สรุปหนังสือ Principles for Dealing with the Changing World Order: Why Nations Succeed and Fail

หนังสือ Principles for Dealing with the Changing World Order
หนังสือ Principles for Dealing with the Changing World Order

ข้อมูลทั่วไป

ชื่อหนังสือ : Principles for Dealing with the Changing World Order: Why Nations Succeed and Fail

ชื่อผู้แต่ง : Ray Dalio

สำนักพิมพ์ : Avid Reader Press / Simon & Schuster

ปีที่พิมพ์ : 2564

จำนวนหน้า : 576 หน้า

หมวดหนังสือ : การเงินการลงทุน, ประวัติศาสตร์, ภูมิรัฐศาสตร์

สารบัญ

  • Part 1 โลกใบนี้ดำเนินมาอย่างไร
    • บทที่ 1 วัฏจักรรอบใหญ่โดยสังเขป
    • บทที่ 2 ปัจจัยเฉพาะ
    • บทที่ 3 วัฏจักรรอบใหญ่ของเงิน
    • บทที่ 4 การเปลี่ยนแปลงในมูลค่าของเงิน
    • บทที่ 5 วัฏจักรรอบใหญ่ของระเบียบอำนาจและความวุ่นวายภายใน
    • บทที่ 6 วัฏจักรรอบใหญ่ของระเบียบอำนาจและความวุ่นวายภายนอก
    • บทที่ 7 การลงทุนให้สอดคล้องไปตามวัฏจักรรอบใหญ่
  • Part 2 โลกดำเนินมาอย่างไรในช่วง 500 ปีที่ผ่านมา
    • บทที่ 8 ประวัติศาสตร์รอบ 500 ปีโดยสังเขป
    • บทที่ 9 วัฏจักรรอบใหญ่ของการรุ่งเรืองและเสื่อมถอยของจักรวรรดิดัตซ์และกิลเดอร์
    • บทที่ 10 วัฏจักรรอบใหญ่ของการรุ่งเรืองและเสื่อมถอยของจักรวรรดิอังกฤษและปอนด์
    • บทที่ 11 วัฏจักรรอบใหญ่ของการรุ่งเรืองและเสื่อมถอยของสหรัฐฯ และดอลลาร์
    • บทที่ 12 วัฏจักรรอบใหญ่ของการรุ่งเรืองและเสื่อมถอยของจีนและหยวน
    • บทที่ 13 ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ – จีนและสงคราม
  • Part 3 อนาคต
    • บทที่ 14 อนาคต

สรุปข้อคิดจากหนังสือ

หนังสือเล่มนี้นำเสนอการวิเคราะห์ประวัติศาสตร์การเปลี่ยนแปลงระเบียบโลกผ่านมุมมองของ Ray Dalio นักลงทุนระดับโลกและผู้ก่อตั้ง Bridgewater Associates ซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก Dalio นำเสนอกรอบการวิเคราะห์ที่เรียกว่า “วัฏจักรรอบใหญ่” (Big Cycles) ที่แสดงให้เห็นแบบแผนการเกิดขึ้น รุ่งเรือง และเสื่อมถอยของมหาอำนาจและสกุลเงินต่างๆ ตลอดประวัติศาสตร์ 500 ปีที่ผ่านมา โดยใช้การวิเคราะห์เปรียบเทียบจากประวัติศาสตร์ของจักรวรรดิดัตช์ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา และจีน

1. เข้าใจวัฏจักรรอบใหญ่ (Big Cycles) ของประวัติศาสตร์

Dalio เสนอว่าประวัติศาสตร์ดำเนินไปในรูปแบบของวัฏจักรที่มีแบบแผนซ้ำๆ ไม่ใช่แค่เกิดขึ้นแบบสุ่ม วัฏจักรรอบใหญ่ที่สำคัญที่สุด 3 ประการ ได้แก่ วัฏจักรของการมีเงินที่ดีหรือไม่ดี (หนี้และตลาดทุน) วัฏจักรของระเบียบและความโกลาหลภายในประเทศ และวัฏจักรของระเบียบและความโกลาหลระหว่างประเทศ เมื่อเข้าใจวัฏจักรเหล่านี้ เราจะสามารถคาดการณ์แนวโน้มในอนาคตและเตรียมรับมือได้ดีขึ้น แม้ว่าแต่ละวัฏจักรจะไม่เกิดขึ้นในรูปแบบที่แน่นอนเหมือนกันทุกครั้ง แต่โครงสร้างพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลงยังคงคล้ายคลึงกัน ทำให้สามารถเรียนรู้บทเรียนจากอดีตเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในปัจจุบันและอนาคตได้

2. ระเบียบโลกกำลังเปลี่ยนแปลงตามวัฏจักรทางประวัติศาสตร์

เราอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านของระเบียบโลกครั้งใหญ่ สหรัฐอเมริกาในฐานะมหาอำนาจเดิมกำลังเผชิญกับการท้าทายจากจีนซึ่งเป็นมหาอำนาจใหม่ที่กำลังผงาดขึ้น รูปแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งในประวัติศาสตร์ เช่น การผงาดขึ้นของดัตช์แทนที่สเปนและโปรตุเกส การขึ้นมาของอังกฤษแทนที่ดัตช์ และการขึ้นมาของสหรัฐอเมริกาแทนที่อังกฤษ การเปลี่ยนแปลงระเบียบโลกมักนำไปสู่ความขัดแย้ง และบางครั้งก็นำไปสู่สงคราม ดังนั้น ความเข้าใจในแบบแผนเหล่านี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการนำทางผ่านช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงที่เราเผชิญอยู่

3. เศรษฐกิจและการเมืองมีความเชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ออก

หนึ่งในข้อคิดสำคัญของ Dalio คือ การเมืองและเศรษฐกิจไม่สามารถแยกจากกันได้ เมื่อประเทศมีปัญหาทางเศรษฐกิจรุนแรง เช่น หนี้สินล้นพ้นตัว ความเหลื่อมล้ำสูง หรือเศรษฐกิจตกต่ำ มักจะนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองและสังคม ในทางกลับกัน การไร้เสถียรภาพทางการเมืองก็ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เกิดเป็นวงจรที่เสริมแรงกันไปมา ดังนั้นการวิเคราะห์สถานการณ์ระดับโลกจึงต้องพิจารณาทั้งมิติทางเศรษฐกิจและการเมืองควบคู่กันไป ไม่สามารถมองแยกส่วนได้

4. วงจรหนี้และเงินเป็นตัวขับเคลื่อนวัฏจักรเศรษฐกิจและการเมือง

Dalio ให้ความสำคัญกับวัฏจักรหนี้ระยะยาวและระบบการเงินในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและการเมือง เมื่อประเทศใดมีหนี้มหาศาลและนโยบายการเงินแบบเดิมไม่ได้ผล รัฐบาลมักจะลงเอยด้วยการพิมพ์เงินจำนวนมาก (การผ่อนคลายเชิงปริมาณ) ซึ่งนำไปสู่เงินเฟ้อและการลดค่าเงิน เห็นได้ชัดเจนในประวัติศาสตร์มหาอำนาจต่างๆ แม้แต่สหรัฐอเมริกาในปัจจุบันก็กำลังเผชิญกับการสะสมหนี้มหาศาล และการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเชิงปริมาณอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่ความไม่มั่นคงทางการเงินและการเมืองในอนาคต

5. ศึกษาตัวชี้วัด 8 ประการของความเข้มแข็งของประเทศ

Dalio เสนอตัวชี้วัดสำคัญ 8 ประการที่แสดงถึงความเข้มแข็งของประเทศ ได้แก่ (1) การศึกษา (2) ความสามารถในการแข่งขัน (3) นวัตกรรมและเทคโนโลยี (4) ผลผลิตทางเศรษฐกิจ (5) ส่วนแบ่งการค้าในระดับโลก (6) ความเข้มแข็งทางการทหาร (7) ความเข้มแข็งในการเป็นศูนย์กลางทางการเงิน และ (8) สถานะการเป็นสกุลเงินสำรองหลัก ปัจจัยเหล่านี้ส่วนใหญ่มักเพิ่มขึ้นและลดลงพร้อมกันในระยะยาว โดยเฉพาะปัจจัยด้านการศึกษาและนวัตกรรมมักนำหน้าปัจจัยอื่นๆ เมื่อเราวิเคราะห์ตัวชี้วัดเหล่านี้ จะช่วยให้เราเข้าใจสถานะของประเทศต่างๆ ในวัฏจักรความเข้มแข็งและการเปลี่ยนแปลงระเบียบโลกได้ดีขึ้น

6. วงจรการผงาด จุดสูงสุด และการเสื่อมถอยของจักรวรรดิ

จักรวรรดิและประเทศมหาอำนาจต่างๆ ล้วนผ่านวงจร 3 ระยะที่คล้ายคลึงกัน ได้แก่:

ช่วงการผงาด – เมื่อประเทศมีพื้นฐานเข้มแข็ง ระดับหนี้ต่ำ ช่องว่างความมั่งคั่งและค่านิยมระหว่างคนในประเทศยังน้อย มีการศึกษาและโครงสร้างพื้นฐานที่ดี ผู้นำเข้มแข็ง และมีระเบียบอำนาจโลกที่สงบสุข

จุดสูงสุดของอำนาจ – มีลักษณะของความมากเกินพอดี เช่น หนี้สูง ช่องว่างความมั่งคั่งและค่านิยมกว้างขึ้น การศึกษาและโครงสร้างพื้นฐานเสื่อมโทรม ความขัดแย้งระหว่างชนชั้น และการท้าทายจากคู่แข่งที่เกิดใหม่

การเสื่อมถอย – ช่วงแห่งความเจ็บปวดจากการต่อสู้และการปรับโครงสร้างใหม่ เกิดความขัดแย้งรุนแรง นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และการสถาปนาระเบียบใหม่ทั้งภายในและภายนอก

เข้าใจวงจรเหล่านี้ทำให้เราสามารถระบุได้ว่าประเทศต่างๆ อยู่ในช่วงใดของวัฏจักร และคาดการณ์แนวโน้มในอนาคตได้

7. เข้าใจวัฏจักรการเปลี่ยนแปลงภายในประเทศ

Dalio ได้อธิบายวัฏจักรของระเบียบอำนาจและความวุ่นวายภายในประเทศไว้ 6 ระยะ:

ระยะที่ 1 – ระเบียบอำนาจใหม่เริ่มต้นขึ้น หลังจากผ่านความขัดแย้งรุนแรง ระยะที่ 2 – สร้างและปรับปรุงระบบจัดสรรทรัพยากรและระบบราชการ ระยะที่ 3 – เกิดความสงบสุขและรุ่งเรือง เป็นช่วงที่สมดุลที่สุด ระยะที่ 4 – มีการใช้จ่ายและก่อหนี้มากเกินไป ช่องว่างความมั่งคั่งขยายกว้าง ระยะที่ 5 – สภาวะการเงินแย่ลงและความขัดแย้งรุนแรงขึ้น ระยะที่ 6 – เกิดสงครามกลางเมืองหรือการปฏิวัติ นำไปสู่การเริ่มวัฏจักรใหม่

ปัจจุบันหลายประเทศรวมทั้งสหรัฐอเมริกากำลังอยู่ในระยะที่ 5 คือมีหนี้สูง ความเหลื่อมล้ำมาก และความขัดแย้งทางการเมืองรุนแรง ความเข้าใจในจุดที่เราอยู่ในวัฏจักรจะช่วยให้เราเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้ดีขึ้น

8. ชะตากรรมของสกุลเงินสำรองโลก

สกุลเงินสำรองโลกทุกสกุลมีวัฏจักรของตัวเอง ซึ่งมักจะสัมพันธ์กับวัฏจักรความเข้มแข็งของประเทศที่ออกเงินนั้น Dalio ชี้ให้เห็นว่า จากสกุลเงินมากกว่า 750 สกุลที่เคยมีมาตั้งแต่ปี 1700 มีเพียง 20% เท่านั้นที่ยังอยู่ และทุกสกุลล้วนเคยถูกลดค่าเงินมาแล้ว การเป็นสกุลเงินสำรองโลกมีข้อดีคือ ช่วยให้ประเทศสามารถกู้ยืมและใช้จ่ายได้มากเป็นพิเศษ แต่ก็มีข้อเสียคือ มักนำไปสู่การก่อหนี้มากเกินไปซึ่งท้ายที่สุดจะบั่นทอนมูลค่าของสกุลเงินนั้น เราเห็นวัฏจักรนี้ในกรณีของกิลเดอร์ดัตช์ ปอนด์อังกฤษ และอาจกำลังเกิดขึ้นกับดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน

9. ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน: การแข่งขันของมหาอำนาจในศตวรรษที่ 21

ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนเป็นตัวอย่างสำคัญของการเปลี่ยนผ่านอำนาจระดับโลก ทั้งสองประเทศกำลังอยู่ในจุดต่างกันของวัฏจักร โดยสหรัฐฯ กำลังอยู่ในช่วงท้ายของวัฏจักรความเป็นมหาอำนาจ ขณะที่จีนกำลังผงาดขึ้น ความขัดแย้งระหว่างสองประเทศนี้กำลังเกิดขึ้นใน 5 ด้านหลัก ได้แก่ สงครามการค้า/เศรษฐกิจ สงครามเทคโนโลยี สงครามภูมิรัฐศาสตร์ สงครามเงินทุน และอาจนำไปสู่สงครามทางการทหาร Dalio แนะนำให้ติดตามความสัมพันธ์นี้อย่างใกล้ชิด เพราะจะกำหนดรูปร่างของระเบียบโลกในทศวรรษหน้า

10. การวางแผนอนาคตท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงระเบียบโลก

ในบทสุดท้าย Dalio เสนอแนวทางการเตรียมตัวสำหรับอนาคตท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงระเบียบโลก ซึ่งรวมถึงการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน การเข้าใจตำแหน่งของประเทศและสกุลเงินต่างๆ ในวัฏจักร การเตรียมพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอน และการให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและการศึกษา นอกจากนี้ Dalio ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรับมือกับปัญหาภายในประเทศ เช่น ความเหลื่อมล้ำ หนี้สิน และความขัดแย้งทางการเมือง เพื่อหลีกเลี่ยงการเสื่อมถอยอย่างรุนแรง

11. บทบาทของนวัตกรรมและเทคโนโลยีในการเปลี่ยนแปลงระเบียบโลก

แม้ว่าวัฏจักรทางประวัติศาสตร์จะมีแบบแผนซ้ำๆ แต่นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ก็สามารถเร่งหรือเปลี่ยนแปลงวิถีของวัฏจักรได้ Dalio ชี้ให้เห็นว่าการปฏิวัติอุตสาหกรรมช่วยให้อังกฤษผงาดขึ้นเป็นมหาอำนาจ ส่วนสหรัฐอเมริกาได้รับประโยชน์จากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 2 และเทคโนโลยีดิจิทัล ปัจจุบัน เทคโนโลยีอย่าง AI, คอมพิวเตอร์ควอนตัม และเทคโนโลยีชีวภาพกำลังเปลี่ยนแปลงโลก โดยประเทศที่สามารถนำในด้านเหล่านี้จะมีความได้เปรียบในการกำหนดระเบียบโลกในอนาคต

12. ความท้าทายที่ทุกจักรวรรดิต้องเผชิญ

ในท้ายที่สุด Dalio ชี้ให้เห็นว่าทุกจักรวรรดิ ไม่ว่าจะแข็งแกร่งเพียงใด ล้วนต้องเผชิญกับความท้าทายพื้นฐานเดียวกัน นั่นคือการรักษาสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจ ความเท่าเทียมทางสังคม และเสถียรภาพทางการเมือง เมื่อใดก็ตามที่จักรวรรดิเสียสมดุลนี้ มักจะนำไปสู่ปัญหาที่บานปลายและการเสื่อมถอยในที่สุด ไม่มีจักรวรรดิใดที่อยู่ได้ตลอดไป แต่การเข้าใจกลไกเบื้องหลังวัฏจักรการเปลี่ยนแปลงจะช่วยให้เราสามารถเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นได้ดีขึ้น ดังนั้นทั้งในระดับประเทศและระดับปัจเจกบุคคล การเข้าใจวัฏจักรเหล่านี้จึงมีประโยชน์อย่างยิ่งในการวางแผนอนาคต จักรวรรดิที่มีอายุยืนยาวที่สุด เช่น จีนโบราณ ล้วนผ่านวัฏจักรการเกิดและล่มสลายของหลายราชวงศ์ แต่ที่สำคัญคือสามารถปรับตัวและฟื้นคืนได้หลังจากการล่มสลาย ซึ่งเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับประเทศมหาอำนาจในปัจจุบัน

13. การเตรียมตัวในฐานะปัจเจกบุคคล

หนึ่งในข้อคิดสำคัญสุดท้ายของ Dalio คือการเสนอแนวทางสำหรับปัจเจกบุคคลในการเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงระเบียบโลก เขาแนะนำให้กระจายความเสี่ยงในการลงทุน มองหาสินทรัพย์ที่ป้องกันเงินเฟ้อ ลงทุนในการศึกษาและทักษะที่จำเป็นสำหรับอนาคต สร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง และรักษาความยืดหยุ่นในการปรับตัว แนวคิดนี้ไม่เพียงเป็นประโยชน์สำหรับนักลงทุนเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนที่ต้องการความมั่นคงท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงระดับโลกที่รวดเร็ว Dalio ย้ำว่า ความสามารถในการปรับตัวและการมีมุมมองระยะยาวเป็นคุณสมบัติสำคัญที่สุดในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงระเบียบโลก และหลักการลงทุนที่ดีก็นำมาประยุกต์ใช้กับการดำเนินชีวิตได้เช่นกัน

14. บทเรียนจากวิกฤตการณ์ในอดีต

Dalio ใช้ตัวอย่างจากวิกฤตการณ์ในอดีต เช่น ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ สงครามโลกทั้งสองครั้ง และวิกฤตการเงินปี 2008 เพื่อแสดงให้เห็นว่าวิกฤตเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากวัฏจักรหนี้ ความเหลื่อมล้ำ และการเปลี่ยนแปลงอำนาจระดับโลก การเข้าใจบทเรียนเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้เราเข้าใจอดีต แต่ยังช่วยให

สรุป

หนังสือ “Principles for Dealing with the Changing World Order” ของ Ray Dalio นำเสนอกรอบแนวคิดที่ลึกซึ้งในการทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงระเบียบโลกผ่านมุมมองของวัฏจักรทางประวัติศาสตร์ โดยวิเคราะห์แบบแผนการเกิดขึ้น รุ่งเรือง และเสื่อมถอยของมหาอำนาจและสกุลเงินต่างๆ ตลอด 500 ปีที่ผ่านมา

เราอยู่ในช่วงเวลาสำคัญของการเปลี่ยนแปลงระเบียบโลก โดยสหรัฐอเมริกากำลังเผชิญกับความท้าทายทั้งภายในและภายนอกประเทศ ขณะที่จีนกำลังผงาดขึ้นเป็นมหาอำนาจคู่แข่ง ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากวัฏจักรระยะยาวของหนี้ ความเหลื่อมล้ำ ความขัดแย้งภายในประเทศ และการเปลี่ยนแปลงความสามารถในการแข่งขันระหว่างประเทศ

แม้ว่าหนังสือนี้จะนำเสนอภาพของความขัดแย้งและการเปลี่ยนแปลงที่อาจท้าทาย แต่ก็ให้ความหวังในแง่ที่ว่าการเข้าใจวัฏจักรเหล่านี้จะช่วยให้เราเตรียมตัวและปรับตัวได้ดีขึ้น ทั้งในระดับประเทศและระดับปัจเจกบุคคล นวัตกรรมและการพัฒนาทางเทคโนโลยียังคงมีบทบาทสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ของมนุษยชาติในระยะยาว แม้จะมีการสะดุดและความไม่แน่นอนในระยะสั้น

ในท้ายที่สุด บทเรียนสำคัญจากหนังสือเล่มนี้คือ ไม่มีประเทศหรือระเบียบโลกใดที่ดำรงอยู่ตลอดไป แต่ความเข้าใจในกลไกของการเปลี่ยนแปลงจะช่วยให้เราสามารถรับมือกับอนาคตได้อย่างมีวิสัยทัศน์และยืดหยุ่นมากขึ้น