
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อหนังสือ : การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ที่นักเทคนิคอลมือโปร ประสบการณ์ 10 ปี++ อยากบอกมือใหม่ รู้ก่อน…รอดก่อน
ชื่อผู้แต่ง : เซียว จับอิดนึ้ง
สำนักพิมพ์ : เซียว จับอิดนึ้ง
ปีที่พิมพ์ : 2566
จำนวนหน้า : 141 หน้า
หมวดหนังสือ : การเงินการลงทุน
สารบัญ
- ความเข้าใจผิดที่แพร่หลาย
- จริงหรือ? ที่ใช้เทคนิคอล…แล้วไม่มีทางรวยหรอก?
- เทคนิคอลทำนายอนาคตของราคาได้ว่าจะไปถึงไหน?
- ใช้เทคนิคอลสามารถหาหุ้นเล่นได้ตลอดเวลา
- ถ้าไม่อยากตัดขาดทุน อย่าใช้เทคนิคอล
- False Breakout ทำให้ฉันขาดทุน ฉะนั้น เทคนิคอลทำให้ฉันขาดทุน
- เคล็ดวิธีใช้งานเทคนิคอลให้ถูก
- รู้เทคนิคอล ดีกว่า/ได้เปรียบกว่า ไม่รู้อะไรเลย
- เทคนิคอล 2 สาย : ทำนาย กับ ตอบสนอง
- เทคนิคอลไม่ใช่ยาวิเศษ
- เทคนิคอล ผิด พอ ๆ กับ ถูก
- เทคนิคอลไม่ใช่เรื่อง “ขาว กับ ดำ” & “ถูก หรือ ผิด”
- เทคนิคอลก็ไม่ต่างจาก “การโยน หัว-ก้อย”
- อย่าใช้เทคนิคอลทำนายราคา เพราะมันไม่สามารถการันตีอนาคตได้
- เทคนิคอล ไม่ได้ให้ “แต้มต่อ” ที่มีนัยสำคัญอะไรเลย
- วัตถุประสงค์ของเทคนิคอล ไม่ใช่การระบุจุดต่ำสุดและสูงที่สุด
- ใช้เทคนิคอล เหมือนแผนที่หนีไฟ
- เทคนิคอลใช้อธิบายเหตุผลที่ราคาร่วงหรือขึ้นได้…แต่มันไม่พอหรอก
- เทคนิคอลช่วยให้เราหา แนวโน้มราคาได้
- เทคนิคอลใช้หาเส้นทางที่ราคาไปง่ายที่สุดได้
- เทคนิคอลช่วยให้เราเห็นพฤติกรรมราคา “ที่ผิดปกติ” ได้ชัดขึ้น
- เทคนิคอลช่วยให้เราตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวราคาได้ถูก
- เทคนิคอลช่วยให้คุณมองเห็น “ธุรกิจที่ดี” ได้ง่ายขึ้น
- เทคนิคอลช่วยบอกว่า “เมื่อไหร่ที่คุณคิดผิด”
- เทคนิคอลช่วยให้เราหา “ความได้เปรียบ” เจอง่ายขึ้น
- แท้จริงแล้ว…
- แท้จริงแล้ว…เซียนสายเทคนิคไม่เคยไว้ใจเทคนิคอลเลย
- แท้จริงแล้ว…เทคนิคอลที่มีประสิทธิภาพควรเรียบง่าย
- แท้จริงแล้ว…แม้เทคนิคอลแน่น แต่ “จิตวิทยาแย่” ก็หมดตัวได้ไม่ยาก
- มือโปรคือผู้เชี่ยวชาญในการตัดขาดทุน
- เทคนิคอลเป็นแค่ส่วนเล็ก ๆ ของระบบเทรดเท่านั้น
- เทคนิคอลต้องใช้ร่วมกับกฎทองคำของการเทรด
- เทคนิคอลต้องใช้ร่วมกับการบริหารความเสี่ยง
- เทคนิคอลต้องใช้ร่วมกับ Position Sizing
- เทคนิคอลต้องใช้ร่วมกับ “วินัย”
- เซียนทำยังไงเมื่อโดน “คัทแล้วเด้ง” ?
- คุณจะใช้เทคนิคอลได้ดีเมื่อมีประสบการณ์
- มือโปร…ให้หุ้นเลือกเขา
- ยิ่งเฝ้าจอ ยิ่งขาดทุนง่าย
- ในเมื่อเทคนิคอลไม่แม่น? ทำไมเซียนยังคงทนใช้ และทำเงินจากมันได้อีก?
- 8 ข้อสรุปเกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค
- เรื่องจริงที่ต้องยอมรับถ้าอยากรอด
- ตลาดถูกเสมอ ความเห็นผิดตลอด
- จำกราฟแม่นยังไม่พอ ต้องรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ไม่ควรเทรดด้วย
- ต้องรู้วิธีรอดก่อน ถึงจะรักษาความร่ำรวยได้
- มือโปร… “เปลี่ยนใจ” ได้ตลอด
- การเทรดที่สำเร็จ ต้องการอะไรที่มากกว่าเทคนิคอล
- ความสำเร็จต้อง “แลกเปลี่ยน” ด้วย…ความรัก และการเสียสละที่ยิ่งใหญ่
สรุปข้อคิดจากหนังสือ
หนังสือเล่มนี้นำเสนอมุมมองที่แตกต่างเกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคจากประสบการณ์ของนักเทรดมืออาชีพ ผู้เขียนเปิดเผยว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิคไม่ใช่สูตรวิเศษหรือเครื่องมือมหัศจรรย์อย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของระบบการเทรดที่ต้องใช้ร่วมกับปัจจัยอื่นๆ หนังสือนี้มุ่งเน้นการใช้เทคนิคอลอย่างถูกต้องตามแนวทางของมืออาชีพ โดยเน้นย้ำว่าความสำเร็จในการเทรดนั้นต้องอาศัยมากกว่าแค่ความรู้ทางเทคนิค
1. เทคนิคอลไม่ใช่เครื่องมือทำนายอนาคต
การวิเคราะห์ทางเทคนิคไม่สามารถทำนายราคาในอนาคตได้อย่างแม่นยำ มันเป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มและพฤติกรรมของราคาเท่านั้น นักลงทุนควรใช้เทคนิคอลเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจ ไม่ใช่เป็นตัวชี้ขาด การเข้าใจข้อจำกัดนี้จะช่วยให้นักลงทุนใช้เทคนิคอลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และไม่หลงเชื่อว่าเทคนิคอลสามารถให้คำตอบทุกอย่างได้
2. เทคนิคอลเป็นเพียงส่วนหนึ่งของระบบการเทรด
การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งในระบบการเทรดที่สมบูรณ์ นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมักใช้เทคนิคอลร่วมกับการบริหารความเสี่ยง การจัดการเงินลงทุน และการควบคุมอารมณ์ การให้ความสำคัญกับเทคนิคอลเพียงอย่างเดียวอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดได้ นักลงทุนควรพัฒนาทักษะในด้านอื่นๆ ควบคู่ไปด้วยเพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ
3. ความสำคัญของการตัดขาดทุน
นักเทรดมืออาชีพให้ความสำคัญกับการตัดขาดทุนอย่างมาก การยอมรับความผิดพลาดและตัดขาดทุนอย่างรวดเร็วเป็นทักษะสำคัญที่แยกนักลงทุนมืออาชีพออกจากมือสมัครเล่น การยึดติดกับการวิเคราะห์หรือความเชื่อของตนเองมากเกินไปอาจนำไปสู่การขาดทุนที่ใหญ่ขึ้น นักลงทุนควรฝึกฝนการตัดขาดทุนอย่างมีวินัยและไม่ปล่อยให้อารมณ์มาเป็นอุปสรรคในการตัดสินใจ
4. ความเรียบง่ายคือกุญแจสู่ความสำเร็จ
เทคนิคอลที่มีประสิทธิภาพมักจะเรียบง่ายและไม่ซับซ้อน การใช้อินดิเคเตอร์หรือเครื่องมือวิเคราะห์ที่ซับซ้อนเกินไปอาจทำให้เกิดความสับสนและนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด นักลงทุนควรเน้นที่การเข้าใจพื้นฐานของการเคลื่อนไหวของราคาและแนวโน้มตลาดมากกว่าการพึ่งพาเครื่องมือที่ซับซ้อน การใช้เทคนิคอลอย่างเรียบง่ายจะช่วยให้นักลงทุนมีความชัดเจนในการตัดสินใจมากขึ้น
5. ความสำคัญของประสบการณ์
การใช้เทคนิคอลอย่างมีประสิทธิภาพต้องอาศัยประสบการณ์ ความรู้จากหนังสือหรือคอร์สเรียนเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ นักลงทุนต้องฝึกฝนและเรียนรู้จากประสบการณ์จริงในตลาด การทดลองเทรดด้วยบัญชีจำลองหรือการเทรดด้วยเงินจำนวนน้อยในช่วงแรกเป็นวิธีที่ดีในการสั่งสมประสบการณ์ นักลงทุนควรให้เวลากับตัวเองในการพัฒนาทักษะและความเข้าใจในตลาดอย่างลึกซึ้ง
6. การปรับตัวตามสภาวะตลาด
ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นักเทรดมืออาชีพจึงต้องพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และมุมมองของตนเองอยู่เสมอ การยึดติดกับวิธีการวิเคราะห์หรือกลยุทธ์เดิมๆ อาจไม่เหมาะสมกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนไป นักลงทุนควรฝึกฝนการสังเกตการเปลี่ยนแปลงของตลาดและพร้อมที่จะปรับตัวเมื่อจำเป็น ความยืดหยุ่นในการคิดและการตัดสินใจเป็นคุณสมบัติสำคัญของนักเทรดที่ประสบความสำเร็จ
7. การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญ
การวิเคราะห์ทางเทคนิคต้องใช้ควบคู่ไปกับการบริหารความเสี่ยงที่ดี นักลงทุนควรกำหนดจุดตัดขาดทุนและเป้าหมายกำไรอย่างชัดเจนก่อนเข้าสู่การเทรดทุกครั้ง การจัดการขนาดของพอร์ตการลงทุน (Position Sizing) ก็เป็นส่วนสำคัญในการควบคุมความเสี่ยง นักลงทุนควรระมัดระวังไม่ให้การขาดทุนในแต่ละครั้งส่งผลกระทบรุนแรงต่อพอร์ตโดยรวม การบริหารความเสี่ยงที่ดีจะช่วยให้นักลงทุนสามารถอยู่รอดในตลาดได้ในระยะยาว
8. ความสำคัญของวินัยในการเทรด
วินัยเป็นปัจจัยสำคัญที่แยกนักเทรดมืออาชีพออกจากมือสมัครเล่น การมีวินัยหมายถึงการยึดมั่นในแผนการเทรดที่วางไว้ ไม่ว่าจะเผชิญกับสถานการณ์ใดในตลาด นักลงทุนควรกำหนดกฎและแนวทางการเทรดของตนเองอย่างชัดเจน และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด การขาดวินัยมักนำไปสู่การตัดสินใจที่ขึ้นอยู่กับอารมณ์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของความล้มเหลวในการเทรด
9. การควบคุมอารมณ์
ความสำเร็จในการเทรดไม่ได้ขึ้นอยู่กับความรู้ทางเทคนิคเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงความสามารถในการควบคุมอารมณ์ด้วย ความโลภ ความกลัว และความหวังเป็นอารมณ์ที่มักส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของนักลงทุน การฝึกฝนสติและการควบคุมอารมณ์เป็นทักษะสำคัญที่นักลงทุนควรพัฒนา การตัดสินใจบนพื้นฐานของเหตุผลและข้อมูล ไม่ใช่อารมณ์ จะช่วยให้นักลงทุนประสบความสำเร็จในระยะยาว
10. การเรียนรู้จากความผิดพลาด
ความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ในการเทรด นักลงทุนควรมองความผิดพลาดเป็นโอกาสในการพัฒนาตนเอง ไม่ใช่เป็นความล้มเหลว การวิเคราะห์ข้อผิดพลาดอย่างละเอียดและหาวิธีปรับปรุงเป็นสิ่งสำคัญ นักลงทุนควรจดบันทึกการเทรดและทบทวนอย่างสม่ำเสมอเพื่อหาจุดที่ต้องปรับปรุง การเรียนรู้จากความผิดพลาดจะช่วยให้นักลงทุนพัฒนาทักษะและกลยุทธ์การเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
11. การให้ความสำคัญกับแนวโน้มของตลาด
การวิเคราะห์ทางเทคนิคช่วยให้นักลงทุนสามารถระบุแนวโน้มของตลาดได้ชัดเจนขึ้น การเทรดตามแนวโน้มเป็นกลยุทธ์ที่นักเทรดมืออาชีพนิยมใช้ เนื่องจากมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงกว่าการพยายามเทรดสวนแนวโน้ม นักลงทุนควรฝึกฝนการระบุแนวโน้มหลักของตลาดและเทรดไปในทิศทางเดียวกับแนวโน้มนั้น การเข้าใจและเคารพแนวโน้มของตลาดจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการขาดทุน
12. การใช้เทคนิคอลเพื่อระบุจุดเข้าและออก
แม้ว่าเทคนิคอลจะไม่สามารถทำนายราคาได้อย่างแม่นยำ แต่มันสามารช่วยนักลงทุนในการระบุจุดเข้าและออกที่เหมาะสมได้ การใช้แนวรับแนวต้าน เส้นค่าเฉลี่ย หรือรูปแบบกราฟต่างๆ สามารถช่วยในการตัดสินใจเกี่ยวกับจังหวะการเข้าและออกจากตลาด นักลงทุนควรฝึกฝนการใช้เครื่องมือเหล่านี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบุโอกาสทางการตลาดและจัดการความเสี่ยง การใช้เทคนิคอลอย่างมีประสิทธิภาพในการหาจุดเข้าและออกจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการขาดทุน
13. การไม่ยึดติดกับการคาดการณ์
นักเทรดมืออาชีพมักไม่ยึดติดกับการคาดการณ์ของตนเอง พวกเขาพร้อมที่จะเปลี่ยนมุมมองเมื่อสถานการณ์ในตลาดเปลี่ยนไป การยอมรับว่าตลาดอาจไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้เป็นทักษะสำคัญ นักลงทุนควรฝึกฝนการยอมรับความผิดพลาดและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์อย่างรวดเร็ว การไม่ยึดติดกับความคิดเดิมๆ จะช่วยให้นักลงทุนสามารถปรับตัวได้ดีในสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
14. การให้ความสำคัญกับการอ่านพฤติกรรมตลาด
การวิเคราะห์ทางเทคนิคไม่ใช่เพียงแค่การดูกราฟและอินดิเคเตอร์ แต่ยังรวมถึงการอ่านพฤติกรรมของตลาดด้วย นักเทรดมืออาชีพมักให้ความสำคัญกับการสังเกตปฏิกิริยาของตลาดต่อข่าวสารและเหตุการณ์ต่างๆ การเข้าใจจิตวิทยาของตลาดและพฤติกรรมของนักลงทุนรายอื่นๆ สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่า นักลงทุนควรฝึกฝนการวิเคราะห์พฤติกรรมตลาดควบคู่ไปกับการใช้เครื่องมือทางเทคนิค
15. การพัฒนาระบบการเทรดของตนเอง
แม้ว่าการเรียนรู้จากผู้อื่นจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่นักเทรดที่ประสบความสำเร็จมักจะพัฒนาระบบการเทรดของตนเองในที่สุด ระบบนี้ควรสอดคล้องกับบุคลิกภาพ ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และเป้าหมายทางการเงินของนักลงทุน การทดสอบและปรับปรุงระบบอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญ นักลงทุนควรใช้เวลาในการพัฒนาและทดสอบระบบของตนเองอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความมั่นใจและความสม่ำเสมอในการเทรด
สรุป
หนังสือ “การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ที่นักเทคนิคอลมือโปร ประสบการณ์ 10 ปี++ อยากบอกมือใหม่ รู้ก่อน…รอดก่อน” นำเสนอมุมมองที่สมจริงและเป็นประโยชน์เกี่ยวกับการใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคในการเทรด โดยเน้นย้ำว่าเทคนิคอลไม่ใช่เครื่องมือวิเศษ แต่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของระบบการเทรดที่ครอบคลุม ผู้เขียนแนะนำให้นักลงทุนใช้เทคนิคอลร่วมกับการบริหารความเสี่ยง การควบคุมอารมณ์ และการพัฒนาวินัยในการเทรด นอกจากนี้ ยังเน้นความสำคัญของประสบการณ์และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับทั้งนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการเข้าใจการใช้เทคนิคอลอย่างถูกต้อง และนักลงทุนที่มีประสบการณ์ที่ต้องการปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดของตนเอง