
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อหนังสือ : MONEY SCRIPT วิธีคิดที่ทำให้ชีวิตสนิทกับเงิน
ชื่อผู้แต่ง : Mentalist Daigo
ผู้แปล : กมลวรรณ เพ็ญอร่าม
สำนักพิมพ์ : อมรินทร์ How To
ปีที่พิมพ์ : 2567
จำนวนหน้า : 268 หน้า
สารบัญ
- บทนำ
- มันนี่สคริปต์ที่ฝังตรึงอยู่ในตัวคุณ
- หยุดวิกฤตเงินลดลงเรื่อย ๆ ด้วยตัวคุณเอง
- แก้ไขมันนี่สคริปต์ด้วยความรู้สึกเหมือนเล่นเกม
- บทที่ 1 Test แบบทดสอบมันนี่สคริปต์
- มารู้จักมันนี่สคริปต์ของตัวเองกันเถอะ
- มันนี่สคริปต์ 4 ประเภท
- กฎของแบบทดสอบมันนี่สคริปต์
- บทที่ 2 Input 8 มันนี่สคริปต์ที่นำพาความมั่งคั่ง
- ปูรากฐานของความเป็นคนรวย
- มันนี่สคริปต์ที่นำพาความมั่งคั่ง (1) เงินเก็บเป็นสิ่งสำคัญ
- “การลงทุนในตัวเอง” สำคัญกว่า “การประหยัด”
- บทที่ 3 Rewriting เขียนมันนี่สคริปต์ใหม่จากแนวคิดแบบคนทั่วไปสู่คนรวย
- เขียนเพื่อเปลี่ยนมันนี่สคริปต์ที่บิดเบี้ยว
- ตารางแสดงมันนี่สคริปต์แห่งความยากจน
- มันนี่สคริปต์ยอดแย่ (1) มันนี่สคริปต์แบบอุทิศตน
สรุปข้อคิดจากหนังสือ
หนังสือเล่มนี้นำเสนอแนวคิด “มันนี่สคริปต์” (Money Script) ซึ่งเป็นชุดความคิดและความเชื่อที่เรามีต่อเงิน ผู้เขียนชี้ให้เห็นว่า มันนี่สคริปต์เป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดความสำเร็จทางการเงินของเรา มากถึง 90% โดยบทเรียนสำคัญจากหนังสือเล่มนี้คือ การตระหนักรู้ถึงมันนี่สคริปต์ที่บิดเบี้ยวของเราและการเปลี่ยนแปลงมันให้กลายเป็นชุดความคิดแห่งความมั่งคั่ง เพื่อนำพาชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น
1. รู้จักประเภทของมันนี่สคริปต์
มันนี่สคริปต์แบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่ 1) หลีกเลี่ยงเงิน 2) บูชาเงิน 3) มองเงินเป็นสถานะ และ 4) ระแวดระวังเงิน ทุกคนล้วนมีแนวโน้มที่จะมีมันนี่สคริปต์แบบใดแบบหนึ่งหรือหลายแบบผสมกัน สิ่งสำคัญคือการมีความสมดุลที่ดี ไม่โน้มเอียงไปทางใดทางหนึ่งมากเกินไป เช่น คนที่ระแวดระวังเรื่องเงินมากเกินไปอาจไม่ยอมใช้เงินในเวลาที่จำเป็น ในขณะที่คนที่ไม่ระแวดระวังเรื่องเงินเลยอาจใช้จ่ายฟุ่มเฟือยจนเกินพอดี การเข้าใจแนวโน้มของตัวเองจะช่วยให้เราปรับสมดุลได้ดีขึ้น
2. เงินเก็บเป็นสิ่งสำคัญ
มันนี่สคริปต์ที่สร้างความมั่งคั่งประการแรกคือการให้ความสำคัญกับเงินเก็บ นี่หมายถึงการเก็บเงินไว้ลงทุนอย่างมีวินัยและต่อเนื่อง ซึ่งต้องอาศัยการรู้จักประหยัดเป็นพื้นฐาน อุปสรรคสำคัญที่ทำให้คนเก็บเงินไม่อยู่คือกับดัก 4 ประการ ได้แก่ 1) การยึดคนอื่นเป็นเกณฑ์ตัดสินคุณค่า (Majority Bias) 2) ติดอยู่ในห่วงโซ่การใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น (Expenditure Cascades) 3) การเกิดต้นทุนแอบแฝงจากพฤติกรรมทำตาม (Herding Behavior) และ 4) การใช้จ่ายเพื่อแสดงสถานะ (Snob Effect) การรู้เท่าทันกับดักเหล่านี้จะช่วยให้เราประหยัดและเก็บเงินได้มากขึ้น
3. มอบสิ่งต่าง ๆ ให้ผู้คนที่กำลังเดือดร้อน
การให้ไม่จำเป็นต้องเป็นเงินเสมอไป แต่อาจเป็นการให้ความรู้ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ การแนะนำคนที่สามารถช่วยเหลืออีกฝ่ายได้ หรือการให้ความช่วยเหลือในยามยาก ผู้ให้สามารถแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ Top Giver ที่ให้ทั้งอีกฝ่ายและตัวเอง และ Bottom Giver ที่ให้เฉพาะคนอื่นจนอาจทำร้ายตัวเอง การเป็น Top Giver คือการสร้างสมดุลที่ดีในการให้ ไม่ให้มากเกินไปจนตัวเองเดือดร้อน แต่ก็ไม่เอาแต่รับโดยไม่เคยให้ใคร
4. เงินเป็นเครื่องมือในการซื้ออิสรภาพ
เงินไม่ใช่เป้าหมายในตัวมันเองแต่เป็นเครื่องมือในการซื้ออิสรภาพ หรือจำนวนทางเลือกในชีวิต การมีเงินหมายถึงการมีอิสระในการเลือกทำสิ่งที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกงานที่รัก การใช้เวลากับครอบครัวมากขึ้น หรือแม้แต่การหยุดทำงานและพักผ่อนเมื่อต้องการ อย่างไรก็ตาม ต้องระวังมันนี่สคริปต์ที่ผิดเพี้ยน เช่น ความเชื่อที่ว่า “ยิ่งมีเงินมากเท่าไหร่ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น” หรือ “ถ้ามีเงินจะได้รับการนับหน้าถือตา” เพราะความคิดเหล่านี้อาจนำไปสู่พฤติกรรมที่ทำให้ยากจนได้ เช่น การทำงานหนักจนสุขภาพแย่ หรือการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเพื่อสร้างภาพลักษณ์
5. ทำงานอย่างสนุกสนาน
งานเป็นส่วนสำคัญของการสร้างรายได้และความมั่งคั่ง ผลวิจัยชี้ให้เห็นว่าคนรวยมักทำงานมากกว่าคนทั่วไป พวกเขามีแนวโน้มที่จะติดต่อได้ตลอดเวลา ทำงานล่วงเวลา และอยู่ในที่ทำงานแม้ในวันหยุด อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือการทำงานอย่างมีความสุข มีอิสระ และไม่รู้สึกถูกบังคับ หากรู้สึกไม่มีความสุขกับงานปัจจุบัน อาจถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนงาน หรือหากเป็นผู้บริหาร ก็ควรสร้างสภาพแวดล้อมที่ให้พนักงานทำงานอย่างมีอิสระและมีความสุข
6. เชื่อว่าตนเองคู่ควรที่จะมีเงิน
มันนี่สคริปต์ที่ว่า “ฉันคู่ควรที่จะมีเงิน” เป็นความเชื่อสำคัญที่นำไปสู่ความมั่งคั่ง หากคิดว่าตัวเองไม่มีค่าพอที่จะได้เงิน คุณจะเลือกตัวเลือกที่เสียผลประโยชน์เสมอ การสร้างนิสัยการคิดแง่บวกเกี่ยวกับคุณค่าของตัวเองจะส่งผลดีต่อการเงินอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ต้องระวังไม่ให้มันนี่สคริปต์นี้มีความเข้มข้นเกินไป เพราะอาจนำไปสู่การเป็นหนี้ได้ง่าย ควรเพิ่มความคิดว่า “ฉันจะบรรลุเป้าหมายด้วยความสามารถของตัวเอง” ด้วย
7. เชื่อว่าตนเองควบคุมชีวิตตัวเองได้
มันนี่สคริปต์เรื่องการควบคุมชีวิตตัวเองเกี่ยวข้องกับความเชื่อในอำนาจควบคุม (Locus of Control) คนที่มีมันนี่สคริปต์ว่า “ฉันควบคุมชีวิตตัวเองได้” จะมองว่าอำนาจควบคุมอยู่ที่ภายในตัวเอง ในขณะที่คนที่ไม่มีมันนี่สคริปต์นี้จะมองว่าอำนาจควบคุมอยู่ที่ภายนอก เช่น คนอื่นหรือสิ่งแวดล้อม คนที่เชื่อว่าตัวเองควบคุมชีวิตได้ เมื่อเผชิญความล้มเหลวจะมองหาสาเหตุจากตัวเอง นำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมและการเติบโตทางความคิด ต่างจากคนที่มักโทษปัจจัยภายนอก ซึ่งไม่นำไปสู่การแก้ปัญหาที่แท้จริง
8. กล้าพึ่งพาคนอื่นในยามเดือดร้อน
แม้จะถูกสอนให้ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น แต่เราไม่สามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง การพึ่งพาผู้อื่นเมื่อจำเป็นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่สมดุล คนที่รู้จักพึ่งพาคนอื่นก็จะเป็นที่พึ่งพาของคนอื่นได้เช่นกัน นี่เป็นการสร้างเครือข่ายความช่วยเหลือที่จะช่วยให้เราฟื้นตัวจากความล้มเหลวได้เร็วขึ้น การไม่ยอมขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นอาจทำให้เสียโอกาสในการเติบโตและพบกับความสำเร็จ
9. เห็นคุณค่าของการเชื่อมโยงสู่ผลกำไร
การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นสามารถนำไปสู่โอกาสทางธุรกิจและการเงิน แต่ต้องเป็นความสัมพันธ์ที่มีคุณค่าและมีเป้าหมายที่ชัดเจน ไม่ใช่แค่การสร้างภาพหรือการมีสถานะทางสังคม เช่น การซื้อรถหรูเพื่อเข้าชมรมเดียวกับคนระดับไฮคลาส อาจเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าหากนำไปสู่การได้รู้จักคนที่จะช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจ นี่คือการซื้อเส้นสายหรือข้อมูลข่าวสารที่มีคุณค่า ไม่ใช่แค่การแสดงสถานะ
10. เปลี่ยนมันนี่สคริปต์ที่บิดเบี้ยวเป็นมันนี่สคริปต์ที่ถูกต้อง
หนังสือนี้แนะนำให้รู้จักมันนี่สคริปต์ที่บิดเบี้ยวของตัวเอง แล้วเขียนมันนี่สคริปต์ใหม่ที่ถูกต้อง ตัวอย่างเช่น เปลี่ยนจาก “การลงทุนเป็นเรื่องที่มืออาชีพเขาทำกัน” เป็น “การลงทุนเป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้และตัดสินใจด้วยตัวเอง” มันนี่สคริปต์ที่บิดเบี้ยวมีหลายประเภท เช่น แบบอุทิศตน แบบคนตระหนี่ แบบใช้จ่ายโดยไม่วางแผน แบบเผาผลาญเงินที่ได้มาง่าย ๆ แบบคนถูกหลอก แบบหนีห่างจากความมั่งคั่ง แบบต่อต้านความมั่งคั่ง แบบนักพนัน แบบใช้จ่ายอย่างขาดสติ แบบใช้จ่ายน้อยเกินไป และแบบคนบ้างาน การรู้จักมันนี่สคริปต์เหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถปรับเปลี่ยนความคิดของตัวเองได้
11. ระวังกับดักการใช้จ่ายที่เพิ่มความยากจน
กับดักที่ทำให้เราใช้จ่ายมากเกินไปมีหลายประการ หนึ่งในนั้นคือกฎของพาร์กินสัน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เมื่อมีรายได้มากขึ้น เราก็จะใช้จ่ายมากขึ้นตามไปด้วย ทำให้เก็บเงินไม่อยู่ แทนที่จะคิดว่า “มีรายได้มากขึ้น ใช้เงินได้มากขึ้น” ควรคิดว่า “จะนำเงินส่วนที่ได้เพิ่มไปออมหรือลงทุนเพื่อเพิ่มเงินต่อไป” นอกจากนี้ยังต้องระวังความเอนเอียงตามคนหมู่มาก การใช้จ่ายแบบลดหลั่น และพฤติกรรมทำตาม ซึ่งล้วนเป็นกับดักทางจิตวิทยาที่ทำให้เราใช้จ่ายมากเกินความจำเป็น
12. ลงทุนในตัวเองอย่างชาญฉลาด
แม้ว่าการประหยัดจะสำคัญ แต่บางครั้งการลงทุนในตัวเองก็สำคัญไม่แพ้กัน การลงทุนในความรู้ ทักษะ หรือสุขภาพ อาจให้ผลตอบแทนที่มากกว่าเงินที่ประหยัดได้ อย่างไรก็ตาม ต้องเป็นการลงทุนที่มีเหตุผล ไม่ใช่แค่ข้ออ้างในการใช้จ่าย เช่น หากต้องการเริ่มธุรกิจ ไม่จำเป็นต้องลงทุนมากตั้งแต่แรก ควรเริ่มเล็ก ๆ และค่อย ๆ เติบโต หลีกเลี่ยงธุรกิจที่ต้องมีสต๊อกสินค้ามาก ใช้ต้นทุนสูง หรือไม่สามารถทดสอบในขนาดเล็กได้
13. เรียนรู้วิธีจัดการกับเงินที่ได้มาโดยไม่ต้องลงแรง
เงินที่ได้มาโดยไม่ต้องลงแรง เช่น เงินจากการถูกลอตเตอรี่ โบนัสที่ไม่คาดคิด หรือเงินมรดก มักถูกมองว่าไม่ใช่เงินของตัวเอง และมีแนวโน้มที่จะถูกใช้จ่ายไปอย่างรวดเร็ว แต่เงินคือเงิน ไม่ว่าจะได้มาอย่างไร ควรปฏิบัติต่อเงินเหล่านี้เช่นเดียวกับเงินที่ได้จากการทำงานหนัก คือเก็บออมและลงทุนอย่างมีวินัย นอกจากนี้ ยังควรตระหนักถึงมันนี่สคริปต์ที่ว่า “ถ้าเริ่มรวยกว่าคนรอบข้าง ความสัมพันธ์จะพังลง” ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นจริงเสมอไป ความสัมพันธ์มีการเปลี่ยนแปลงตามระดับชีวิตเป็นเรื่องธรรมชาติ
14. หลีกเลี่ยงการพนันและการตัดสินใจลงทุนที่ขาดข้อมูล
การพนันส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและจิตใจมากกว่าที่คิด นอกจากจะสูญเสียเงินแล้ว ยังส่งผลให้สมองเข้าสู่สภาวะตื่นเต้นผิดปกติ เกิดความเครียดรุนแรง ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง และอาจแก่เร็วขึ้น ส่วนการลงทุน แม้จะมีความเสี่ยงเช่นกันแต่ควรเป็นการตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลและการวิเคราะห์ ไม่ใช่อารมณ์หรือความรู้สึก เทคนิคการตัดสินใจโดยคำนึงถึงผล (Effectuation) สามารถช่วยได้ โดยให้คิดว่าหากเกิดความล้มเหลว เราจะทนความลำบากได้แค่ไหน และวางแผนรับมือไว้ล่วงหน้า
15. บริหารจัดการความสุขและคุณค่าในชีวิต
เงินไม่ใช่เป้าหมายสุดท้ายแต่เป็นเครื่องมือในการสร้างชีวิตที่มีความสุขและมีคุณค่า ตามทฤษฎี PREMA ความสุขในชีวิตขึ้นอยู่กับ 5 ปัจจัย ได้แก่ P (อารมณ์เชิงบวก) E (การจดจ่อ) R (ความสัมพันธ์ที่ดี) M (ความหมายหรือความสำคัญของชีวิต) และ A (ความสำเร็จ) ในบรรดาปัจจัยเหล่านี้ การค้นพบความหมายหรือความสำคัญของชีวิตเป็นสิ่งที่ทำให้คนมีความสุขมากที่สุด การใช้เงินควรมุ่งไปที่การส่งเสริมปัจจัยเหล่านี้ ไม่ใช่แค่การสะสมทรัพย์สินโดยไม่มีเป้าหมาย
สรุป
หนังสือ MONEY SCRIPT นำเสนอแนวคิดที่ว่า ความสำเร็จทางการเงินไม่ได้ขึ้นอยู่กับวุฒิการศึกษา ความฉลาด หรือโชคชะตา แต่ขึ้นอยู่กับมันนี่สคริปต์หรือชุดความคิดเกี่ยวกับเงินที่เรามี การรู้จักและเข้าใจมันนี่สคริปต์ของตัวเองเป็นก้าวแรกสู่การปรับเปลี่ยนความคิดจากแบบคนทั่วไปสู่แบบคนรวย
การมีมันนี่สคริปต์ที่ถูกต้อง เช่น การให้ความสำคัญกับเงินเก็บ การมอบสิ่งต่าง ๆ ให้ผู้คน การเห็นเงินเป็นเครื่องมือในการซื้ออิสรภาพ การทำงานอย่างสนุกสนาน การเชื่อว่าตนเองคู่ควรที่จะมีเงิน การควบคุมชีวิตตัวเอง การกล้าพึ่งพาคนอื่น และการเห็นคุณค่าของการเชื่อมโยงสู่ผลกำไร จะช่วยนำพาความมั่งคั่งมาสู่ชีวิต
ในทางกลับกัน การมีมันนี่สคริปต์ที่บิดเบี้ยว เช่น มันนี่สคริปต์แบบอุทิศตน แบบคนตระหนี่ แบบใช้เงินโดยไม่วางแผน แบบเผาผลาญเงินที่ได้มาง่าย ๆ แบบคนถูกหลอก แบบหนีห่างจากความมั่งคั่ง แบบต่อต้านความมั่งคั่ง แบบนักพนัน แบบใช้จ่ายอย่างขาดสติ แบบใช้จ่ายน้อยเกินไป หรือแบบคนบ้างาน จะส่งผลให้เราติดอยู่ในวงจรแห่งความยากจนและปัญหาทางการเงิน
การเปลี่ยนแปลงมันนี่สคริปต์อาจไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมันฝังรากลึกในจิตใจมาตั้งแต่วัยเด็ก ได้รับอิทธิพลจากครอบครัว คนใกล้ชิด และสิ่งแวดล้อม แต่ด้วยความตระหนักรู้และความพยายาม เราสามารถปรับเปลี่ยนมันได้ เริ่มจากการทำความเข้าใจมันนี่สคริปต์ของตัวเองผ่านแบบทดสอบ แล้วเขียนมันนี่สคริปต์ใหม่ที่ถูกต้อง รวมถึงการฝึกฝนความคิดและพฤติกรรมทางการเงินที่ดีอย่างสม่ำเสมอ
สิ่งที่น่าสนใจคือหนังสือเล่มนี้ไม่ได้มุ่งเน้นแค่เทคนิคการเก็บเงินหรือการลงทุน แต่ให้ความสำคัญกับการปรับเปลี่ยนกรอบความคิดพื้นฐานเกี่ยวกับเงิน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของความสำเร็จทางการเงินในระยะยาว ผู้เขียนเชื่อว่าการมีมันนี่สคริปต์ที่ถูกต้องจะช่วยให้เราตัดสินใจทางการเงินได้ดีขึ้น หลีกเลี่ยงกับดักทางการเงิน และสามารถสร้างความมั่งคั่งได้อย่างยั่งยืน
ท้ายที่สุด หนังสือเล่มนี้ชี้ให้เห็นว่า การใช้ความคิดในเรื่องการเงินก็คือการใช้ความคิดในเรื่องชีวิต เพราะเงินเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายในชีวิตและปกป้องคนที่เรารัก การมีมันนี่สคริปต์ที่ดีจึงไม่เพียงแต่นำไปสู่ความมั่นคงทางการเงิน แต่ยังนำไปสู่ชีวิตที่มีความสุขและมีคุณค่ามากขึ้นด้วย