สรุปหนังสือ คัมภีร์วิเคราะห์งบการเงิน

ข้อมูลทั่วไป

ชื่อหนังสือ : คัมภีร์วิเคราะห์งบการเงิน

ชื่อผู้แต่ง : กฤษฎา เสกตระกูล

สำนักพิมพ์ : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

จำนวนหน้า : 132 หน้า

หมวดหนังสือ : การเงินการลงทุน

สารบัญ

• บทที่ 1 มารู้เรื่องงบ เพื่อคบกับบริษัท
• 1.1 งบการเงินกับการวิเคราะห์หลักทรัพย์
• 1.2 กว่าจะเป็นงบการเงิน
• 1.3 รู้จักงบแสดงฐานะการเงิน
• ฯลฯ
• บทที่ 2 เครื่องมือประกอบการวิเคราะห์งบการเงิน
• 2.1 การย่อส่วนตามแนวดิ่ง (Common-size Analysis)
• 2.2 การวิเคราะห์แนวโน้ม (Trend Analysis)
• 2.3 การวิเคราะห์งบแสดงการเคลื่อนไหวของเงินทุน (Fund Flow Analysis)
• ฯลฯ
• บทที่ 3 เทคนิคการอ่านเพื่อวิเคราะห์งบการเงิน : Step by step
• 3.1 งบการเงินกับการวิเคราะห์หลักทรัพย์
• 3.2 การอ่านและวิเคราะห์งบการเงิน
• 3.3 การเขียนรายงานการวิเคราะห์งบการเงิน
• 3.4 สรุป
• บทที่ 4 ฝึกปฏิบัติอ่านงบ : ลองทำดู คุณทำได้
• 4.1 ข้อมูลงบการเงิน (งบรวม)
• 4.2 ข้อมูลเครื่องมือประกอบการวิเคราะห์งบการเงิน
• 4.3 สรุปรายงานการวิเคราะห์งบการเงินปี 2555 และ 2556
• 4.4 สรุป

 

 

สรุปข้อคิดจากหนังสือ

“คัมภีร์วิเคราะห์งบการเงิน” เป็นคู่มือที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของการวิเคราะห์งบการเงิน ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงเทคนิคขั้นสูง หนังสือแบ่งเนื้อหาเป็น 4 บทหลัก เริ่มจากความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับงบการเงิน เครื่องมือวิเคราะห์ เทคนิคการอ่านและวิเคราะห์แบบ step-by-step ไปจนถึงการฝึกปฏิบัติจริง ทำให้ผู้อ่านสามารถเรียนรู้และพัฒนาทักษะการวิเคราะห์งบการเงินได้อย่างเป็นระบบ เหมาะสำหรับทั้งนักลงทุนมือใหม่และผู้ที่ต้องการต่อยอดความรู้

1. ความสำคัญของงบการเงินต่อการวิเคราะห์หลักทรัพย์

งบการเงินเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญที่สุดในการวิเคราะห์หลักทรัพย์ หนังสือเล่มนี้ชี้ให้เห็นว่าการเข้าใจงบการเงินอย่างถ่องแท้จะช่วยให้นักลงทุนสามารถประเมินฐานะทางการเงิน ผลการดำเนินงาน และแนวโน้มในอนาคตของบริษัทได้อย่างแม่นยำ การวิเคราะห์งบการเงินที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนและเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดี

2. กระบวนการจัดทำงบการเงิน

หนังสืออธิบายกระบวนการจัดทำงบการเงินตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้ผู้อ่านเข้าใจที่มาของตัวเลขในงบการเงิน รวมถึงข้อจำกัดและข้อควรระวังต่างๆ ความรู้นี้ช่วยให้นักลงทุนสามารถอ่านงบการเงินได้อย่างมีวิจารณญาณ โดยตระหนักถึงข้อจำกัดของข้อมูลทางบัญชีและความเป็นไปได้ของการตกแต่งตัวเลข การเข้าใจกระบวนการจัดทำงบการเงินจะช่วยให้วิเคราะห์ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

3. องค์ประกอบของงบแสดงฐานะการเงิน

หนังสืออธิบายองค์ประกอบสำคัญของงบแสดงฐานะการเงิน (งบดุล) อย่างละเอียด ทั้งสินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของผู้ถือหุ้น พร้อมยกตัวอย่างประกอบ ทำให้ผู้อ่านเข้าใจความหมายและความสำคัญของแต่ละรายการ การเข้าใจงบแสดงฐานะการเงินอย่างถ่องแท้จะช่วยให้ประเมินความมั่นคงทางการเงินและโครงสร้างเงินทุนของบริษัทได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการวิเคราะห์หลักทรัพย์

4. เทคนิคการวิเคราะห์แนวดิ่ง (Common-size Analysis)

หนังสือแนะนำเทคนิคการวิเคราะห์แนวดิ่งซึ่งเป็นการแปลงตัวเลขในงบการเงินให้อยู่ในรูปร้อยละ ช่วยให้เปรียบเทียบโครงสร้างทางการเงินระหว่างบริษัทหรือระหว่างปีได้ง่ายขึ้น เทคนิคนี้ทำให้เห็นสัดส่วนของรายการต่างๆ เทียบกับยอดรวม ช่วยในการวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุน โครงสร้างสินทรัพย์ และแหล่งเงินทุน การใช้เทคนิคนี้จะช่วยให้นักลงทุนมองเห็นภาพรวมและจุดเด่นจุดด้อยของบริษัทได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

5. การวิเคราะห์แนวโน้ม (Trend Analysis)

หนังสืออธิบายวิธีการวิเคราะห์แนวโน้มซึ่งเป็นการเปรียบเทียบข้อมูลทางการเงินย้อนหลังหลายปี เพื่อดูทิศทางการเปลี่ยนแปลง เทคนิคนี้ช่วยให้เห็นพัฒนาการของบริษัทในระยะยาว ทั้งด้านการเติบโตของรายได้ ความสามารถในการทำกำไร และประสิทธิภาพการดำเนินงาน การวิเคราะห์แนวโน้มที่ดีจะช่วยให้นักลงทุนคาดการณ์อนาคตของบริษัทได้แม่นยำขึ้น และสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีหลักการ

6. การวิเคราะห์งบกระแสเงินสด

หนังสือให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์งบกระแสเงินสด ซึ่งแสดงแหล่งที่มาและการใช้ไปของเงินสดในกิจกรรมดำเนินงาน ลงทุน และจัดหาเงิน การวิเคราะห์งบนี้จะช่วยประเมินคุณภาพกำไร สภาพคล่อง และความยั่งยืนทางการเงินของบริษัท นักลงทุนจะได้เรียนรู้วิธีการแยกแยะกระแสเงินสดจากแต่ละกิจกรรม และตีความหมายของข้อมูลเพื่อประเมินสุขภาพทางการเงินของบริษัทได้อย่างแม่นยำ

7. เทคนิคการอ่านงบการเงินแบบ Step by Step

หนังสือนำเสนอเทคนิคการอ่านและวิเคราะห์งบการเงินแบบเป็นขั้นตอน ทำให้ผู้อ่านสามารถเรียนรู้และฝึกฝนได้ด้วยตนเอง โดยเริ่มจากการดูภาพรวม ไปจนถึงการวิเคราะห์เชิงลึกในแต่ละส่วน วิธีการนี้ช่วยให้นักลงทุนมือใหม่สามารถเริ่มต้นวิเคราะห์งบการเงินได้อย่างเป็นระบบ ลดความสับสนและความซับซ้อนของข้อมูลทางการเงิน ทำให้การวิเคราะห์หลักทรัพย์เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน

8. การเขียนรายงานวิเคราะห์งบการเงิน

หนังสือแนะนำวิธีการเขียนรายงานวิเคราะห์งบการเงินอย่างเป็นมืออาชีพ โดยเน้นการนำเสนอข้อมูลที่สำคัญ การตีความ และการให้ข้อเสนอแนะ ทักษะนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนในการสรุปและสื่อสารผลการวิเคราะห์ของตนเอง รวมถึงการอ่านและทำความเข้าใจรายงานวิเคราะห์จากนักวิเคราะห์มืออาชีพ การเขียนรายงานที่ดีจะช่วยให้การตัดสินใจลงทุนมีหลักการและเป็นระบบมากขึ้น

9. การฝึกปฏิบัติวิเคราะห์งบการเงินจริง

หนังสือมีส่วนของการฝึกปฏิบัติโดยใช้ข้อมูลงบการเงินจริง ทำให้ผู้อ่านได้ทดลองใช้เครื่องมือและเทคนิคต่างๆ ที่ได้เรียนรู้ การฝึกปฏิบัตินี้ช่วยให้เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง ผู้อ่านจะได้เรียนรู้วิธีการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ และสรุปผลอย่างเป็นระบบ ทำให้มั่นใจได้ว่าสามารถนำความรู้ไปใช้ในการวิเคราะห์หลักทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

10. การวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน

หนังสืออธิบายการใช้อัตราส่วนทางการเงินต่างๆ ในการวิเคราะห์สุขภาพทางการเงินของบริษัท ทั้งด้านสภาพคล่อง ความสามารถในการทำกำไร ประสิทธิภาพการดำเนินงาน และโครงสร้างเงินทุน ผู้อ่านจะได้เรียนรู้วิธีการคำนวณและตีความอัตราส่วนสำคัญ รวมถึงข้อควรระวังในการใช้ การวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงินที่ถูกต้องจะช่วยให้นักลงทุนสามารถเปรียบเทียบผลการดำเนินงานระหว่างบริษัทและระหว่างอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

11. การวิเคราะห์คุณภาพกำไร

หนังสือเน้นย้ำความสำคัญของการวิเคราะห์คุณภาพกำไร ซึ่งไม่ใช่แค่ดูตัวเลขกำไรสุทธิเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาที่มาของกำไร ความสม่ำเสมอ และความสอดคล้องกับกระแสเงินสด ผู้อ่านจะได้เรียนรู้วิธีการตรวจสอบรายการพิเศษ การเปลี่ยนแปลงนโยบายบัญชี และสัญญาณเตือนอื่นๆ ที่อาจบ่งชี้ถึงการตกแต่งกำไร การวิเคราะห์คุณภาพกำไรที่ดีจะช่วยให้นักลงทุนสามารถประเมินความยั่งยืนของผลประกอบการได้อย่างแม่นยำ

12. การวิเคราะห์โครงสร้างเงินทุน

หนังสืออธิบายวิธีการวิเคราะห์โครงสร้างเงินทุนของบริษัท ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการประเมินความเสี่ยงทางการเงิน ผู้อ่านจะได้เรียนรู้วิธีการวิเคราะห์สัดส่วนหนี้สินต่อทุน ความสามารถในการชำระดอกเบี้ย และแหล่งที่มาของเงินทุน การเข้าใจโครงสร้างเงินทุนจะช่วยให้นักลงทุนสามารถประเมินความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวของบริษัทได้ดียิ่งขึ้น และเลือกลงทุนในบริษัทที่มีโครงสร้างเงินทุนเหมาะสมกับลักษณะธุรกิจและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

13. การวิเคราะห์ประสิทธิภาพการดำเนินงาน

หนังสือนำเสนอเทคนิคการวิเคราะห์ประสิทธิภาพในการดำเนินงานของบริษัท โดยใช้อัตราส่วนต่างๆ เช่น อัตราการหมุนเวียนของสินทรัพย์ สินค้าคงเหลือ และลูกหนี้การค้า ผู้อ่านจะได้เรียนรู้วิธีการประเมินว่าบริษัทใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด การวิเคราะห์ประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดีจะช่วยให้นักลงทุนเข้าใจความสามารถในการแข่งขันและโอกาสในการเติบโตของบริษัทได้ดียิ่งขึ้น

14. การวิเคราะห์ความสามารถในการทำกำไร

หนังสืออธิบายวิธีการวิเคราะห์ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทอย่างละเอียด โดยพิจารณาทั้งอัตรากำไรขั้นต้น อัตรากำไรจากการดำเนินงาน และอัตรากำไรสุทธิ ผู้อ่านจะได้เรียนรู้วิธีการประเมินประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่าย รวมถึงความสามารถในการแปลงยอดขายเป็นกำไร การวิเคราะห์ความสามารถในการทำกำไรที่ดีจะช่วยให้นักลงทุนสามารถคาดการณ์ผลตอบแทนจากการลงทุนในอนาคตได้แม่นยำยิ่งขึ้น

15. การประยุกต์ใช้ความรู้ในการตัดสินใจลงทุน

หนังสือปิดท้ายด้วยการแนะนำวิธีการนำความรู้ทั้งหมดมาประยุกต์ใช้ในการตัดสินใจลงทุนจริง ผู้อ่านจะได้เรียนรู้วิธีการบูรณาการข้อมูลจากการวิเคราะห์งบการเงินกับปัจจัยอื่นๆ เช่น แนวโน้มอุตสาหกรรม กลยุทธ์ของบริษัท และสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ เพื่อตัดสินใจลงทุนอย่างรอบคอบ การประยุกต์ใช้ความรู้อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างพอร์ตการลงทุนที่มีคุณภาพและผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

สรุป

“คัมภีร์วิเคราะห์งบการเงิน” เป็นหนังสือที่ให้ความรู้ครบถ้วนเกี่ยวกับการวิเคราะห์งบการเงินสำหรับการลงทุนในหลักทรัพย์ โดยครอบคลุมตั้งแต่ความรู้พื้นฐานไปจนถึงเทคนิคขั้นสูง หนังสือนำเสนอเนื้อหาอย่างเป็นระบบ เริ่มจากการทำความเข้าใจองค์ประกอบของงบการเงิน ไปจนถึงการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ต่างๆ และการฝึกปฏิบัติจริง ทำให้ผู้อ่านสามารถพัฒนาทักษะการวิเคราะห์งบการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หนังสือเล่มนี้ไม่เพียงแต่สอนทฤษฎีเท่านั้น แต่ยังเน้นการประยุกต์ใช้ความรู้ในการตัดสินใจลงทุนจริง ทำให้ผู้อ่านสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการประเมินฐานะทางการเงิน ผลการดำเนินงาน หรือแนวโน้มในอนาคตของบริษัท การอ่านหนังสือเล่มนี้จะช่วยให้นักลงทุนมีเครื่องมือที่จำเป็นในการวิเคราะห์หลักทรัพย์อย่างเป็นระบบ ลดความเสี่ยงในการลงทุน และเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว