
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อหนังสือ : The Little Book That Still Beats the Market คัมภีร์สุดยอดนักลงทุน
ชื่อผู้แต่ง : โจเอล กรีนแบลตต์
ชื่อผู้แปล : ชานันทน์ อารีย์วัฒนานนท์
สำนักพิมพ์ : Nation Books
ปีที่พิมพ์ : 2556
จำนวนหน้า : 162 หน้า
หมวดหนังสือ : การเงินการลงทุน
สารบัญ
- บทที่ 1 – 13
- คำแนะนำที่เป็นขั้นเป็นตอน
- บทส่งท้าย
- ภาคผนวก
- เดินเรื่อยเปื่อยไม่มีจุดหมาย
สรุปข้อคิดจากหนังสือ
“The Little Book That Still Beats the Market คัมภีร์สุดยอดนักลงทุน” คือหนังสือที่จะช่วยให้นักลงทุนทุกวัยเข้าใจหลักการลงทุนขั้นพื้นฐานและประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นได้อย่างง่ายดาย ผ่านการนำเสนอเนื้อหาที่เข้าใจง่าย สนุกสนาน พร้อมเปิดเผยสูตรมหัศจรรย์ในการเลือกซื้อหุ้นบริษัทดีๆ ในราคาที่ย่อมเยา สูตรดังกล่าวได้ผ่านการทดสอบกับกาลเวลามาแล้วอย่างโชกโชนว่าสามารถสร้างผลกำไรที่งดงามให้กับผู้ที่นำไปปฏิบัติตามได้จริง หนังสือเล่มนี้จะเป็นคู่มือชี้นำทางสู่ความมั่งคั่ง ที่ใช้เวลาเพียงไม่นาน ด้วยความพยายามเพียงเล็กน้อย แต่สามารถเปลี่ยนชีวิตการลงทุนของคุณไปตลอดกาล
1. ผลตอบแทนและความเสี่ยงเป็นของคู่กัน
การลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำอย่างการฝากเงินในธนาคาร ย่อมให้ผลตอบแทนที่ต่ำตามไปด้วย แถมยังมีความเสี่ยงแฝงจากเงินเฟ้อที่สามารถกัดกร่อนมูลค่าของเงินได้เงียบๆ เมื่อสินค้ามีราคาสูงขึ้น อำนาจซื้อของเงินฝากก็น้อยลง จึงต้องยอมรับความเสี่ยงบางระดับในการลงทุน เพื่อแลกกับโอกาสในการได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นกว่าการฝากเงิน
2. ซื้อหุ้นคือซื้อกิจการ ได้สิทธิในผลตอบแทนอนาคต
การซื้อหุ้นไม่ใช่แค่การเก็งกำไรจากราคา แต่เท่ากับเป็นการเข้าไปเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของกิจการ เราจึงได้สิทธิในการรับส่วนแบ่งกำไรและผลตอบแทนในอนาคตด้วย มุมมองนี้จะช่วยให้เราเลิกสนใจความผันผวนของราคาในระยะสั้น แต่หันไปให้ความสำคัญกับมูลค่าและศักยภาพระยะยาวของบริษัทแทน
3. ประเมินคุณค่ากิจการด้วยการคาดการณ์กำไรในอนาคต
เกณฑ์ในการตัดสินว่ากิจการมีคุณค่าคุ้มค่าแก่การลงทุนหรือไม่ คือต้องสามารถคาดการณ์ได้ว่าในอนาคต บริษัทจะสร้างกระแสเงินสดเข้ามาได้มากเพียงใด ไม่มีสูตรคำนวณที่แน่นอนตายตัวในเรื่องนี้ การประเมินกำไรในอนาคตต้องอาศัยวิจารณญาณและประสบการณ์ส่วนตัว แต่เป็นหัวใจสำคัญในการคำนวณมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท ซึ่งอาจแตกต่างจากราคาหุ้นที่เห็นในตลาด
4. ลงทุนในหุ้นต่อเมื่อคาดผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตร
การลงทุนในหุ้นเป็นการแลกความเสี่ยงที่สูงกว่ากับโอกาสในผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนที่ปลอดภัย เราควรคาดหวังผลตอบแทนที่ได้จากหุ้นให้สูงกว่าการซื้อพันธบัตรรัฐบาลในระยะเวลาเดียวกัน มิเช่นนั้นก็ไม่คุ้มค่าที่จะมาเสี่ยงลงทุนในหุ้น เพราะทั้งมีความผันผวนสูงและมีโอกาสขาดทุนได้ง่ายกว่ามาก
5. ความผันผวนราคาระยะสั้นไม่ใช่ตัวชี้วัดคุณภาพธุรกิจ
แม้ราคาหุ้นของบริษัทอาจมีความผันผวนขึ้นลงมากมายในแต่ละวี แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการจะเปลี่ยนแปลงไปด้วยในอัตราที่รวดเร็วแบบนั้น ตราบใดที่บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ มีกำไรเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ผลประกอบการไม่ได้ถูกกระทบอย่างรุนแรงจนกระทั่งเสี่ยงต่อการล้มละลาย เราก็ไม่ควรตื่นตระหนกไปกับความผันผวนของราคาในระยะสั้น
6. ราคาต่ำกว่ามูลค่าแท้คือหลักประกันความปลอดภัย
การซื้อหุ้นที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงมากๆ ช่วยสร้างความปลอดภัยให้พอร์ตการลงทุนได้ดี เพราะโอกาสที่ราคาตลาดจะตกลงมาต่ำกว่าราคาที่เราซื้อก็น้อยลง ขณะเดียวกันโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นมาเข้าใกล้มูลค่าที่แท้จริงก็มีสูง ยิ่งส่วนต่างของ Margin of Safety กว้างมากเท่าไหร่ ความเสี่ยงในการขาดทุนก็ยิ่งน้อยลง ขณะที่โอกาสในผลกำไรที่งามก็มีมากขึ้น
7. ธุรกิจดีราคาถูกคือหุ้นสุดคุ้ม
หุ้นที่คุ้มค่าเหมาะสมแก่การลงทุนที่สุด มักเป็นหุ้นของบริษัทที่มีความได้เปรียบในการแข่งขัน มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี คาดการณ์กำไรในอนาคตได้สม่ำเสมอ ขณะที่ราคาของมันในตลาดกลับไม่แพงจนเกินไป ถ้าอัตราผลตอบแทนที่คาดไว้สูงกว่าภาวะตลาดทั่วไปมาก ก็ยิ่งเป็นโอกาสช้อนซื้อที่ดี ใช้ทั้งเกณฑ์คุณภาพและราคาประกอบกัน
8. สูตรมหัศจรรย์ช่วยเลือกซื้อธุรกิจดีราคาถูก
สูตรมหัศจรรย์ในการคัดเลือกหุ้นนี้ มีจุดเด่นในการช่วยให้เราสามารถกลั่นกรองหาบริษัทคุณภาพดี ที่มีความสามารถในการทำกำไร แต่ยังมีราคาไม่แพง หาซื้อได้ง่ายๆ ในตลาด ตรงตามปรัชญาการลงทุนแบบเน้นคุณค่าของเบนจามิน เกรแฮม ซึ่งเป็นครูของวอร์เรน บัฟเฟตต์ โดยหุ้นเหล่านี้มีอยู่จำนวนไม่มากนักในแต่ละช่วงเวลา
9. สูตรมหัศจรรย์ได้ผลดีจริง ไม่ใช่ดีเพราะโชคช่วย
จากการทดสอบย้อนหลังพบว่า สูตรมหัศจรรย์ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าตลาดอย่างเห็นได้ชัด สามารถคัดเลือกหุ้นกลุ่มที่มีแนวโน้มจะให้ผลตอบแทนสูงกว่าค่าเฉลี่ยได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และยังใช้ได้ผลดีทั้งกับหุ้นขนาดใหญ่และขนาดกลาง แสดงให้เห็นถึงความมีประสิทธิภาพของสูตรนี้ในการบ่งชี้ถึงการลงทุนที่มีโอกาสจะประสบความสำเร็จ
10. สูตรมหัศจรรย์ต้องใช้ควบคู่ความอดทน
แม้ในระยะยาวสูตรนี้จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่เหนือกว่าตลาด แต่ในช่วงสั้นๆ อาจมีบางปีที่ทำได้ไม่ดี สร้างความผิดหวังได้ ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องมีความอดทนและวินัยในการปฏิบัติตามสูตรอย่างเคร่งครัดในช่วงอย่างน้อย 3-5 ปี โดยไม่คิดเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเมื่อเห็นผลในระยะสั้นไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ต้องเชื่อมั่นในหลักการและผลลัพธ์ในระยะยาว
11. บริษัทที่ทำกำไรสูง มีศักยภาพทางธุรกิจสูง
บริษัทที่สามารถทำอัตรากำไรต่อเงินทุนได้สูงมาก มักจะมีความสามารถในการแข่งขันที่เหนือกว่า มีข้อได้เปรียบบางประการเหนือคู่แข่ง ทำให้ครองส่วนแบ่งตลาดได้มากกว่า และมีโอกาสนำกำไรที่ได้กลับมาลงทุนต่อยอด เกิดการเติบโตทางธุรกิจในอัตราที่สูงกว่าบริษัทที่ทำกำไรน้อยกว่า ยิ่งถ้ามีเงินทุนในมือมากเท่าใด ก็ยิ่งทำให้ฐานะทางการเงินมั่นคงแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น
12. ในระยะยาวตลาดให้รางวัลกับมูลค่า
แม้ในช่วงสั้นราคาหุ้นมักผันผวนตามอารมณ์ ทัศนคติ ความกลัวและความโลภของนักลงทุน แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานพอ สิ่งที่เป็นตัวกำหนดราคาหุ้นที่แท้จริงคือมูลค่าของกิจการ บริษัทที่สามารถสร้างกำไรได้อย่างมั่นคงและเติบโตได้ดีในระยะยาว ก็จะค่อยๆ ถูกตลาดให้รางวัลด้วยการปรับราคาขึ้นในอัตราที่สูงกว่าตลาดโดยรวม ในขณะที่บริษัทที่มีแนวโน้มแย่ลง ราคาก็จะค่อยๆ ถูกลงทัณฑ์จนกว่าจะสะท้อนมูลค่าที่ลดลงไป
13. คาดการณ์กำไรในอนาคตได้แม่นยำ แล้วประเมินมูลค่าหุ้น
ถ้าเรามีความเข้าใจในธุรกิจลึกซึ้งจริงๆ สามารถคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตและกำไรในอนาคตได้ค่อนข้างแม่นยำ ก็สามารถนำตัวเลขประมาณการเหล่านั้นมาใช้ในสูตรมหัศจรรย์ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้แต่ข้อมูลในอดีต เพราะเรามั่นใจในแนวโน้มผลการดำเนินงานในอนาคต แต่ก็ต้องมีความระมัดระวัง และมีเหตุผลที่น่าเชื่อถือในการประมาณการด้วย เพื่อลดความเสี่ยงจากการคาดการณ์ที่ผิดพลาด
14. กระจุกตัวในหุ้นที่มั่นใจ ไม่ต้องซื้อเยอะ
สำหรับนักลงทุนทั่วไป การกระจายการลงทุนไปในหลายบริษัทจนเกินไปอาจไม่ใช่เรื่องจำเป็น แค่เลือกลงทุนประมาณ 5-8 บริษัท ที่เราศึกษาจนเข้าใจอย่างถ่องแท้และมั่นใจในแนวโน้มระยะยาว แล้วสะสมเข้าไปเรื่อยๆ ในราคาที่เหมาะสม ก็เพียงพอแล้วที่จะสร้างผลตอบแทนโดยรวมที่น่าพอใจ การเลือกลงทุนอย่างจำกัดแต่มีคุณภาพ ดีกว่าลงทุนเยอะแต่ไม่เข้าใจบริษัทจริงๆ
15. ทดลองใช้สูตรมหัศจรรย์ผ่านเว็บไซต์ฟรี
หากใครอยากทดลองลองผลของการใช้สูตรมหัศจรรย์กับข้อมูลของบริษัทจริงๆ สามารถใช้บริการของเว็บไซต์ MagicFormulaInvesting.com ที่ให้เครื่องมือสำหรับการคัดกรองหุ้นตามหลักเกณฑ์ต่างๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เราสามารถเลือกใส่ตัวแปรต่างๆ ลงไปได้ตามต้องการ เพื่อให้เห็นหุ้นที่ถูกจัดอันดับว่าน่าสนใจที่สุดจากสูตร และลองจำลองผลการลงทุนย้อนหลัง เพื่อให้เห็นภาพรวมก่อนตัดสินใจนำสูตรไปใช้จริง
สรุป
สูตรมหัศจรรย์ในการคัดเลือกหุ้นนี้ใช้วิธีการประเมินคุณภาพของบริษัท ควบคู่ไปกับการพิจารณาราคาที่ต่ำกว่ามูลค่า เพื่อให้ได้ส่วนต่างความปลอดภัยที่กว้าง ยิ่งเราเข้าใจธุรกิจมากและซื้อได้ในราคาถูกเท่าไหร่ โอกาสประสบความสำเร็จก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น
การลงทุนหุ้นคุณภาพที่ราคาสมเหตุสมผลเป็นแนวทางที่ถูกต้อง แต่ต้องอาศัยวินัยและมุมมองระยะยาว เพราะบางช่วงผลตอบแทนอาจผันผวนบ้าง แต่ถ้าอดทนลงทุนต่อเนื่องในระยะยาว ผลลัพธ์ที่ได้มักจะคุ้มค่ากับความพยายาม และเหนือกว่าการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญ