สรุปหนังสือ ตามหาหุ้นตัวแรก เวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่

ตามหาหุ้นตัวแรก เวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่
ตามหาหุ้นตัวแรก เวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่

ข้อมูลทั่วไป

ชื่อหนังสือ : ตามหาหุ้นตัวแรก เวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่

ชื่อผู้แต่ง : ดร.อัจฉรา โยมสินธุ์

สำนักพิมพ์ : The Stock Exchange of Thailand

ปีที่พิมพ์ : 2560

จำนวนหน้า : 222 หน้า

หมวดหนังสือ : การเงินการลงทุน

สารบัญ

  • บทนำ
  • Episode 1 มือใหม่กับหุ้นตัวแรก
  • Episode 2 บทเรียนหุ้นตัวแรกและสไตล์ลงทุน ของคุณปู “Warren Buffett”
  • Episode 3 เร็มต้น…ค้นหา “หุ้นตัวแรก”
  • Episode 4 ได้เวลา…ลงทุนหุ้น
  • Final Episode 3 รู้…สู่การลงทุนอย่างมั่งคั่งและยั่งยืน
  • Sharing เปิดประสบการณ์คนดังกับ “หุ้นตัวแรก”

สรุปข้อคิดจากหนังสือ

หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจจะเริ่มลงทุนในหุ้นแต่ยังมีความกังวลและตั้งคำถามกับการลงทุนครั้งแรก ผู้เขียนได้แบ่งปันข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็น ให้คำแนะนำในการเลือกหุ้นตัวแรก พร้อมทั้งแนะแนวทางการลงทุนเพื่อมุ่งสู่ความมั่งคั่งและยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีการแบ่งปันประสบการณ์จากนักลงทุนชื่อดังอย่าง Warren Buffet ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ที่ต้องการเริ่มลงทุน ทำให้ผู้อ่านมีความเข้าใจและพร้อมที่จะลงทุนในหุ้นตัวแรกได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

ได้ครับ ผมจะขยายเนื้อหา 15 หัวข้อให้ยาวขึ้นเป็น 3 บรรทัดต่อหัวข้อ ดังนี้

1. ทำความเข้าใจกับการลงทุนในหุ้น

ผู้เขียนแนะนำว่าควรเรียนรู้และทำความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นให้ถ่องแท้ก่อนเริ่มลงทุน เช่น ความหมายและประเภทของหุ้น ผลตอบแทนและความเสี่ยงในการลงทุน รวมถึงขั้นตอนและวิธีการซื้อขายหุ้นเบื้องต้น เพราะการมีความรู้พื้นฐานที่ดีจะช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์และตัดสินใจเลือกลงทุนในหุ้นได้อย่างเหมาะสม ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความเสี่ยงจากความไม่รู้หรือความเข้าใจผิด อีกทั้งยังช่วยให้เรามีความมั่นใจ และกล้าที่จะเริ่มต้นลงทุนในหุ้นได้ด้วยตัวเองอย่างถูกทาง

2. เริ่มต้นลงทุนตามความเหมาะสมและศักยภาพ

การเริ่มต้นลงทุนควรพิจารณาตามศักยภาพและความพร้อมทางการเงินของตัวเราเป็นหลัก ไม่ควรกู้ยืมหรือนำเงินในส่วนที่ต้องใช้จ่ายมาลงทุนมากเกินไป ควรจัดสรรสัดส่วนเงินลงทุนให้พอดี เหมาะสมกับรายได้ รายจ่าย และเงินออมที่มี เพื่อไม่ให้การลงทุนกลายเป็นภาระหรือความเสี่ยงที่กระทบต่อสถานะทางการเงินในปัจจุบันของเรา และต้องมีสภาพคล่องพอสำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็น รวมถึงเงินสำรองกรณีฉุกเฉินด้วย นอกจากนี้ต้องเตรียมใจยอมรับความเสี่ยงและความผันผวนของราคาหุ้นที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ โดยไม่ตื่นตระหนกหรือเครียดจนเกินไป อดทนถือหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีไว้ในระยะยาว

3. เลือกหุ้นที่มีคุณภาพ

การเลือกหุ้นตัวแรกควรให้ความสำคัญกับหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานและคุณภาพของบริษัทที่ดี ได้แก่ บริษัทที่อยู่ในธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดีในอนาคต มีโมเดลธุรกิจและกลยุทธ์ที่ชัดเจน แข่งขันได้ มีความได้เปรียบคู่แข่ง มีผลประกอบการที่มีกำไรอย่างต่อเนื่องและเติบโตสม่ำเสมอ มีสถานะทางการเงินที่มั่นคงแข็งแกร่ง ไม่มีหนี้สินมากเกินไป มีสภาพคล่องและกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่ดี ไม่พึ่งพิงการกู้ยืมหรือความเสี่ยงมากนัก รวมถึงมีผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ มีประสบการณ์ ความสามารถ และธรรมาภิบาลที่ดี ซึ่งจะช่วยให้การลงทุนของเรามีความเสี่ยงต่ำ มีความมั่นคง และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีอย่างยั่งยืนในระยะยาว

4. ศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน

ก่อนตัดสินใจลงทุนหุ้นของบริษัทใด เราควรศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ของบริษัทนั้นอย่างละเอียดรอบด้านจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ทั้งข้อมูลเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ เช่น ผลประกอบการ งบการเงิน ข้อมูลต่างๆ จากงบเปิดเผยของบริษัท สภาพอุตสาหกรรมและการแข่งขัน ปัจจัยแวดล้อม กฎระเบียบต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ ความเห็นของนักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินความเป็นไปได้ในการเติบโตและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น การวิเคราะห์อย่างรอบคอบก่อนลงทุนจะช่วยให้เรามีข้อมูลที่ครบถ้วน สามารถประเมินมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น ประกอบการตัดสินใจลงทุนได้อย่างสมเหตุสมผล ชาญฉลาด เลือกเฟ้นหุ้นได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ลดความเสียงจากการมองข้ามปัจจัยเสี่ยงต่างๆ

5. ลงทุนด้วยเหตุผล ไม่ใช่อารมณ์

ในการตัดสินใจลงทุนหุ้น เราต้องยึดหลักเหตุและผล ใช้ข้อมูล หลักการ และเหตุผลเป็นตัวตั้ง ใช้สติและวิจารณญาณในการคิด ไม่ควรตัดสินใจด้วยอารมณ์ ความรู้สึก ข่าวลือ กระแสตื่นตูม หรือคล้อยตามผู้อื่นโดยขาดการไตร่ตรอง เวลามีข้อสงสัยไม่แน่ใจ ยังไม่เข้าใจ หรือมีความกังวล ไม่ควรด่วนสรุปหรือรีบร้อนตัดสินใจ แต่ให้ใช้เวลาทบทวน หาข้อมูลเพิ่ม ขอคำแนะนำจากผู้รู้ ทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ก่อน การลงทุนด้วยเหตุผล อดทน ไม่ใจร้อนหรือตัดสินใจเพราะกลัวพลาดโอกาส จะช่วยลดความเสี่ยงจากการตัดสินใจผิดพลาด ทำให้ตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและถูกต้องมากขึ้น

6. คิดถึงการลงทุนระยะยาว

ผู้เขียนแนะนำว่าควรมองการลงทุนในหุ้นเป็นการลงทุนระยะยาว โดยเน้นการถือครองหุ้นคุณภาพดีเป็นระยะเวลานานๆ เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเติบโตของกำไรและมูลค่าหุ้นในระยะยาว ซึ่งเป็นแหล่งผลตอบแทนหลักของการลงทุนหุ้น ไม่ควรคิดแค่ลงทุนเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น เพราะมีความเสี่ยงสูง จะทำให้เสียโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างยั่งยืน เราต้องอดทน มีวินัยในการลงทุน ไม่ตื่นตูมไปกับความผันผวนของราคาหุ้นในแต่ละช่วง แต่ต้องมองหาบริษัทที่ดีมีศักยภาพในการเติบโตสูงในระยะยาว ยึดมั่นตามแผนการลงทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมาย สอดคล้องกับระยะเวลาและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของเรา

7. กระจายการลงทุน

การกระจายการลงทุน (diversification) เป็นหลักการสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตการลงทุน ไม่ควรเน้นลงทุนหุ้นตัวใดตัวหนึ่งมากเกินไป ควรลงทุนในธุรกิจ/อุตสาหกรรมที่หลากหลาย เพื่อลดผลกระทบจากปัจจัยลบที่อาจเกิดขึ้นเฉพาะบางธุรกิจ การซื้อหุ้นหลายๆ ตัว หรือซื้อกองทุนรวมที่มีการกระจายการลงทุนไว้อย่างดีแล้ว จะช่วยให้การลงทุนมีเสถียรภาพมากขึ้น ช่วยทำให้ผลตอบแทนและความเสี่ยงเฉลี่ยของพอร์ตอยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป อย่างไรก็ตาม การกระจายการลงทุนก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องซื้อหุ้นจำนวนมากเกินไปจนไม่สามารถติดตามได้ทั่วถึง แต่ควรเลือกจำนวนหุ้นที่เหมาะสมกับเวลา ความรู้ ความสามารถในการบริหารจัดการของเรา

8. ติดตามผลการลงทุนอยู่เสมอ

หลังจากลงทุนในหุ้นแล้ว เราต้องติดตามพัฒนาการ ความเคลื่อนไหว ผลการดำเนินงานของหุ้นและบริษัทที่เราลงทุนอย่างใกล้ชิดสม่ำเสมอ เพื่อประเมินสถานการณ์ ทบทวนสมมติฐานที่ใช้ในการลงทุน และดูว่าเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้มากน้อยแค่ไหน หากมีเหตุการณ์หรือปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระทบ ต้องวิเคราะห์ว่าส่งผลดีหรือผลเสียต่อบริษัทในระยะสั้นและระยะยาวอย่างไร เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าควรซื้อเพิ่ม ถือต่อไป หรือขายหุ้นเมื่อไหร่ นอกจากนี้ เราควรมีการประเมินและปรับพอร์ตหุ้นของเราเป็นระยะๆ ตามความเหมาะสม ให้สอดคล้องกับสภาวะตลาด เป้าหมายผลตอบแทน และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ที่อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงเวลา

9. เรียนรู้จากประสบการณ์และข้อผิดพลาด

การลงทุนในหุ้นเป็นการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริงที่ดีที่สุด เมื่อเริ่มลงทุน เราต้องพร้อมเจอกับความผิดพลาด ขาดทุน หรือผลลัพธ์ที่ไม่เป็นไปอย่างที่คิด ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการลงทุน ไม่มีใครประสบความสำเร็จได้ตั้งแต่ครั้งแรก สิ่งสำคัญคือ ต้องกล้ายอมรับความผิดพลาด เรียนรู้จากมัน วิเคราะห์ว่าผิดพลาดตรงไหน ต้องปรับปรุงอย่างไร แล้วนำบทเรียนนั้นมาพัฒนาตนเอง ปรับวิธีคิด กระบวนการตัดสินใจ กลยุทธ์การลงทุนให้ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกัน ก็ต้องเรียนรู้จากประสบการณ์และความสำเร็จของผู้อื่นด้วย ศึกษาเทคนิควิธีการ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ข้อมูล มุมมองใหม่ๆ แล้วนำมาประยุกต์ปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของตัวเอง

10. มีวินัยกับการลงทุน

หัวใจสำคัญที่จะทำให้การลงทุนในหุ้นประสบความสำเร็จได้ในระยะยาวคือ การมีวินัยที่ดีในการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เริ่มจากการวางแผนการลงทุนที่รัดกุม เหมาะสมกับเป้าหมายและระดับความเสี่ยงของตัวเอง และต้องยึดมั่นลงทุนตามแผนนั้นอย่างเคร่งครัด ต้องฝึกนิสัยการออมและลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เช่น กำหนดเป้าหมายจำนวนเงินลงทุนแต่ละเดือน โอนเงินเข้าบัญชีลงทุนทันทีที่ได้รับรายได้ก่อนใช้จ่ายอย่างอื่น ลงทุนต่อเนื่องทั้งช่วงตลาดขึ้นและลง เพื่อเฉลี่ยต้นทุน รวมถึงต้องอดทน ไม่ใจร้อน ไม่หวั่นไหวไปกับอารมณ์ ข่าวลือ หรือความผันผวนของตลาดในระยะสั้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายผลตอบแทนที่ต้องการในระยะยาว การมีวินัยจะช่วยลดความเสี่ยงจากการตัดสินใจผิดพลาดได้มาก

11. รู้จังหวะของตลาด

การจับจังหวะการลงทุนในหุ้นให้เหมาะสมกับวัฏจักรของตลาด จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนและลดความเสี่ยงได้มาก เช่น ในช่วงตลาดขาลง หุ้นหลายตัวอาจมีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง นับเป็นโอกาสในการสะสมหุ้นคุณภาพดีในราคาถูก ส่วนในช่วงตลาดขาขึ้น ก็ควรขายหุ้นที่ราคาสูงเกินมูลค่า เพื่อทำกำไร แต่ต้องคอยระวังความเสี่ยงจากภาวะฟองสบู่ที่ราคาหุ้นอาจถูกหนุนสูงเกินไป โดยขาดปัจจัยพื้นฐานรองรับ ดังนั้น เราต้องติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์ของตลาด เศรษฐกิจ การเมือง ภาพรวมอุตสาหกรรมอย่างใกล้ชิด ประกอบกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น กราฟราคา เครื่องมือต่างๆ เพื่อจับทิศทาง แนวโน้ม จังหวะการเปลี่ยนแปลงของตลาด และเลือกจังหวะเข้าซื้อ-ขายให้เหมาะสม

12. ไม่รีบร้อนร่ำรวย

ผู้เขียนเตือนว่าการลงทุนในหุ้นไม่ใช่วิธีทำให้รวยแบบรวดเร็ว ทันใจ หรือรวยแบบไม่ต้องทำอะไร แต่ต้องอาศัยความรู้ เวลา ความอดทนและความพยายามสูง เปรียบได้กับการปลูกต้นไม้ใหญ่ ต้องค่อยเป็นค่อยไป ดูแลเอาใจใส่ จึงจะเติบโตแข็งแรง ออกดอกออกผลในระยะยาว เราต้องไม่คาดหวังผลตอบแทนสูงเกินจริงในระยะเวลาอันสั้น อย่าโลภ อยากได้กำไรงาม ชอบใจแต่ความเสี่ยงสูง เช่น หุ้นเก็งกำไร หุ้นราคาถูกผิดปกติ การใช้ margin เกินตัว หรือหลงเชื่อข้อมูล คำแนะนำต่างๆ โดยขาดการวิเคราะห์ การลงทุนอย่างชาญฉลาด มีระเบียบแบบแผน อาศัยพลังของดอกเบี้ยทบต้นจากการขยายตัวของกำไร ราคาหุ้น และเงินปันผลในระยะยาว จะทำให้เรามีโอกาสบรรลุเป้าหมายความมั่งคั่งได้อย่างยั่งยืน ไม่ยากและไม่ช้าเกินไป

13. ลงทุนด้วยความมั่นใจ ไม่ลังเล

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนลังเลที่จะเริ่มลงทุนในหุ้นคือ ความไม่มั่นใจในตัวเอง ไม่กล้าตัดสินใจ ไม่แน่ใจว่าจะเลือกหุ้นอะไรดี กลัวตัดสินใจผิดพลาด เสียเงินเสียทอง ซึ่งเป็นความกลัวที่สามารถแก้ไขได้ด้วยการเตรียมความพร้อมให้ดี เราต้องสร้างความมั่นใจในการลงทุนจากภายใน ด้วยการหาความรู้ ประสบการณ์ให้มากพอ ทำการบ้านศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน วิเคราะห์อย่างเป็นเหตุเป็นผล รู้ว่าเราซื้อหุ้นอะไร ทำไมถึงซื้อ มีเป้าหมายอะไร มีแผนบริหารความเสี่ยงอย่างไร แล้วเมื่อตัดสินใจแล้ว ก็ต้องมั่นใจ ไม่หวั่นไหว ไม่เปลี่ยนใจไปมา แต่ก็ต้องยืดหยุ่น ปรับตัวได้ ถ้ามีข้อมูลใหม่ที่สำคัญ ควรกล้ายอมรับผิด เปลี่ยนแปลง ไม่ยึดติดกับสิ่งที่ผิด เพราะการมั่นใจในสิ่งที่ผิดอาจนำไปสู่หายนะได้เช่นกัน

14. วางแผนลงทุนให้สอดคล้องกับเป้าหมายชีวิต

การวางแผนการลงทุนที่ดี ต้องสอดคล้องกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายทางการเงินในแต่ละช่วงชีวิตของเรา เช่น เป้าหมายระยะสั้น เช่น ซื้อรถ ซื้อบ้าน แต่งงาน เป้าหมายระยะกลาง เช่น เก็บเงินเรียนต่อ ทำธุรกิจ และเป้าหมายระยะยาว เช่น เกษียณอย่างสุขสบาย เพราะเป้าหมายแต่ละช่วงมีความสำคัญ ระยะเวลา และความเสี่ยงที่ยอมรับได้ต่างกัน การวางแผนการลงทุนที่ดีจะช่วยให้มีเงินพร้อมใช้ตรงเวลา ตรงวัตถุประสงค์ มีความสมดุลระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทน เราต้องรู้จักเลือกเครื่องมือและสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับแต่ละเป้าหมาย เงินที่ต้องใช้เร็วหรือเป็นเงินสำรองฉุกเฉินไม่ควรนำมาลงทุนในสินทรัพย์ความเสี่ยงสูงหรือขาดสภาพคล่อง ในขณะที่เงินลงทุนระยะยาวสามารถยอมรับความผันผวนได้บ้างเพื่อแลกกับโอกาสได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น

15. เรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

การลงทุนให้ประสบความสำเร็จได้ต้องเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง เพราะโลกของการลงทุนมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจ ตลาด กฎระเบียบ เทคโนโลยี กระแสสังคม พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เราต้องเท่าทัน ปรับตัว ยกระดับความรู้ ทักษะให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง ด้วยการ ติดตามข่าวสาร วิเคราะห์สถานการณ์ เรียนรู้เรื่องใหม่ๆ เช่น บล็อกเชน เทคโนโลยีการเงิน อ่านหนังสือ บทวิเคราะห์ ฟังข้อคิดเห็นจากผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ เข้าอบรมสัมมนา คอร์สออนไลน์ นอกจากความรู้ทางวิชาการแล้ว ยังต้องพัฒนาทักษะด้านอารมณ์และจิตวิทยา ให้รู้จักควบคุมอารมณ์ ความคิด ความโลภ ความกลัว รู้จักสังเกตและเรียนรู้พฤติกรรมของนักลงทุนคนอื่นๆ ในตลาด ซึ่งหลายครั้งมักถูกขับเคลื่อนด้วยอารมณ์และสัญชาตญาณฝูงชนมากกว่าเหตุผล ถ้าเราเข้าใจและควบคุมได้ จะเป็นความได้เปรียบในการลงทุน

สรุป

หนังสือ “ตามหาหุ้นตัวแรก” เป็นหนังสือที่จะช่วยให้ผู้ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่การเป็นนักลงทุนหุ้น เริ่มต้นการลงทุนได้อย่างถูกทิศทางและมีหลักการ ด้วยการให้ความรู้พื้นฐานที่จำเป็น สอนวิธีการเลือกหุ้นที่ดีมีคุณภาพ และแนะนำแนวทางในการบริหารการลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่งได้อย่างยั่งยืน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นลงทุนในหุ้นด้วยตัวเอง แต่ยังมีข้อสงสัยและยังไม่กล้าตัดสินใจ หนังสือเล่มนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจ และเป็นคู่มือให้ก้าวเข้าสู่การลงทุนในหุ้นได้อย่างเข้าใจและเหมาะสม อีกทั้งยังได้เรียนรู้วิธีคิดและประสบการณ์จากตัวอย่างนักลงทุนชั่นนำอย่าง Warren Buffett ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านอยากเอาชนะความกลัว ความลังเล และพร้อมจะเริ่มต้นลงทุนในหุ้นตัวแรกอย่างมั่นใจ เพื่อสร้างอิสรภาพทางการเงินและความมั่งคั่งได้ด้วยตัวเอง

ถ้าคุณเป็นมือใหม่ที่สนใจจะเริ่มลงทุนในหุ้น แต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร หนังสือเล่มนี้จะเป็นคู่มือที่ดีในการแนะนำแนวทาง เพิ่มความรู้ ความมั่นใจ และปูพื้นฐานที่จำเป็นในการเลือกหุ้นตัวแรกได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมสำหรับคุณ