สรุปรีวิวหนังสือ Good Vibes Good Life ใช้คลื่นพลังบวกดึงดูดพลังสุข

Good Vibes, Good Life ใช้คลื่นพลังบวก ดึงดูดพลังสุข
Good Vibes, Good Life ใช้คลื่นพลังบวก ดึงดูดพลังสุข

ข้อมูลทั่วไป

ชื่อหนังสือ: Good Vibes, Good Life: How Self-Love is the Key to Unlocking Your Greatness

ผู้เขียน: Vex King

ผู้แปล: กิษรา รัตนาภิรัต คุโด

สำนักพิมพ์: อมรินทร์ How to

จำนวนหน้า: 221-232 หน้า

แนวหนังสือ: จิตวิทยา, การพัฒนาตัวเอง, How to

เกี่ยวกับผู้เขียน

Vex King เป็นนักพูดและอินฟลูเอนเซอร์ด้านจิตวิญญาณที่มีชื่อเสียง ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณแก่คนรุ่นใหม่ เขาเขียนหนังสือเล่มนี้จากประสบการณ์ส่วนตัวในวัยเด็กที่ไม่น่าประทับใจ และการเรียนรู้การใช้ชีวิตที่ดีขึ้น (greater life) ในภายหลัง

แนวคิดหลัก

กฎแห่งแรงสั่นสะเทือน (The Law of Vibration)

หนังสือนี้นำเสนอแนวคิดเรื่อง “กฎแห่งแรงสั่นสะเทือน” (The Law of Vibration) ซึ่งอธิบายว่าทุกสิ่งในจักรวาลล้วนมีแรงสั่นสะเทือน โดยสิ่งที่มีความถี่ของการสั่นสะเทือนที่ใกล้เคียงกันจะถูกดึงดูดเข้าหากัน

แนวคิดนี้พัฒนาต่อยอดมาจากกฎแห่งแรงดึงดูด (The Law of Attraction) ที่กล่าวถึงในหนังสือ “The Secret” แต่มีการปรับให้เข้ากับการใช้งานจริงมากขึ้น โดยเน้นว่าเราไม่เพียงแค่ต้องคิดบวก แต่ต้องปรับความถี่ของตัวเองให้สอดคล้องกับสิ่งที่ต้องการดึงดูดด้วย

ความสำคัญของการรักตัวเอง (Self-Love)

หนังสือเน้นย้ำว่าการรักตัวเองเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพของตนเอง แต่การรักตัวเองที่แท้จริงไม่ใช่เพียงการยอมรับสิ่งที่เราเป็นเท่านั้น แต่เป็นความสมดุล (Balance) ระหว่าง:

  • การยอมรับตัวเองในสิ่งที่เราเป็น
  • การตระหนักว่าเราสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า และพยายามไปให้ถึงจุดนั้น

สรุปคือ Self-Love ประกอบด้วย “การรักตัวเองแบบไม่มีเงื่อนไข + การพัฒนา/เติบโตเน้นที่การกระทำ”

ข้อคิดสำคัญจากหนังสือ

1. พฤติกรรมของวิถีชีวิตที่เป็นบวก (Positive Lifestyle Habits)

  • อยู่ท่ามกลางคนคิดบวก: เราเป็นเหมือนค่าเฉลี่ยของคน 5 คนที่เราใช้เวลาด้วย การอยู่ใกล้คนที่มีพลังงานบวกจะช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้น
  • เปลี่ยนภาษากายของตัวเอง: แม้แต่การแกล้งยิ้มก็สามารถทำให้สมองหลั่งสารเอนดอร์ฟินได้ (fake it until you make it)
  • พักผ่อนบ้าง: การพักบ้างช่วยให้เราได้ชาร์จพลังและริเริ่มสิ่งใหม่ๆ
  • อยู่ห่างจากการนินทาและดรามา: สิ่งเหล่านี้มักเพิ่มความเครียดและไม่ได้ช่วยให้ชีวิตดีขึ้น
  • ใส่ใจเรื่องอาหารและน้ำ: อาหารมีผลต่อแรงสั่นสะเทือนของเรา ควรเลือกอาหารที่มีแรงสั่นสะเทือนสูง เช่น ผลไม้สด ผัก ธัญพืชไม่ขัดสี
  • แสดงความขอบคุณ: ฝึกขอบคุณในสิ่งต่างๆ แม้เป็นเรื่องเล็กน้อย
  • ใส่ใจกับปัจจุบัน: อยู่กับปัจจุบัน แทนที่จะกังวลกับอนาคต
  • ฝึกทำสมาธิ: แม้เพียง 15 นาทีก็มีประโยชน์

2. เอาตัวเองมาก่อน (Make Yourself a Priority)

  • ตรวจสอบพฤติกรรมของตัวเอง: ตรวจสอบว่าเราเป็นคน toxic ต่อตัวเองหรือผู้อื่นหรือไม่
  • เลือกคู่ชีวิตและมิตรแท้ที่ดี: เลือกความสัมพันธ์ที่เพิ่มคุณค่าให้ชีวิต
  • จัดการกับครอบครัว: แม้ครอบครัวจะสำคัญ แต่ต้องสื่อสารเมื่อมีความเห็นต่าง
  • จัดการกับคนคิดลบ: เรียนรู้ที่จะรับมือกับคนที่ไม่ชอบเราด้วยความสงบ
  • ไม่พยายามทำให้ทุกคนพอใจ: เป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้ทุกคนพอใจ ควรดูแลความสุขของตัวเองก่อน
  • ปกป้องพลังงานของตัวเอง: ก่อนที่จะช่วยคนอื่น ต้องแน่ใจว่าเรามีพลังงานเพียงพอ

3. ยอมรับตัวเอง (Accepting Yourself)

  • ชื่นชมรูปลักษณ์ของตัวเอง: ยอมรับข้อบกพร่องทางร่างกาย ไม่ลดทอนคุณค่าตัวเอง
  • เปรียบเทียบเฉพาะกับตัวเอง: เปรียบเทียบกับตัวเองในอดีต ไม่ใช่คนอื่น
  • ให้ความสำคัญกับความงามภายใน: ความงามที่แท้จริงมาจากภายใน
  • เฉลิมฉลองความสำเร็จของตัวเอง: แม้จะเป็นความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ
  • เคารพความเป็นเอกลักษณ์: เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องเหมือนคนอื่น
  • ให้อภัยตัวเอง: ไม่ลงโทษตัวเองกับสิ่งที่ผ่านมาแล้ว แต่เรียนรู้และพัฒนา

4. ทำให้สิ่งที่หวังไว้เป็นจริง (Manifesting Goals)

การทำเป้าหมายให้สำเร็จต้องอาศัยทั้งการทำงานทางจิตใจ (Mind Work) และการลงมือทำ (Taking Action):

การทำงานทางจิตใจ

  • คิดบวก: มุ่งเน้นความเป็นไปได้มากกว่าข้อจำกัด (Can do attitude)
  • เปลี่ยนความเชื่อ: ปรับความเชื่อให้เป็นไปในทางบวก
  • ใช้การยืนยันกับตัวเอง (Affirmation): พูดซ้ำๆ กับตัวเองในสิ่งที่ต้องการให้เป็นจริง
  • เขียนเป้าหมาย: เขียนเป้าหมายให้ชัดเจน เริ่มจากเป้าหมายเล็กๆ
  • จินตนาการ (Visualization): จินตนาการภาพสิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้น

การลงมือทำ

  • ลงมือทำเพื่อการเปลี่ยนแปลง: ไม่เพียงแค่คิด แต่ต้องลงมือทำ
  • ออกจาก Comfort Zone: การเติบโตมักเกิดขึ้นนอก Comfort Zone
  • สม่ำเสมอ: ความสม่ำเสมอนำไปสู่ผลลัพธ์
  • มีความวิริยะและมุ่งมั่น (Grit & Commitment): ความพยายามและมุ่งมั่นเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ

5. ความเจ็บปวดและความมุ่งมั่น (Pain and Purpose)

  • ความผิดพลาดและความเจ็บปวดทำให้เราแข็งแกร่งและเติบโต
  • การมีเป้าหมายและวัตถุประสงค์ในชีวิต (Living with purpose) ทำให้ชีวิตมีความหมาย
  • จักรวาลสนับสนุนคุณอยู่เสมอ มันส่งสัญญาณมาให้เราเป็นระยะ แต่เราต้องหมั่นสังเกต

สรุป

หนังสือ Good Vibes, Good Life เป็นหนังสือที่มอบพลังบวกและแรงบันดาลใจให้ผู้อ่าน ด้วยแนวคิดเรื่องการรักตัวเองและการใช้กฎแห่งแรงสั่นสะเทือนเพื่อดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต

คำแนะนำและแนวทางในหนังสือสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนความคิด การดูแลตัวเอง การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และการบรรลุเป้าหมายในชีวิต

สิ่งสำคัญที่หนังสือเน้นย้ำคือ การตั้งเป้าหมายง่ายๆ ว่า “เราจะเป็นคนที่ดีกว่าเมื่อวาน” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาตนเองอย่างยั่งยืน

หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับเปลี่ยนมุมมอง สร้างพลังบวกในชีวิต และกำลังมองหาแนวทางในการพัฒนาตนเองอย่างเป็นรูปธรรม