาดวินัยในการปฏิบัติตามแผน การเอาชนะตัวเองจึงเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการลงทุน
14. ซื้อถูกเท่ากับขายได้แล้วครึ่งหนึ่ง
ครอสบีเตือนว่าราคาที่คุณจ่ายเพื่อซื้อสินทรัพย์มีความสำคัญอย่างมากต่อผลตอบแทนในอนาคต “ถ้าซื้อมาถูก ก็เท่ากับขายได้แล้วครึ่งหนึ่ง” หมายความว่า การซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงจะช่วยสร้างความปลอดภัยและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในอนาคต แม้แต่หุ้นของบริษัทที่ดีที่สุดก็อาจเป็นการลงทุนที่แย่หากซื้อในราคาที่แพงเกินไป ในทางกลับกัน หุ้นของบริษัทธรรมดาก็อาจเป็นการลงทุนที่ดีหากซื้อในราคาที่ถูกมาก การให้ความสำคัญกับราคาที่จ่ายจะช่วยให้นักลงทุนมีความอดทนและรอโอกาสที่เหมาะสม
15. การลงทุนในโลกอันบ้าคลั่ง
ครอสบีปิดท้ายด้วยมุมมองเกี่ยวกับการลงทุนในโลกที่เต็มไปด้วยความผันผวนและความไม่แน่นอน ในโลกอันบ้าคลั่งนี้ การมีหลักการที่ชัดเจนและยึดมั่นในหลักการนั้นเป็นสิ่งสำคัญ นักลงทุนต้องรู้จักแยกแยะระหว่างเสียงรบกวนกับสัญญาณที่มีความหมาย รู้จักกรองข้อมูลข่าวสารที่มีมากมาย และไม่ตอบสนองต่อความผันผวนระยะสั้นมากเกินไป การมีกรอบความคิดและกระบวนการตัดสินใจที่ชัดเจนจะช่วยให้นักลงทุนสามารถนำทางผ่านตลาดที่ผันผวนและบรรลุเป้าหมายทางการเงินในระยะยาวได้
สรุป
“The Laws of Wealth มั่งคั่งด้วยกฎแห่งการลงทุน” ไม่ใช่หนังสือที่จะบอกว่าควรลงทุนในอะไร หรือจะรวยได้อย่างไรในเวลาอันรวดเร็ว แต่เป็นหนังสือที่มุ่งเน้นการสำรวจพฤติกรรมและจิตวิทยาของนักลงทุน เพื่อให้เข้าใจว่าจิตใจและอารมณ์ส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนอย่างไร
แดเนียล ครอสบี นำเสนอกฎ 10 ข้อที่จะช่วยให้นักลงทุนรู้เท่าทันตนเอง ควบคุมอารมณ์ และตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผลมากขึ้น หนังสือเน้นย้ำว่าความสำเร็จในการลงทุนไม่ได้อยู่ที่การมีสูตรลับหรือเทคนิคพิเศษ แต่อยู่ที่การมีหลักการที่ดี มีวินัย มีความอดทน และสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้
กฎต่างๆ ที่นำเสนอในหนังสือไม่ใช่สิ่งใหม่หรือซับซ้อน แต่เป็นความจริงพื้นฐานที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วในประวัติศาสตร์ของตลาดและจิตวิทยามนุษย์ จุดแข็งของหนังสือนี้คือการนำเสนอแนวคิดที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่าย พร้อมตัวอย่างและคำอธิบายที่ชัดเจน
หนังสือเล่มนี้จึงเหมาะสำหรับทั้งนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการเข้าใจจิตวิทยาการลงทุน และนักลงทุนที่มีประสบการณ์ที่อยากทบทวนหลักการพื้นฐานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลงทุน ในโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูลและความผันผวน การเข้าใจและควบคุมอารมณ์ของตัวเองอาจเป็นทักษะที่มีค่ามากที่สุดสำหรับนักลงทุน
แดเนียล ครอสบี สรุปไว้อย่างชัดเจนว่า “มั่งคั่งด้วยกฎแห่งการลงทุน” อาจไม่ได้ช่วยให้คุณรวยในชั่วข้ามคืน แต่จะช่วยสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับความมั่งคั่งในระยะยาว ผ่านการเข้าใจตนเอง การมีวินัย และการยึดมั่นในหลักการที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว