100 หนังสือเด็กที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล: การสำรวจโดย BBC Culture สำรวจปี 2023
บทนำ

ในปี 2023 BBC Culture ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับหนังสือเด็กที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล โดยมีรายละเอียดดังนี้:
- ผู้เข้าร่วมการสำรวจ: ผู้เชี่ยวชาญ 177 คนจาก 56 ประเทศทั่วโลก
- บริบทของการสำรวจ:
- เกิดขึ้นในช่วงที่มีการถกเถียงเกี่ยวกับความสำคัญของหนังสือเด็กเมื่อเทียบกับหนังสือผู้ใหญ่
- มีการอภิปรายเรื่องการแก้ไขเนื้อหาในหนังสือของ Roald Dahl ให้เหมาะสมกับยุคสมัยปัจจุบัน
- เกิดความกังวลเกี่ยวกับการห้ามอ่านหนังสือเด็กบางเล่มในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะหนังสือที่เกี่ยวกับเชื้อชาติและ LGBTQ+
ผลการสำรวจ
ผลการสำรวจแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของหนังสือเด็ก:
- ระยะเวลา: ตั้งแต่นิทานโบราณอย่าง Panchatantra (2,000 ปีก่อน) จนถึงหนังสือร่วมสมัยอย่าง A Kind of Spark (2020)
- ภาษา: ส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ แต่ก็มีหนังสือจากหลากหลายประเทศ
- ยุคสมัย: หนังสือส่วนใหญ่ตีพิมพ์ในช่วงปี 1950-1970
ข้อจำกัดของการสำรวจ
- หนังสือภาษาอังกฤษมีสัดส่วนมากเกินไป
- อาจมีอคติจากช่วงวัยของผู้ลงคะแนน (ส่วนใหญ่เกิดในช่วงปี 1970-1980)
จุดประสงค์ของการสำรวจ
- ไม่ได้มุ่งหวังให้เป็นคำตอบสุดท้าย
- ต้องการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนอ่านหนังสือมากขึ้น
- กระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับวรรณกรรมเด็ก
รายชื่อ 100 หนังสือเด็กที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
1. Where the Wild Things Are (Maurice Sendak, 1963)

- เรื่องราวของ Max เด็กชายซุกซนที่ถูกส่งไปนอนโดยไม่ได้กินอาหารเย็น
- จินตนาการพาเขาไปสู่ดินแดนของสัตว์ประหลาด ที่ซึ่งเขาได้เป็นกษัตริย์
- สะท้อนความรู้สึกของเด็กๆ ที่ต้องการอิสระและการยอมรับ
- ภาพประกอบที่โดดเด่นและน่าจดจำ
2. Alice’s Adventures in Wonderland (Lewis Carroll, 1865)

- การผจญภัยของ Alice ในดินแดนมหัศจรรย์ที่เต็มไปด้วยตัวละครแปลกประหลาด
- นำเสนอแนวคิดเชิงปรัชญาและตรรกะผ่านเรื่องราวแฟนตาซี
- ภาษาที่เล่นคำและสร้างสรรค์ ทำให้หนังสือน่าสนใจสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่
- มีอิทธิพลต่อวรรณกรรมและวัฒนธรรมป๊อปอย่างกว้างขวาง
3. Pippi Longstocking (Astrid Lindgren, 1945)

- เรื่องราวของเด็กหญิงที่มีพลังเหนือมนุษย์และอาศัยอยู่คนเดียว
- Pippi เป็นตัวละครที่มีความเป็นอิสระ กล้าหาญ และท้าทายบรรทัดฐานทางสังคม
- สะท้อนแนวคิดเรื่องการให้อำนาจแก่เด็กและการตั้งคำถามต่อกฎเกณฑ์ของผู้ใหญ่
- ได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ มากกว่า 70 ภาษา
4. The Little Prince (Antoine de Saint-Exupéry, 1943)

- นิทานปรัชญาที่เล่าผ่านมุมมองของเจ้าชายน้อยจากดาวดวงอื่น
- นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับความรัก มิตรภาพ และความหมายของชีวิต
- ภาพวาดประกอบที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง วาดโดยผู้เขียนเอง
- เป็นหนังสือที่ได้รับการแปลมากที่สุดเป็นอันดับสองรองจากพระคัมภีร์
5. The Hobbit (J.R.R. Tolkien, 1937)

- จุดเริ่มต้นของจักรวาล Middle-earth ที่โด่งดัง
- การผจญภัยของ Bilbo Baggins ฮอบบิทที่ถูกชักชวนให้ออกเดินทางโดยพ่อมดแกนดัล์ฟ
- นำเสนอโลกแฟนตาซีที่มีรายละเอียดสมจริง พร้อมด้วยเผ่าพันธุ์และภาษาที่สร้างขึ้นมาใหม่
- เป็นจุดเริ่มต้นของแนวเรื่องแฟนตาซีสมัยใหม่
6. Northern Lights (Philip Pullman, 1995)
- เล่มแรกในไตรภาค His Dark Materials
- เรื่องราวของ Lyra Belacqua ในจักรวาลคู่ขนานที่วิทยาศาสตร์, เวทมนตร์, และศาสนามีบทบาทสำคัญ
- นำเสนอแนวคิดที่ซับซ้อนเกี่ยวกับจิตวิญญาณ, อำนาจ, และการเติบโต
- ได้รับรางวัล Carnegie Medal สำหรับหนังสือเด็กยอดเยี่ยม
7. The Lion, the Witch and the Wardrobe (C.S. Lewis, 1950)
- เล่มแรกในชุด The Chronicles of Narnia
- การผจญภัยของพี่น้อง Pevensie ในดินแดนแฟนตาซีชื่อนาร์เนีย
- ผสมผสานแนวคิดทางศาสนาคริสต์กับเทพนิยายแบบดั้งเดิม
- สร้างจินตนาการให้เด็กๆ ผ่านตู้เสื้อผ้าวิเศษที่เป็นประตูสู่โลกมหัศจรรย์
8. Winnie-the-Pooh (A.A. Milne and E.H. Shepard, 1926)
- เรื่องราวของหมีน้อย Winnie-the-Pooh และเพื่อนๆ ในป่า Hundred Acre Wood
- ตัวละครที่น่ารักและมีเอกลักษณ์ แต่ละตัวแทนลักษณะนิสัยที่แตกต่างกัน
- บทสนทนาและเหตุการณ์ที่สอดแทรกปรัชญาและคติสอนใจอย่างแยบยล
- ภาพประกอบโดย E.H. Shepard ที่กลายเป็นภาพจำของผู้อ่านทั่วโลก
9. Charlotte’s Web (E.B. White and Garth Williams, 1952)
- เรื่องราวของมิตรภาพระหว่างหมูน้อย Wilbur และแมงมุม Charlotte
- นำเสนอแนวคิดเรื่องชีวิต, ความตาย, และความเสียสละผ่านมุมมองของสัตว์
- ภาษาที่งดงามและเรียบง่าย เหมาะสำหรับผู้อ่านทุกวัย
- ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหนังสือเด็กที่ขายดีที่สุดตลอดกาล
10. Matilda (Roald Dahl and Quentin Blake, 1988)
- เรื่องราวของเด็กหญิงอัจฉริยะที่มีพลังจิต
- วิพากษ์วิจารณ์ระบบการศึกษาและผู้ใหญ่ที่ไม่เข้าใจเด็ก
- ส่งเสริมความรักในการอ่านและการเรียนรู้
- ภาพประกอบโดย Quentin Blake ที่เป็นเอกลักษณ์และเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับเรื่อง
11. Anne of Green Gables (L.M. Montgomery, 1908)
- เรื่องราวของ Anne Shirley เด็กกำพราที่ถูกส่งไปอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์บนเกาะ Prince Edward
- แสดงให้เห็นถึงการเติบโต, การปรับตัว, และการค้นพบตัวเอง
- บรรยายความงามของธรรมชาติและชีวิตในชนบทได้อย่างมีชีวิตชีวา
- ได้รับความนิยมทั่วโลกและกลายเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมแคนาดา
12. Fairy Tales (Hans Christian Andersen, 1827)
- รวมเรื่องสั้นแนวเทพนิยายที่มีอิทธิพลต่อวรรณกรรมเด็กอย่างมาก
- มีทั้งเรื่องที่มีความสุขและโศกเศร้า สะท้อนชีวิตจริงมากกว่าเทพนิยายทั่วไป
- นำเสนอบทเรียนทางศีลธรรมผ่านตัวละครที่น่าจดจำ
- เรื่องเล่าหลายเรื่องได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์และละครเวทีมากมาย
13. Harry Potter and the Philosopher’s Stone (J.K. Rowling, 1997)
- จุดเริ่มต้นของซีรีส์ Harry Potter ที่โด่งดังไปทั่วโลก
- แนะนำโลกเวทมนตร์ที่ซ่อนอยู่คู่กับโลกธรรมดาของมักเกิ้ล
- สร้างจินตนาการและแรงบันดาลใจให้เด็กๆ ทั่วโลกหันมาสนใจการอ่าน
- ผสมผสานแนวผจญภัย, แฟนตาซี, และการเติบโตได้อย่างลงตัว
14. The Very Hungry Caterpillar (Eric Carle, 1969)
- หนังสือภาพที่สอนเกี่ยวกับวงจรชีวิตของผีเสื้อและการนับเลข
- ใช้เทคนิคภาพตัดปะที่มีสีสันสดใส ดึงดูดสายตาเด็กๆ
- มีรูปแบบหนังสือที่สร้างสรรค์ ด้วยรูเจาะที่แสดงถึงการกินของหนอน
- ได้รับการแปลมากกว่า 60 ภาษาและขายได้มากกว่า 50 ล้านเล่มทั่วโลก
15. The Dark is Rising (Susan Cooper, 1973)
- เล่มที่สองในชุด The Dark is Rising Sequence
- ผสมผสานตำนานอาเธอร์กับเทพนิยายและตำนานของอังกฤษและเวลส์
- เล่าเรื่องการต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่วผ่านมุมมองของ Will Stanton
- ได้รับรางวัล Newbery Honor และสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเขียนแฟนตาซีรุ่นหลัง
16. The Arrival (Shaun Tan, 2006)
- นิยายภาพที่ไม่มีคำบรรยาย เล่าเรื่องราวการอพยพด้วยภาพวาด
- นำเสนอประสบการณ์ของผู้อพยพในโลกแฟนตาซีที่แปลกตา
- ภาพวาดที่มีรายละเอียดสูงและสื่ออารมณ์ได้อย่างลึกซึ้ง
- สะท้อนปัญหาการย้ายถิ่นฐานและการปรับตัวในสังคมใหม่
17. Little Women (Louisa May Alcott, 1868)
- เรื่องราวของพี่น้องตระกูล March ในช่วงสงครามกลางเมืองอเมริกา
- นำเสนอภาพของสตรีที่เข้มแข็งและมีความฝันในยุคที่โอกาสของผู้หญิงยังจำกัด
- ผสมผสานความรัก, ครอบครัว, และการเติบโตเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
- มีอิทธิพลต่อวรรณกรรมและวัฒนธรรมป๊อปมาอย่างยาวนาน
18. Charlie and the Chocolate Factory (Roald Dahl, 1964)
- การผจญภัยของ Charlie Bucket ในโรงงานช็อกโกแลตสุดพิสดาร
- สร้างโลกแห่งจินตนาการที่เต็มไปด้วยสิ่งประดิษฐ์แปลกๆ และขนมหวานมหัศจรรย์
- แฝงบทเรียนเกี่ยวกับความดี, ความโลภ, และผลของการกระทำ
- ภาษาที่สนุกสนานและตัวละครที่จดจำง่ายทำให้เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ ทั่วโลก
19. Heidi (Johanna Spyri, 1880)
- เรื่องราวของเด็กหญิงกำพร้าที่อาศัยอยู่กับปู่บนเทือกเขาแอลป์ของสวิตเซอร์แลนด์
- นำเสนอความงามของธรรมชาติและวิถีชีวิตในชนบท
- สอนเรื่องความกตัญญู, มิตรภาพ, และการเอาชนะอุปสรรค
- ได้รับความนิยมทั่วโลกและถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์และละครโทรทัศน์หลายครั้ง
20. Goodnight Moon (Margaret Wise Brown and Clement Hurd, 1947)
- หนังสือภาพสำหรับเด็กเล็กที่เล่าเรื่องการเข้านอนของกระต่ายน้อย
- ใช้คำซ้ำและจังหวะที่ผ่อนคลาย เหมาะสำหรับการอ่านก่อนนอน
- ภาพประกอบที่อบอุ่นและมีรายละเอียดให้ค้นหา
- กลายเป็นหนังสือคลาสสิกที่ผู้ปกครองอ่านให้ลูกฟังมาหลายรุ่น
21. The Adventures of Pinocchio (Carlo Collodi, 1883)
- เรื่องราวของหุ่นไม้ที่ปรารถนาจะเป็นเด็กจริงๆ
- สอนบทเรียนเกี่ยวกับความซื่อสัตย์, ความรับผิดชอบ, และความกตัญญู
- ผจญภัยที่สนุกสนานและน่าตื่นเต้น ผสมผสานกับความเป็นจริงและจินตนาการ
- ได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์และละครหลายครั้ง โดยเฉพาะเวอร์ชันของ Disney
22. A Wizard of Earthsea (Ursula K. Le Guin, 1968)
- เล่มแรกในชุด Earthsea ที่เล่าถึงการผจญภัยของพ่อมดหนุ่ม Ged
- สร้างโลกแฟนตาซีที่มีระบบเวทมนตร์ที่ซับซ้อนและน่าสนใจ
- นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการเติบโต, การยอมรับตัวเอง, และความสมดุลของธรรมชาติ
- มีอิทธิพลต่อวรรณกรรมแฟนตาซีในยุคต่อมา
23. Moominland Midwinter (Tove Jansson, 1957)
- หนึ่งในชุดหนังสือ Moomin ที่โด่งดังของนักเขียนฟินแลนด์
- เล่าเรื่องราวของ Moomintroll ที่ตื่นจากการจำศีลในฤดูหนาว
- นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงและความโดดเดี่ยว
- ภาพประกอบที่มีเอกลักษณ์และบรรยากาศที่ชวนฝันของฤดูหนาว
24. I Want My Hat Back (Jon Klassen, 2011)
- หนังสือภาพที่เล่าเรื่องหมีที่ตามหาหมวกของตัวเอง
- ใช้ภาษาที่เรียบง่ายแต่มีอารมณ์ขัน ชวนให้เด็กๆ คิดและจินตนาการ
- ภาพประกอบที่เรียบง่ายแต่สื่ออารมณ์ได้ดี
- จบเรื่องแบบเปิดให้ตีความ ทำให้เกิดการถกเถียงและการตีความที่หลากหลาย
25. The Secret Garden (Frances Hodgson Burnett, 1911)
- เรื่องราวของ Mary Lennox เด็กหญิงที่ย้ายมาอยู่กับลุงในคฤหาสน์ลึกลับ
- นำเสนอการเยียวยาผ่านธรรมชาติและมิตรภาพ
- สำรวจประเด็นเกี่ยวกับการเติบโต, การเปลี่ยนแปลง, และพลังของทัศนคติเชิงบวก
26. Duck, Death and the Tulip (Wolf Erlbruch, 2007)
- หนังสือภาพที่นำเสนอแนวคิดเรื่องความตายอย่างละเอียดอ่อน
- เล่าเรื่องมิตรภาพแปลกๆ ระหว่างเป็ดกับความตาย
- ภาพประกอบที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง สื่อถึงอารมณ์ความรู้สึกได้ลึกซึ้ง
- ช่วยให้เด็กๆ เข้าใจและยอมรับความจริงของชีวิตได้ดีขึ้น
27. The Brothers Lionheart (Astrid Lindgren, 1973)
- นิยายแฟนตาซีที่เล่าเรื่องความรักระหว่างพี่น้อง
- นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับความกล้าหาญ, การเสียสละ, และชีวิตหลังความตาย
- ผสมผสานความสนุกสนานของการผจญภัยกับประเด็นที่ลึกซึ้งทางปรัชญา
- เป็นหนึ่งในผลงานที่โดดเด่นที่สุดของ Astrid Lindgren ผู้เขียน Pippi Longstocking
28. Harry Potter and the Prisoner of Azkaban (J.K. Rowling, 1999)
- เล่มที่สามในชุด Harry Potter ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก
- แนะนำตัวละครสำคัญอย่าง Sirius Black และ Professor Lupin
- เพิ่มความซับซ้อนให้กับโลกเวทมนตร์และประวัติศาสตร์ของตัวละคร
- นำเสนอแนวคิดเรื่องกาลเวลาและการเปลี่ยนแปลงอดีตผ่าน Time-Turner
29. Brown Girl Dreaming (Jacqueline Woodson, 2014)
- บทกวีอัตชีวประวัติที่เล่าถึงประสบการณ์การเติบโตในฐานะเด็กผิวสีในยุค 1960-1970
- นำเสนอประเด็นเรื่องเชื้อชาติ, ครอบครัว, และการค้นหาตัวตน
- ใช้ภาษาที่งดงามและเข้าถึงง่าย เหมาะสำหรับผู้อ่านทุกวัย
- ได้รับรางวัลวรรณกรรมเด็กหลายรางวัล รวมถึง National Book Award
30. The Three Robbers (Tomi Ungerer, 1961)
- หนังสือภาพที่เล่าเรื่องโจรสามคนที่เปลี่ยนแปลงตัวเองหลังพบกับเด็กกำพร้า
- ใช้สีและรูปทรงที่โดดเด่นในการสร้างบรรยากาศที่น่าตื่นเต้น
- สอนบทเรียนเกี่ยวกับการให้โอกาสคนอื่นและการเปลี่ยนแปลงตัวเอง
- เป็นตัวอย่างของงานวรรณกรรมเด็กที่ท้าทายขนบธรรมเนียมและความคาดหวังของสังคม
31. The Snowy Day (Ezra Jack Keats, 1962)
- หนังสือภาพที่เล่าเรื่องการผจญภัยของเด็กชายผิวสีในวันที่หิมะตก
- เป็นหนังสือเด็กเล่มแรกๆ ที่มีตัวเอกเป็นเด็กผิวสีในวรรณกรรมอเมริกัน
- ใช้เทคนิคการตัดกระดาษสีสันสดใสในการสร้างภาพประกอบ
- นำเสนอความงามและความมหัศจรรย์ในชีวิตประจำวันของเด็กๆ
32. The Tiger Who Came to Tea (Judith Kerr, 1968)
- หนังสือภาพคลาสสิกที่เล่าเรื่องเสือที่มาเยี่ยมบ้านของเด็กหญิงคนหนึ่ง
- ผสมผสานความจริงกับจินตนาการได้อย่างน่าสนใจ
- ภาพประกอบที่อบอุ่นและมีชีวิตชีวา สร้างบรรยากาศที่น่าประทับใจ
- เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้จินตนาการถึงสิ่งแปลกประหลาดที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
33. Howl’s Moving Castle (Diana Wynne Jones, 1986)
- นิยายแฟนตาซีที่เล่าเรื่องของ Sophie สาวน้อยที่ถูกสาปให้กลายเป็นคนแก่
- สร้างโลกแฟนตาซีที่มีเอกลักษณ์ ผสมผสานเวทมนตร์กับเทคโนโลยี
- นำเสนอตัวละครที่มีมิติและพัฒนาการทางอารมณ์ที่น่าสนใจ
- ได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันโดย Studio Ghibli
34. A Wrinkle in Time (Madeleine L’Engle, 1962)
- นิยายวิทยาศาสตร์แฟนตาซีที่ผสมผสานแนวคิดทางวิทยาศาสตร์กับปรัชญาและศาสนา
- เล่าเรื่องการเดินทางข้ามมิติเวลาและอวกาศของ Meg Murry เพื่อช่วยพ่อของเธอ
- นำเสนอตัวเอกหญิงที่เข้มแข็งและฉลาดในยุคที่ตัวเอกส่วนใหญ่เป็นชาย
- ได้รับรางวัล Newbery Medal และมีอิทธิพลต่อวรรณกรรมเยาวชนในยุคต่อมา
35. Watership Down (Richard Adams, 1972)
- นิยายผจญภัยที่เล่าเรื่องราวของกลุ่มกระต่ายที่ต้องอพยพจากบ้านเกิด
- สร้างสังคมและวัฒนธรรมของกระต่ายที่ซับซ้อนและน่าสนใจ
- แฝงแนวคิดเกี่ยวกับการเป็นผู้นำ, ความกล้าหาญ, และการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ
- แม้จะเขียนสำหรับเด็ก แต่ก็มีความลึกซึ้งที่ผู้ใหญ่สามารถเพลิดเพลินได้เช่นกัน
36. Tom’s Midnight Garden (Philippa Pearce, 1958)
- นิยายแฟนตาซีที่เล่าเรื่องของ Tom ที่เดินทางข้ามเวลาไปยังสวนในอดีต
- นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับเวลา, ความทรงจำ, และมิตรภาพที่ข้ามกาลเวลา
- สร้างบรรยากาศที่ลึกลับและน่าหลงใหล ชวนให้ผู้อ่านคิดตาม
- ได้รับรางวัล Carnegie Medal และถือเป็นหนึ่งในวรรณกรรมเด็กคลาสสิกของอังกฤษ
37. Grimm’s Fairy Tales (Brothers Grimm, 1812)
- รวมเรื่องสั้นนิทานพื้นบ้านที่รวบรวมโดยพี่น้องตระกูล Grimm
- นำเสนอเรื่องราวที่มีทั้งความมหัศจรรย์, ความน่ากลัว, และบทเรียนทางศีลธรรม
- มีอิทธิพลอย่างมากต่อวรรณกรรมเด็กและวัฒนธรรมป๊อปในเวลาต่อมา
- เรื่องเล่าหลายเรื่องได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์และสื่อต่างๆ มากมาย
38. The Tale of Peter Rabbit (Beatrix Potter, 1902)
- หนังสือภาพที่เล่าเรื่องของกระต่ายน้อย Peter ที่แอบเข้าไปในสวนของคุณ McGregor
- ภาพประกอบที่วาดด้วยมือและมีรายละเอียดสูง สร้างเอกลักษณ์ให้กับหนังสือ
- สอนบทเรียนเกี่ยวกับการเชื่อฟังและผลของการไม่เชื่อฟัง
- เป็นจุดเริ่มต้นของซีรีส์หนังสือสัตว์น่ารักของ Beatrix Potter
39. The Railway Children (Edith Nesbit, 1906)
- เรื่องราวของพี่น้องสามคนที่ต้องย้ายไปอยู่ชนบทหลังจากพ่อถูกจับ
- นำเสนอภาพชีวิตในชนบทอังกฤษช่วงต้นศตวรรษที่ 20
- สอดแทรกแนวคิดเกี่ยวกับความกล้าหาญ, ความซื่อสัตย์, และความสำคัญของครอบครัว
- ได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์และละครโทรทัศน์หลายครั้ง
40. Noughts and Crosses (Malorie Blackman, 2001)
- นิยายดิสโทเปียที่นำเสนอสังคมที่แบ่งแยกสีผิวแบบสลับขั้ว
- เล่าเรื่องความรักต้องห้ามระหว่าง Sephy (ผิวดำ) และ Callum (ผิวขาว)
- วิพากษ์วิจารณ์การเหยียดเชื้อชาติและความไม่เท่าเทียมในสังคม
- เป็นเล่มแรกในซีรีส์ที่ได้รับความนิยมและกลายเป็นหนังสือเรียนในหลายโรงเรียน
41. The BFG (Roald Dahl and Quentin Blake, 1982)
- เรื่องราวมิตรภาพระหว่างยักษ์ใจดีกับเด็กหญิงกำพร้า Sophie
- นำเสนอโลกแฟนตาซีที่เต็มไปด้วยจินตนาการและการผจญภัย
- ใช้ภาษาที่สร้างสรรค์และสนุกสนาน เช่น คำศัพท์แปลกๆ ของยักษ์
- ภาพประกอบโดย Quentin Blake ที่เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับเรื่อง
42. Rules of Summer (Shaun Tan, 2013)
- หนังสือภาพที่นำเสนอ “กฎ” แปลกๆ ของฤดูร้อนผ่านภาพวาดที่น่าทึ่ง
- ใช้ศิลปะเชิงเซอร์เรียลิสม์เพื่อสร้างโลกที่ทั้งคุ้นเคยและแปลกประหลาด
- เปิดโอกาสให้ผู้อ่านตีความและจินตนาการเรื่องราวของตัวเอง
- สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องและประสบการณ์วัยเด็ก
43. Momo (Michael Ende, 1973)
- นิยายแฟนตาซีที่เล่าเรื่องของเด็กหญิง Momo ที่ต่อสู้กับพวก “คนสีเทา” ที่ขโมยเวลาของผู้คน
- วิพากษ์วิจารณ์สังคมสมัยใหม่ที่เน้นประสิทธิภาพและการประหยัดเวลา
- นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับคุณค่าของเวลา, มิตรภาพ, และการใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย
- ผสมผสานปรัชญาลึกซึ้งกับการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น
44. The Story of Ferdinand (Munro Leaf and Robert Lawson, 1936)
- หนังสือภาพที่เล่าเรื่องของวัวกระทิงที่ชอบดมดอกไม้มากกว่าการสู้รบ
- นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการเป็นตัวของตัวเองและการไม่ใช้ความรุนแรง
- ภาพประกอบขาว-ดำที่มีรายละเอียดสูงโดย Robert Lawson
- ถูกห้ามในบางประเทศเนื่องจากถูกมองว่าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์การสู้วัวกระทิง
45. The Lord of the Rings (J.R.R. Tolkien, 1954)
- มหากาพย์แฟนตาซีที่เล่าเรื่องการเดินทางเพื่อทำลายแหวนแห่งอำนาจ
- สร้างโลก Middle-earth ที่มีรายละเอียดสูง ทั้งภาษา, ประวัติศาสตร์, และวัฒนธรรม
- นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับมิตรภาพ, ความกล้าหาญ, และการต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่ว
46. The Owl Service (Alan Garner, 1967)
- นิยายแฟนตาซีที่ผสมผสานตำนานเวลส์โบราณกับชีวิตวัยรุ่นสมัยใหม่
- เล่าเรื่องของวัยรุ่นสามคนที่ถูกดึงเข้าไปในวงจรของตำนานโบราณที่เกิดซ้ำ
- นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับพลังของตำนาน, การเติบโต, และความขัดแย้งระหว่างวัฒนธรรม
- ได้รับรางวัล Carnegie Medal และถือเป็นหนึ่งในวรรณกรรมเยาวชนที่ซับซ้อนและลึกซึ้ง
47. Ronia, the Robber’s Daughter (Astrid Lindgren, 1981)
- เรื่องราวของ Ronia ลูกสาวหัวหน้าโจรที่เป็นมิตรกับลูกชายของคู่อริ
- นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับมิตรภาพที่ข้ามพ้นความขัดแย้งของผู้ใหญ่
- สำรวจธีมของการเติบโต, ความกล้าหาญ, และการตัดสินใจด้วยตนเอง
- ผสมผสานการผจญภัยในป่ากับการพัฒนาตัวละครได้อย่างลงตัว
48. The Neverending Story (Michael Ende, 1979)
- นิยายแฟนตาซีที่เล่าเรื่องของ Bastian ที่ถูกดึงเข้าไปในโลกของหนังสือที่เขากำลังอ่าน
- สำรวจพลังของจินตนาการและความสำคัญของการเล่าเรื่อง
- นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อการสร้างสรรค์และผลกระทบของการกระทำ
- ใช้เทคนิคการเล่าเรื่องที่ซับซ้อน โดยสลับระหว่างโลกจริงและโลกในนิยาย
49. The Panchatantra (Anonymous / folk, -200)
- รวมนิทานสอนใจจากอินเดียโบราณ ที่มีอายุราว 2,000 ปี
- เล่าเรื่องผ่านตัวละครสัตว์ต่างๆ เพื่อสอนบทเรียนทางศีลธรรมและปรัชญาชีวิต
- มีอิทธิพลต่อวรรณกรรมทั้งตะวันออกและตะวันตก รวมถึงนิทานอีสป
- แสดงให้เห็นถึงความเป็นสากลของคติธรรมและความเฉลียวฉลาดของมนุษย์
50. Treasure Island (Robert Louis Stevenson, 1883)
- นิยายผจญภัยคลาสสิกเกี่ยวกับการล่าสมบัติของโจรสลัด
- สร้างภาพจำของโจรสลัดที่มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมป๊อปมาจนถึงปัจจุบัน
- นำเสนอตัวละครที่น่าจดจำ เช่น Long John Silver
- ผสมผสานการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นกับการเติบโตของตัวเอกวัยรุ่น Jim Hawkins
51. Mary Poppins (P.L. Travers, 1934)
- เรื่องราวของพี่เลี้ยงเด็กวิเศษที่มาเปลี่ยนแปลงชีวิตของครอบครัว Banks
- นำเสนอการผจญภัยที่มหัศจรรย์ผสมผสานกับชีวิตประจำวันในลอนดอน
- ตัวละคร Mary Poppins ที่เป็นทั้งเข้มงวดและน่ารัก สร้างเสน่ห์ให้กับเรื่อง
- เป็นจุดเริ่มต้นของซีรีส์หนังสือและได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ที่โด่งดัง
52. Ballet Shoes (Noel Streatfeild, 1936)
- เรื่องราวของพี่น้องสามคนที่ถูกรับเลี้ยงและฝึกฝนในวงการบัลเลต์และการแสดง
- นำเสนอภาพชีวิตของเด็กในวงการบันเทิงในลอนดอนช่วงทศวรรษ 1930
- สำรวจแนวคิดเกี่ยวกับการค้นหาตัวตน, ความทะเยอทะยาน, และความสำคัญของครอบครัว
- เป็นเล่มแรกในซีรีส์ “Shoes” ที่ได้รับความนิยม
53. So Much! (Trish Cooke and Helen Oxenbury, 1994)
- หนังสือภาพที่เล่าเรื่องการเฉลิมฉลองวันเกิดในครอบครัวแคริบเบียน-อังกฤษ
- นำเสนอความอบอุ่นและความสนุกสนานของครอบครัวขยาย
- ใช้ภาษาที่มีจังหวะและการซ้ำคำที่สนุก เหมาะสำหรับการอ่านออกเสียง
- ภาพประกอบที่สดใสและมีชีวิตชีวาโดย Helen Oxenbury
54. We’re Going on a Bear Hunt (Michael Rosen and Helen Oxenbury, 1989)
- หนังสือภาพที่เล่าเรื่องการผจญภัยของครอบครัวที่ออกไปล่าหมี
- ใช้คำซ้ำและเสียงประกอบที่สนุก ชวนให้เด็กๆ มีส่วนร่วมในการอ่าน
- ภาพประกอบที่สวยงามโดย Helen Oxenbury ที่สลับระหว่างภาพสีและภาพขาวดำ
- สอนเรื่องการเผชิญหน้ากับความกลัวและการผจญภัยในธรรมชาติ
55. The Adventures of Cipollino (Gianni Rodari, 1951)
- นิทานแนวการเมืองสำหรับเด็กของนักเขียนอิตาลี
- เล่าเรื่องของ Cipollino หัวหอมน้อยที่ต่อสู้กับความอยุติธรรมในสังคม
- ใช้ตัวละครที่เป็นผักและผลไม้เพื่อวิพากษ์วิจารณ์สังคมและการเมือง
56. The Giving Tree (Shel Silverstein, 1964)
- เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างเด็กชายกับต้นไม้ที่เสียสละทุกอย่างเพื่อเขา
- นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับความรักไม่มีเงื่อนไขและการให้โดยไม่หวังผลตอบแทน
- เปิดโอกาสให้ตีความได้หลากหลาย ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ
- ภาพประกอบเรียบง่ายแต่ทรงพลังโดยผู้เขียนเอง
57. The Gruffalo (Julia Donaldson and Axel Scheffler, 1999)
- หนังสือภาพที่เล่าเรื่องหนูตัวเล็กที่ใช้ไหวพริบหลอกสัตว์ใหญ่ด้วยเรื่องสัตว์ประหลาด Gruffalo
- ใช้คำคล้องจองและการซ้ำที่ทำให้จดจำง่ายและสนุกในการอ่านออกเสียง
- ภาพประกอบที่มีสีสันสดใสและรายละเอียดน่าสนใจโดย Axel Scheffler
- สอนเรื่องความฉลาดและไหวพริบในการเอาตัวรอดจากอันตราย
58. Julián Is a Mermaid (Jessica Love, 2018)
- หนังสือภาพที่เล่าเรื่องเด็กชายที่หลงใหลในนางเงือกและต้องการแต่งตัวเป็นนางเงือก
- นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการยอมรับตัวเองและการสนับสนุนจากครอบครัว
- ภาพประกอบที่สวยงามและอ่อนโยนสื่อถึงอารมณ์และบรรยากาศได้ดี
- ส่งเสริมความหลากหลายและการยอมรับในตัวตนที่แตกต่าง
59. Comet in Moominland (Tove Jansson, 1946)
- เล่มที่สองในซีรีส์ Moomin ที่โด่งดัง
- เล่าเรื่องการผจญภัยของ Moomintroll และเพื่อนๆ เพื่อหนีจากดาวหางที่กำลังจะพุ่งชนโลก
- นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับมิตรภาพ, ความกล้าหาญ, และการเผชิญหน้ากับความกลัว
- สร้างโลกแฟนตาซีที่มีเอกลักษณ์และตัวละครที่น่าจดจำ
60. Finn Family Moomintroll (Tove Jansson, 1948)
- เล่มที่สามในซีรีส์ Moomin
- เล่าเรื่องราวการผจญภัยของครอบครัว Moomin ในช่วงฤดูร้อน
- แนะนำตัวละครสำคัญหลายตัว รวมถึงหมวกนักมายากลที่เปลี่ยนสิ่งของ
- ผสมผสานความสนุกสนานกับปรัชญาชีวิตได้อย่างลงตัว
61. The Witches (Roald Dahl and Quentin Blake, 1983)
- เรื่องราวของเด็กชายที่ต่อสู้กับแก๊งแม่มดที่วางแผนกำจัดเด็กๆ ทั่วโลก
- นำเสนอตัวร้ายที่น่ากลัวแต่ก็ตลกในเวลาเดียวกัน
- สอดแทรกประเด็นเกี่ยวกับความกล้าหาญและการเอาชนะอุปสรรคแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ
- ภาพประกอบโดย Quentin Blake ที่เพิ่มความน่ากลัวและความตลกขบขันให้กับเรื่อง
62. A Bear Called Paddington (Michael Bond, 1958)
- แนะนำตัวละคร Paddington หมีจากเปรูที่มาอาศัยอยู่กับครอบครัวในลอนดอน
- นำเสนอมุมมองของคนต่างถิ่นที่พยายามปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมใหม่
- สอดแทรกอารมณ์ขันและความอบอุ่นของครอบครัว
- เป็นจุดเริ่มต้นของซีรีส์ที่ได้รับความนิยมและถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์
63. The Wind in the Willows (Kenneth Grahame, 1908)
- เรื่องราวการผจญภัยของสัตว์จำพวก Mole, Rat, Badger, และ Toad
- นำเสนอภาพชีวิตในชนบทอังกฤษและมิตรภาพระหว่างเพื่อนต่างสายพันธุ์
- ผสมผสานการผจญภัยที่ตื่นเต้นกับช่วงเวลาสงบและอบอุ่น
- มีอิทธิพลต่อวรรณกรรมเด็กในเวลาต่อมาและได้รับการดัดแปลงหลายครั้ง
64. Roll of Thunder, Hear My Cry (Mildred D. Taylor, 1976)
- เล่าเรื่องราวของครอบครัวผิวดำในมิสซิสซิปปีช่วงยุคเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่
- นำเสนอประเด็นเรื่องการเหยียดผิวและความไม่เท่าเทียมทางสังคม
- สำรวจความสำคัญของครอบครัว, การศึกษา, และความภาคภูมิใจในตนเอง
- ได้รับรางวัล Newbery Medal และเป็นหนังสือที่มักใช้ในการเรียนการสอน
65. Karlsson-on-the-Roof (Astrid Lindgren, 1955)
- เรื่องราวของ Karlsson ชายตัวเล็กที่มีใบพัดบนหลังและอาศัยอยู่บนหลังคา
- นำเสนอมิตรภาพระหว่าง Karlsson กับ Smidge เด็กชายธรรมดา
- ผสมผสานความตลกขบขันกับการผจญภัยในชีวิตประจำวัน
66. The Phantom Tollbooth (Norton Juster and Jules Feiffer, 1961)
- นิยายแฟนตาซีที่เล่าเรื่องของ Milo เด็กชายที่เบื่อหน่ายกับโลก
- ผจญภัยในดินแดนแห่งภาษาและตัวเลขที่เต็มไปด้วยคำเล่นคำและปริศนา
- สอนแนวคิดทางคณิตศาสตร์และภาษาศาสตร์ผ่านการผจญภัยที่สนุกสนาน
- ภาพประกอบโดย Jules Feiffer ที่เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับตัวละครและฉาก
67. The Cat in the Hat (Dr. Seuss, 1957)
- หนังสือภาพที่ใช้คำศัพท์ง่ายๆ เพียง 236 คำในการเล่าเรื่อง
- เรื่องราวของแมวสวมหมวกที่มาสร้างความวุ่นวายในบ้านของเด็กๆ
- ใช้คำคล้องจองและจังหวะที่สนุก ช่วยให้เด็กๆ อ่านได้ง่าย
- มีอิทธิพลอย่างมากต่อการเรียนรู้การอ่านของเด็กในอเมริกา
68. The Miraculous Journey of Edward Tulane (Kate DiCamillo and Bagram Ibatoulline, 2006)
- เรื่องราวของตุ๊กตากระต่ายพอร์ซเลนที่เรียนรู้ความหมายของความรัก
- ติดตามการเดินทางของ Edward ผ่านมือของเจ้าของหลายคน
- นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการสูญเสีย, การเติบโตทางอารมณ์, และพลังของความรัก
- ภาพประกอบสวยงามโดย Bagram Ibatoulline ที่เพิ่มความลึกซึ้งให้กับเรื่องราว
69. Peter and Wendy (J.M. Barrie, 1911)
- นิยายต้นฉบับที่เล่าเรื่องราวของ Peter Pan และ Wendy
- สร้างโลกแฟนตาซีของ Neverland ที่เด็กๆ ไม่มีวันโตขึ้น
- สำรวจแนวคิดเกี่ยวกับการเติบโต, ความรับผิดชอบ, และความเป็นเด็ก
- มีอิทธิพลอย่างมากต่อวัฒนธรรมป๊อปและได้รับการดัดแปลงหลายครั้ง
70. One Thousand and One Nights (Anonymous / folk)
- รวมนิทานพื้นบ้านจากตะวันออกกลางและเอเชียใต้
- เล่าผ่านเรื่องเล่าของ Scheherazade ที่เล่านิทานเพื่อรักษาชีวิตของเธอ
- แนะนำตัวละครที่เป็นที่รู้จักกันดี เช่น Aladdin, Ali Baba, และ Sinbad
- มีอิทธิพลอย่างมากต่อวรรณกรรมและวัฒนธรรมทั่วโลก
71. From the Mixed-Up Files of Mrs. Basil E. Frankweiler (E.L. Konigsburg, 1967)
- เรื่องราวของพี่น้องที่หนีออกจากบ้านไปอาศัยอยู่ในพิพิธภัณฑ์ Metropolitan ในนิวยอร์ก
- ผสมผสานการผจญภัยกับปริศนาทางประวัติศาสตร์ศิลป์
- สำรวจแนวคิดเกี่ยวกับการค้นหาตัวเอง, ความเป็นอิสระ, และคุณค่าของศิลปะ
- ได้รับรางวัล Newbery Medal และเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ มาหลายรุ่น
72. When Hitler Stole Pink Rabbit (Judith Kerr, 1971)
- อัตชีวประวัติบางส่วนของผู้เขียนที่เล่าเรื่องราวของครอบครัวชาวยิวที่หนีจากเยอรมนีในช่วงที่ฮิตเลอร์ขึ้นสู่อำนาจ
- นำเสนอมุมมองของเด็กที่ต้องเผชิญกับสงครามและการลี้ภัย
- สำรวจแนวคิดเกี่ยวกับบ้าน, ตัวตน, และการปรับตัวในสถานการณ์ยากลำบาก
- เป็นเล่มแรกในไตรภาคที่เล่าเรื่องราวชีวิตของผู้เขียน
73. Shum bola (G’afur G’ulom, 1936)
- นิยายภาษาอุซเบกที่เล่าเรื่องราวของเด็กกำพร้าในช่วงต้นศตวรรษที่ 20
- นำเสนอภาพสังคมอุซเบกิสถานในช่วงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเมือง
- สำรวจประเด็นเกี่ยวกับความยากจน, การศึกษา, และการเอาชนะอุปสรรค
- ถือเป็นวรรณกรรมคลาสสิกของอุซเบกิสถานและใช้ในการเรียนการสอนในโรงเรียน
74. Ernest and Celestine (Gabrielle Vincent, 1981)
- หนังสือภาพที่เล่าเรื่องมิตรภาพระหว่างหมีและหนู
- ใช้ภาพวาดสีน้ำที่อ่อนโยนและเรียบง่ายในการสื่ออารมณ์
- นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับมิตรภาพที่ข้ามพ้นความแตกต่าง
- เป็นจุดเริ่มต้นของซีรีส์หนังสือและได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์แอนิเมชัน
75. A Kind of Spark (Elle McNicoll, 2020)
- นิยายร่วมสมัยที่เล่าเรื่องของ Addie เด็กหญิงออทิสติกที่ต่อสู้เพื่อสร้างอนุสรณ์สถานให้กับผู้หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดในหมู่บ้านของเธอ
- นำเสนอตัวละครหลักที่เป็นเด็กออทิสติกอย่างสมจริงและเต็มไปด้วยมิติ
- สำรวจประเด็นเกี่ยวกับการยอมรับความแตกต่าง, ความยุติธรรมทางสังคม, และพลังของการยืนหยัดเพื่อสิ่งที่เชื่อ
- ได้รับรางวัล Waterstones Children’s Book Prize ในปี 2021
76. Little Nicholas (René Goscinny and Jean-Jacques Sempé, 1959)
- เรื่องราวตลกขบขันของเด็กชายฝรั่งเศสชื่อ Nicholas และเพื่อนๆ ของเขา
- นำเสนอมุมมองของเด็กต่อโลกผู้ใหญ่อย่างสนุกสนานและเฉียบแหลม
- ภาพประกอบที่เรียบง่ายแต่มีเสน่ห์โดย Jean-Jacques Sempé
- เป็นที่นิยมอย่างมากในฝรั่งเศสและได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ มากมาย
77. Black Beauty (Anna Sewell, 1877)
- เล่าเรื่องราวชีวิตของม้าชื่อ Black Beauty ผ่านมุมมองของตัวม้าเอง
- นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับความเมตตาต่อสัตว์และการปฏิบัติต่อม้าอย่างมีมนุษยธรรม
- มีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวด้านสวัสดิภาพสัตว์ในยุคนั้น
- เป็นหนึ่งในหนังสือขายดีที่สุดตลอดกาลและได้รับการดัดแปลงหลายครั้ง
78. Daddy-Long-Legs (Jean Webster, 1912)
- นิยายที่เขียนในรูปแบบจดหมายของเด็กสาวกำพร้าที่ได้รับทุนเรียนจากผู้อุปถัมภ์ลึกลับ
- สำรวจประเด็นเกี่ยวกับการศึกษาของผู้หญิง, การเติบโต, และความรัก
- นำเสนอตัวเอกหญิงที่มีความคิดเป็นของตัวเองและมีอารมณ์ขัน
- ได้รับความนิยมอย่างมากและถูกดัดแปลงเป็นละครเวทีและภาพยนตร์หลายครั้ง
79. No Kiss for Mother (Tomi Ungerer, 1973)
- หนังสือภาพที่เล่าเรื่องของแมวน้อยที่ไม่ชอบให้แม่จูบ
- นำเสนอความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกอย่างตรงไปตรงมาและมีอารมณ์ขัน
- ภาพประกอบที่มีเอกลักษณ์และบางครั้งก็แหวกแนวโดย Tomi Ungerer
- ท้าทายแนวคิดดั้งเดิมเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เหมาะสมในหนังสือเด็ก
80. My Family and Other Animals (Gerald Durrell, 1956)
- บันทึกความทรงจำแบบกึ่งอัตชีวประวัติของ Gerald Durrell เกี่ยวกับช่วงเวลาที่ครอบครัวของเขาอาศัยอยู่บนเกาะคอร์ฟู
- ผสมผสานความรู้ทางธรรมชาติวิทยากับเรื่องราวครอบครัวที่แสนจะวุ่นวาย
- นำเสนอความงามของธรรมชาติและสัตว์ต่างๆ ผ่านสายตาของเด็กชายที่หลงใหลในสัตว์
- มีอารมณ์ขันและความอบอุ่นที่ทำให้ผู้อ่านประทับใจมาหลายรุ่น
81. Jacob Have I Loved (Katherine Paterson, 1980)
- เรื่องราวของ Sara Louise ที่รู้สึกอยู่ในเงาของน้องสาวฝาแฝดของเธอ
- สำรวจประเด็นเกี่ยวกับความอิจฉาริษยาระหว่างพี่น้อง, การค้นหาตัวตน, และการเติบโต
- ตั้งอยู่บนเกาะในรัฐแมรีแลนด์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
- ได้รับรางวัล Newbery Medal และเป็นที่ถกเถียงเนื่องจากเนื้อหาที่ซับซ้อนสำหรับเด็ก
82. The Lorax (Dr. Seuss, 1971)
- หนังสือภาพที่นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและผลกระทบของการทำลายป่า
- ใช้ตัวละคร Lorax เป็นผู้พูดแทนต้นไม้และสิ่งแวดล้อม
- นำเสนอข้อความที่จริงจังผ่านภาษาและภาพที่สนุกสนานแบบ Dr. Seuss
- เป็นหนึ่งในหนังสือที่มีอิทธิพลมากที่สุดในการปลูกฝังจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้กับเด็กๆ
83. Fairy Tales / The Tales of Mother Goose (Charles Perrault, 1697)
- รวมนิทานคลาสสิกที่รู้จักกันดี เช่น Cinderella, Sleeping Beauty, Little Red Riding Hood
- มีอิทธิพลอย่างมากต่อวรรณกรรมเด็กและวัฒนธรรมป๊อปในเวลาต่อมา
- นำเสนอบทเรียนทางศีลธรรมผ่านเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นและจินตนาการ
- เป็นรากฐานสำคัญของนิทานแนวแฟร์รีเทลในยุโรป
84. The Moomins and the Great Flood (Tove Jansson, 1945)
- เล่มแรกในซีรีส์ Moomin ที่แนะนำตัวละคร Moomintroll และครอบครัว
- เล่าเรื่องการเดินทางของ Moominmamma และ Moomintroll เพื่อตามหา Moominpappa
- สร้างโลกแฟนตาซีที่มีเอกลักษณ์และตัวละครที่น่าจดจำ
- สะท้อนบรรยากาศหลังสงครามโลกครั้งที่สองในฟินแลนด์ผ่านเรื่องราวแฟนตาซี
85. The Wonderful Wizard of Oz (L. Frank Baum, 1900)
- การผจญภัยของ Dorothy ในดินแดนแห่ง Oz
- นำเสนอตัวละครอมตะอย่าง Scarecrow, Tin Woodman, และ Cowardly Lion
- ผสมผสานแฟนตาซีกับการวิพากษ์สังคมและการเมืองอเมริกันในยุคนั้น
- เป็นจุดเริ่มต้นของซีรีส์ Oz และได้รับการดัดแปลงเป็นสื่อต่างๆ มากมาย
86. Just William (Richmal Crompton, 1922)
- เรื่องราวของ William Brown เด็กชายวัย 11 ปีที่มักสร้างความวุ่นวาย
- นำเสนอภาพชีวิตในชนบทอังกฤษช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ผ่านสายตาของเด็ก
- ผสมผสานอารมณ์ขันกับการวิพากษ์สังคมอย่างแยบยล
- เป็นจุดเริ่มต้นของซีรีส์ยาวนานที่มีอิทธิพลต่อวรรณกรรมตลกสำหรับเด็ก
87. The Twits (Roald Dahl and Quentin Blake, 1980)
- เรื่องราวของคู่สามีภรรยาที่น่าเกลียดน่ากลัวชื่อ Mr. และ Mrs. Twit
- นำเสนออารมณ์ขันแบบดำๆ และการแกล้งกันไปมาระหว่างตัวละคร
- สอดแทรกบทเรียนเกี่ยวกับการกลั่นแกล้งและผลของการกระทำที่ไม่ดี
- ภาพประกอบที่แสนสนุกและน่าจดจำโดย Quentin Blake
88. The Mouse and His Child (Russell Hoban, 1967)
- เรื่องราวของของเล่นนาฬิกาพ่อลูกที่ถูกทิ้งและออกผจญภัย
- ผสมผสานแฟนตาซีกับปรัชญาที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับชีวิตและการดำรงอยู่
- นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับครอบครัว, มิตรภาพ, และการค้นหาบ้าน
- มีความซับซ้อนทางอารมณ์และเนื้อหาที่ท้าทายสำหรับผู้อ่านทุกวัย
89. Out of My Mind (Sharon M. Draper, 2010)
- เรื่องราวของ Melody เด็กหญิงที่มีสมองพิการแต่มีความสามารถพิเศษ
- นำเสนอมุมมองของผู้พิการและความท้าทายในการสื่อสารกับผู้อื่น
- สำรวจประเด็นเกี่ยวกับการยอมรับความแตกต่าง, การเอาชนะอุปสรรค, และการค้นพบตัวตน
- สร้างความตระหนักและความเข้าใจเกี่ยวกับผู้ที่มีความต้องการพิเศษ
90. Moominvalley in November (Tove Jansson, 1970)
- เล่มสุดท้ายในซีรีส์ Moomin ที่มีบรรยากาศเศร้าและครุ่นคิดมากกว่าเล่มอื่นๆ
- เล่าเรื่องของตัวละครต่างๆ ที่มาเยือนบ้าน Moomin ในขณะที่ครอบครัว Moomin ไม่อยู่
- สำรวจแนวคิดเกี่ยวกับการสูญเสีย, ความโดดเดี่ยว, และการค้นหาตัวตน
- สะท้อนช่วงชีวิตของ Tove Jansson เองที่กำลังเปลี่ยนแปลง
91. Little House in the Big Woods (Laura Ingalls Wilder, 1932)
- เล่มแรกในซีรีส์ Little House ที่เล่าเรื่องชีวิตของครอบครัว Ingalls ในป่าใหญ่แห่งวิสคอนซิน
- นำเสนอภาพชีวิตของผู้บุกเบิกอเมริกันในช่วงปลายศตวรรษที่ 19
- ให้รายละเอียดเกี่ยวกับวิถีชีวิต, งานบ้าน, และประเพณีในยุคนั้น
- ผสมผสานเรื่องจริงกับจินตนาการ สร้างความประทับใจให้ผู้อ่านมาหลายรุ่น
92. Danny the Champion of the World (Roald Dahl, 1975)
- เรื่องราวของ Danny และพ่อของเขาที่อาศัยอยู่ในรถบ้านและทำงานที่อู่ซ่อมรถ
- นำเสนอความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างพ่อลูก
- ผจญภัยในการขโมยไก่ฟ้าจากเจ้าของที่ดินที่เห็นแก่ตัว
- สำรวจแนวคิดเกี่ยวกับความยุติธรรม, ความซื่อสัตย์, และความกล้าหาญ
93. The Snowman (Raymond Briggs, 1978)
- หนังสือภาพไร้คำบรรยายที่เล่าเรื่องเด็กชายกับมนุษย์หิมะที่มีชีวิต
- ใช้ภาพวาดสีหม่นๆ แต่อบอุ่นในการสื่ออารมณ์และเรื่องราว
- นำเสนอจินตนาการและความมหัศจรรย์ของวัยเด็ก
- ได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่โด่งดังและกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมคริสต์มาส
94. Wave (Suzy Lee, 2008)
- หนังสือภาพไร้คำบรรยายที่เล่าเรื่องเด็กหญิงที่เล่นกับคลื่นทะเล
- ใช้สีน้ำเงินและขาวดำในการสร้างภาพที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง
- สื่อถึงความสนุกสนาน, ความกลัว, และความตื่นเต้นของการเผชิญหน้ากับธรรมชาติ
- เป็นส่วนหนึ่งของไตรภาคหนังสือภาพของ Suzy Lee ที่สำรวจขอบเขตของหน้ากระดาษ
95. The Black Brothers (Lisa Tetzner, 1940)
- เรื่องราวของเด็กชายชาวสวิสที่ถูกขายให้เป็นคนกวาดปล่องไฟในเมืองมิลาน
- นำเสนอประเด็นเกี่ยวกับการใช้แรงงานเด็กและความไม่เท่าเทียมทางสังคม
- สะท้อนสภาพสังคมในยุโรปช่วงศตวรรษที่ 19
- ผสมผสานความตื่นเต้นของการผจญภัยกับการวิพากษ์สังคม
96. The Velveteen Rabbit (Margery Williams, 1922)
- เรื่องราวของตุ๊กตากระต่ายที่ต้องการจะกลายเป็นของจริง
- สำรวจแนวคิดเกี่ยวกับความรัก, การยอมรับ, และการเติบโต
- นำเสนอบทเรียนเกี่ยวกับคุณค่าที่แท้จริงของสิ่งของและความสัมพันธ์
- ภาษาที่ไพเราะและภาพประกอบที่อบอุ่นสร้างความประทับใจให้ผู้อ่านทุกวัย
97. The Bad Beginning (Lemony Snicket, 1999)
- เล่มแรกในซีรีส์ A Series of Unfortunate Events
- เล่าเรื่องของพี่น้อง Baudelaire ที่ต้องเผชิญกับโชคร้ายและภัยอันตรายนานัปการ
- ใช้ภาษาที่ฉลาดและอารมณ์ขันแบบดำๆ ในการเล่าเรื่อง
- ท้าทายขนบของวรรณกรรมเด็กด้วยการนำเสนอเรื่องราวที่ไม่มีความสุขตลอดเวลา
98. The Graveyard Book (Neil Gaiman, 2008)
- เรื่องราวของเด็กชายที่ถูกเลี้ยงดูโดยผีในสุสาน
- ดัดแปลงแนวคิดจาก “The Jungle Book” มาสู่บริบทของสุสานและโลกของวิญญาณ
- ผสมผสานความน่ากลัว, ความตลกขบขัน, และการเติบโตได้อย่างลงตัว
- ได้รับรางวัล Newbery Medal และ Carnegie Medal
99. American Born Chinese (Gene Luen Yang and Lark Pien, 2006)
- นิยายกราฟิกที่เล่าเรื่องราวสามเรื่องที่เชื่อมโยงกัน
- สำรวจประเด็นเกี่ยวกับอัตลักษณ์, การเหยียดเชื้อชาติ, และการยอมรับตัวเอง
- ผสมผสานตำนานจีนกับประสบการณ์ของชาวอเมริกันเชื้อสายจีน
- เป็นนิยายกราฟิกเล่มแรกที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล National Book Award
100. Haroun and the Sea of Stories (Salman Rushdie, 1990)
- เรื่องราวแฟนตาซีที่เขียนโดยนักเขียนชื่อดัง Salman Rushdie
- เล่าถึงการผจญภัยของ Haroun เพื่อช่วยพ่อของเขาที่เป็นนักเล่านิทาน
- วิพากษ์วิจารณ์การเซ็นเซอร์และความสำคัญของเสรีภาพในการแสดงออก
- ผสมผสานจินตนาการแบบตะวันออกกับการเล่าเรื่องแบบตะวันตกได้อย่างลงตัว
- สะท้อนประสบการณ์ของ Rushdie เองที่ถูกคุกคามจากฟัตวาของอิหร่าน