สรุปรีวิวหนังสือจงคบค้ากับความร่ำรวย (Attribute of Money)

หนังสือจงคบค้ากับความร่ำรวย Attribute of Money
หนังสือจงคบค้ากับความร่ำรวย Attribute of Money

ข้อมูลทั่วไป

ชื่อหนังสือ: จงคบค้ากับความร่ำรวย (Attribute of Money)

ชื่อผู้แต่ง: จิม คิม (Jim Kim)

สำนักพิมพ์: วีเลิร์น (WELEARN)

จำนวนหน้า: 241 หน้า

สารบัญ

  • เงินคือบุคคล
  • พลังของรายได้ที่เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ
  • คุณสมบัติของเงินแต่ละประเภท
  • แรงดึงดูดของเงิน
  • การปฏิบัติต่อเงินของผู้อื่น
  • ความสามารถ 4 ประการในการจัดการเงิน
  • เวทมนต์ 7 ประการในการหาเงิน
  • กฎ 5 ข้อของการสร้างเงินต้น 100 ล้าน
  • มีคน 3 ประเภทยามเกิดวิกฤตทางการเงิน
  • ลักษณะพิเศษ 3 ประการของคนที่ได้กำไรจากหุ้น
  • และอื่นๆ อีกมากมาย

เนื้อหาโดยสังเขป

หนังสือเล่มนี้นำเสนอแนวคิดที่น่าสนใจและมุมมองแปลกใหม่เกี่ยวกับเงินและการลงทุน โดย จิม คิม ผู้ซึ่งไต่เต้าจากคนที่ฐานะยากจน กลายเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ด้วยการค้นพบกฎการอาศัยอยู่ร่วมกับเงิน โดยมองว่าเงินก็เปรียบเสมือนบุคคลที่มีความรู้สึกนึกคิดเป็นของตนเอง เขาได้รวบรวมข้อคิด หลักการ และวิสัยทัศน์เกี่ยวกับเรื่องเงินในทุกแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นการหาเงิน การเก็บออม การรักษาเงิน และการใช้เงินอย่างชาญฉลาด

สรุปข้อคิดจากหนังสือ

1. เงินคือบุคคล

จิม คิมมองว่าเงินเปรียบเสมือนบุคคลที่มีความคิด อารมณ์ และความตั้งใจไม่ต่างจากคน เงินมีนิสัยใจคอเป็นของตัวเอง เงินจะไม่ยอมเข้าใกล้คนที่ใช้จ่ายอย่างสิ้นคิด เงินชอบอยู่กับคนที่ยอมรับในคุณค่าของตัวเองและให้ความเคารพเงิน

เงินที่ถูกใช้ไปในที่ที่ดีกับสิ่งที่มีคุณค่า จะซาบซึ้งและจะชักชวนให้เงินอื่นๆ มาหาเจ้าของ ในทางกลับกัน ถ้าหากเจ้าของใช้เงินไปกับการเล่นพนันหรือสิ่งไม่มีประโยชน์ เงินก็จะทอดทิ้งเจ้าของไปอย่างไม่ใยดี

2. แรงดึงดูดของเงิน

เงินมีแรงดึงดูดเหมือนในทฤษฎีของนิวตัน เงินมีความสามารถในการดึงดูดเงินที่อยู่ใกล้ๆ ยิ่งจำนวนเงินมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งส่งผลสูงเท่านั้น ถ้าเชื่อมั่นว่าเงินเป็นวัตถุที่มีแรงดึงดูด ก็จะใช้เงินก้อนนั้นรวบรวมเงินก้อนใหญ่ได้

ในกระบวนการเพิ่มทรัพย์สิน เราไม่ควรใช้วิธีเพิ่มแบบ 1, 2, 3, 4, 5 แต่ต้องเพิ่มแบบทวีคูณคือ 1, 2, 4, 8, 16 คนที่เข้าใจหลักการนี้จะเป็นคนรวยได้ในที่สุด

3. ในจังหวะที่เสี่ยงมาก กลับเสี่ยงน้อยที่สุด

จิม คิมเชื่อว่ายามที่ตลาดหุ้นมีราคาสูง ผู้คนไม่หวั่นเกรงความเสี่ยง แต่จริงๆ แล้วนี่คือช่วงที่เสี่ยงที่สุด เพราะทุกอย่างอาจอันตรธานหายไปในพริบตา หรืออาจลุกลามขึ้นเป็นวิกฤตฟองสบู่

ในทางกลับกัน ช่วงที่ผู้คนส่วนใหญ่หวาดกลัว ไม่กล้าซื้อ กลับกลายเป็นโอกาสที่จะซื้อทรัพย์สินในราคาถูก นี่คือจุดที่ความเสี่ยงลดลง ดังคำพูดของวอร์เรน บัฟเฟตต์ที่ว่า “จงหวาดกลัวยามคนอื่นโลภ และจงโลภยามทุกคนหวาดกลัว”

4. เงินแต่ละก้อนมีกระแสเวลาแตกต่างกัน

เงินแต่ละก้อนมีกระแสเวลาที่แตกต่างกัน เช่น เงินบางก้อนสำหรับแต่งงาน เงินบางก้อนสำหรับค่าเทอมลูก หรือเงินบางก้อนที่อยู่นิ่งได้นานถึง 10-20 ปี (เงินเย็นไว้ลงทุน)

เงินก้อนที่มีเวลามากจะคอยดูแลได้ดีกว่า ถ้าไม่สามารถครอบครองเงินที่มีเวลามากได้ สุดท้ายเงินจะเป็นฝ่ายปกครองเรา

5. ลักษณะพิเศษ 3 ประการของคนที่ได้กำไรจากหุ้น

  1. คิดว่าตัวเองเป็นผู้บริหาร ตั้งใจจะสร้างบริษัทไปด้วยกัน (มองการลงทุนหุ้นเหมือนการเข้าไปเป็นผู้บริหารธุรกิจนั้นๆ)
  2. เงินที่ใช้ลงทุนต้องเป็นเงินที่มีคุณภาพดี เงินทุนของคนที่ประสบความสำเร็จจะหนักแน่นและมั่นคง รออยู่เฉยๆ เป็นเวลานานได้ รอรับเงินปันผล
  3. คอยจนกว่าจะซื้อหุ้นได้ในราคาถูกที่สุด (การลงทุนแท้จริงไม่ใช่แค่เวลาขาย แต่ต้องรู้เวลาซื้อด้วย)

6. มีคน 3 ประเภทยามเกิดวิกฤตทางการเงิน

  1. คนที่ได้รับความเสียหายโดยตรง เช่น นักลงทุน
  2. คนที่ไม่ได้รับผลกระทบ เช่น คนที่ไม่มีหนี้ การงานมั่นคง
  3. คนกลุ่มพิเศษ แม้ตลาดหุ้นจะตก ทรัพย์สินของตัวเองก็ยังได้กำไร

เปรียบเทียบง่ายๆ คือ ขณะที่หินก้อนยักษ์กลิ้งลงมาจากภูเขา มีคนที่ถูกหินทับตาย มีคนที่เลี่ยงหลบก้อนหินได้ทัน และมีคนที่เจาะหินไปขายได้

7. ความสามารถ 4 ประการในการจัดการเงิน

  1. ความสามารถในการหาเงิน – เป็นคนที่ทำธุรกิจได้เก่ง มีวิสัยทัศน์ และความสามารถในการขาย
  2. ความสามารถในการเก็บเงิน – ต่างจากการหาเงิน เป็นการรู้จักควบคุมรายจ่าย
  3. ความสามารถในการรักษาเงิน – การปกป้องทรัพย์สินไม่ให้สูญหาย ลดความเสี่ยง
  4. ความสามารถในการใช้เงิน – ความเก๋าเกมทางการเงิน ใช้เงินอย่างมีประโยชน์และมีคุณค่า

8. เวทมนต์ 7 ประการในการหาเงิน

  1. จงทิ้งนิสัยทุกอย่างที่ทำให้เป็นคนไม่น่าคบ
  2. อย่าลังเลใจที่จะขอความช่วยเหลือ
  3. จงพร้อมที่จะเสียสละเล็กน้อยเพื่อเป้าหมายเล็กๆ เสียสละมากหน่อยเพื่อเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น
  4. จงบันทึกและเรียบเรียงข้อมูล ประวัติการลงทุน ไอเดียที่เกิดกระทันหัน
  5. จงมีเป้าหมายระยะยาว
  6. อย่าคิดว่าต้องได้รับความรักความเมตตาจากทุกคน
  7. อย่าคิดว่าตัวเองมีเวลามาก

9. กฎควอร์เตอร์

ควอร์เตอร์ แปลว่า 1 ใน 4 จิม คิมจะใช้ชีวิตแค่ควอร์เตอร์เดียวของรายได้ตัวเอง เช่น ถ้ารายได้ 200,000 บาทต่อปี ก็จะใช้ 50,000 บาท เป็นมาตรฐานชีวิต

ถ้าในอนาคตรายได้เพิ่มมากขึ้น ก็จะเพิ่มมาตรฐานชีวิตตามสัดส่วนไปเรื่อยๆ กฎนี้ช่วยให้สามารถอยู่รอดได้นานถึง 3 ปี แม้ไม่มีรายได้เข้ามาเลย

10. วิธีสอนให้ลูกเป็นคนรวย

จิม คิมแนะนำให้สร้างสมุดบัญชีหุ้นไว้ให้ลูกตั้งแต่เด็กๆ (ช่วงวัยมัธยมต้นหรือมหาวิทยาลัย) ใส่เงินก้อนแรกให้ลูกซื้อหุ้น โดย:

  • 70% ให้ซื้อหุ้นที่มีราคาแพงและมีศักยภาพสูงที่สุด
  • 30% ให้ลูกเลือกหุ้นด้วยตัวเองตามสินค้าที่คุ้นเคยหรือใช้เป็นประจำ

สอนคำศัพท์เศรษฐศาสตร์ วิเคราะห์สถานการณ์ตลาดให้ลูกฟัง และพาไปประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อปลูกฝังความสนใจในการลงทุนตั้งแต่เด็ก

11. หนี้ดีหนี้เสีย

จิม คิมแบ่งหนี้เป็นสองประเภท:

  • หนี้ดี: หนี้ที่สร้างทรัพย์สินและรายได้เพิ่ม เป็นหนี้ที่ควบคุมได้
  • หนี้เสีย: หนี้ที่ใช้ไปกับการบริโภค ท่องเที่ยว หรือใช้จ่ายสิ่งไม่จำเป็น เป็นหนี้ที่ควบคุมไม่ได้

สรุปง่ายๆ คือ “หนี้ที่เอาเงินไปจากกระเป๋าคือหนี้เสีย ส่วนหนี้ที่เอาเงินมาใส่ไว้ในกระเป๋าคือหนี้ดี”

12. นิสัย 4 ประการในการเก็บสะสมเงิน

  1. บิดขี้เกียจทันทีที่ตื่นนอน (ยืดเส้นยืดสายให้ร่างกายกระฉับกระเฉง)
  2. จัดเตียงให้เรียบร้อยหลังลุกจากที่นอน (เป็นการขอบคุณชีวิตและสร้างระเบียบวินัย)
  3. ดื่มน้ำเปล่าหนึ่งแก้วตอนท้องว่างในช่วงเช้า (กระตุ้นร่างกายให้พร้อมทำงาน)
  4. นอนและตื่นในเวลาเดิม (สร้างความเป็นระเบียบและความน่าเชื่อถือ)

13. ถ้าอยากรวยไว ๆ จะไม่มีวันได้รวยไว ๆ

คนที่โลภอยากรวยขึ้นทันที จะไม่สามารถตัดสินถูกผิดได้ แล้วจะถูกหลอกได้ง่ายๆ เมื่อนำเรื่องกำไรมากๆ มาอ้าง พวกเขาใจร้อนไม่พิจารณาถึงความเสี่ยง ลงทุนไปตามอารมณ์ สุดท้ายก็ล้มเหลว

วิธีเดียวที่จะทำให้รวยเร็วขึ้นคือ การตั้งใจว่าจะไม่รีบร้อนร่ำรวย ต้องสะสมความร่ำรวยอย่างช้าๆ เหมือนเวลาสร้างบ้าน

14. การทำธุรกิจกับการลงทุนในหุ้นและอสังหาริมทรัพย์

จิม คิมแนะนำว่าธุรกิจทุกประเภทมีพื้นฐานจาก 3 สิ่ง:

  1. ตัวธุรกิจ – การบริหารจัดการและการตลาด
  2. อสังหาริมทรัพย์ – ที่ตั้งและสถานที่ประกอบการ
  3. การเงิน – โครงสร้างเงินทุนและการจัดหาเงิน

สำหรับการลงทุนในหุ้นหรืออสังหาริมทรัพย์ จิม คิมแนะนำให้มองตามรูปแบบการลงทุน ไม่ใช่ตามประเภทสินทรัพย์ เช่น การลงทุนเพื่อรับเงินปันผลจากหุ้นก็คล้ายกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อรับค่าเช่า

สรุป

หนังสือ “จงคบค้ากับความร่ำรวย” นำเสนอมุมมองที่แปลกใหม่และน่าสนใจเกี่ยวกับการเงินและการลงทุน โดยมองว่าเงินเป็นเสมือนบุคคลที่มีความรู้สึกนึกคิด จิม คิม สอนให้เราเข้าใจธรรมชาติของเงิน รู้จักการจัดการทรัพย์สิน และวางแผนการเงินอย่างชาญฉลาด

หลักการสำคัญที่ผู้อ่านจะได้เรียนรู้คือการมีวินัยทางการเงิน การมองการลงทุนในระยะยาว การเข้าใจจังหวะตลาด การกระจายความเสี่ยง และที่สำคัญคือการปฏิบัติต่อเงินด้วยความเคารพ ซึ่งจะทำให้เงินอยู่กับเราไปนานๆ และดึงดูดเงินก้อนอื่นๆ เข้ามาเพิ่ม

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาหนังสือการเงินที่มีแนวคิดแตกต่างจากตำราทั่วไป “จงคบค้ากับความร่ำรวย” เป็นหนังสือที่น่าอ่านและจะช่วยเปลี่ยนมุมมองของคุณต่อเงินและการลงทุนไปอย่างสิ้นเชิง