“Stories That Shaped the World” โดย BBC Culture
BBC Cultureได้จัดอันดับเกี่ยวกับเรื่องราว เรื่องเล่า และวรรณกรรมที่ส่งอิทธิพลต่อความคิดและประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติมากที่สุดในโลก โดยได้รวบรวมความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาและวรรณกรรมจำนวน 108 คนจาก 35 ประเทศทั่วโลก ผลสำรวจนี้ได้รายชื่อวรรณกรรมทรงอิทธิพล 100 เรื่องที่เขียนด้วยภาษาที่แตกต่างกันถึง 33 ภาษา โดยผลสำรวจนี้ทำการเผยแพร่เมื่อเดือนเมษายน 2024
ผลการสำรวจแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของวรรณกรรมที่มีอิทธิพลต่อมนุษยชาติ ตั้งแต่มหากาพย์โบราณไปจนถึงนวนิยายร่วมสมัย โดยมีทั้งผลงานที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและผลงานที่อาจไม่เป็นที่รู้จักมากนักในวงกว้าง แต่มีอิทธิพลสำคัญต่อสังคมและวัฒนธรรม

การสำรวจนี้เป็นส่วนหนึ่งของชุด “Stories That Shaped the World” โดย BBC Culture โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหาเรื่องราวที่มีอิทธิพลต่อความคิดและประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ การสำรวจนี้ไม่ได้มุ่งหวังที่จะสร้างรายการที่เด็ดขาด แต่ต้องการจุดประกายการสนทนาเกี่ยวกับเหตุผลที่ทำให้เรื่องราวบางเรื่องยังคงอยู่และมีความสำคัญแม้เวลาจะผ่านไปหลายศตวรรษหรือสหัสวรรษ
จำนวนและที่มาของผู้เชี่ยวชาญ
BBC Culture ได้รับคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญ 108 คนจาก 35 ประเทศทั่วโลก ประกอบด้วยนักเขียน นักวิชาการ นักข่าว นักวิจารณ์ และนักแปล ความหลากหลายของผู้เชี่ยวชาญนี้ช่วยให้การสำรวจครอบคลุมมุมมองที่กว้างขวางและหลากหลายทางวัฒนธรรม
ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ
เนื้อหาได้ยกตัวอย่างความเห็นของผู้เชี่ยวชาญบางคน เช่น Tess Taylor กวีที่กล่าวถึง The Odyssey ว่า “ผมแทบจะไม่เคยพบใครที่ไม่รู้จักส่วนใดส่วนหนึ่งของเรื่องราวนี้ – แนวคิดเรื่องชายที่หลงทางและไม่สามารถกลับบ้านหลังสงคราม… ผู้หญิงที่อยู่บ้านกับผู้สู่ขอ ทุกคนสามารถเล่าบางเวอร์ชันของมันให้ผมฟังได้ ซึ่งก็คือ มันมีชีวิตอยู่ในตัวพวกเขา” ความเห็นเช่นนี้ช่วยให้เห็นถึงเหตุผลที่เรื่องราวเหล่านี้ยังคงมีอิทธิพลในปัจจุบัน
เกณฑ์การจัดอันดับ
การจัดอันดับใช้วิธีการลงคะแนนแบบจัดลำดับ โดยเรียงลำดับจากจำนวนโหวตของนักวิจารณ์ก่อน จากนั้นจึงเรียงตามคะแนนรวมของนักวิจารณ์ และสุดท้ายเรียงตามลำดับอักษร (สำหรับอันดับที่ 73 ถึง 100 ซึ่งมีคะแนนเท่ากัน) วิธีการนี้ช่วยให้การจัดอันดับมีความเป็นธรรมและสะท้อนความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญอย่างรอบด้าน
รายชื่อหนังสือ วรรณกรรมทรงอิทธิพล
1. The Odyssey

มหากาพย์โบราณกรีกที่เล่าเรื่องการผจญภัยของโอดิสซุส เป็นวรรณกรรมคลาสสิกที่มีอิทธิพลต่อวรรณกรรมตะวันตกอย่างมาก ด้วยการนำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการเดินทาง การผจญภัย และการกลับบ้าน
2. Uncle Tom’s Cabin

นวนิยายต่อต้านการเอาคนเป็นทาสที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อสังคมอเมริกันในช่วงก่อนสงครามกลางเมือง เป็นงานเขียนที่สะท้อนให้เห็นถึงความโหดร้ายของระบบทาสและเรียกร้องให้มีการยกเลิกการเอาคนเป็นทาส
3. Frankenstein

นวนิยายกอทิกที่ถือเป็นงานบุกเบิกแนวไซไฟ นำเสนอประเด็นเกี่ยวกับจริยธรรมทางวิทยาศาสตร์ ธรรมชาติของมนุษย์ และความรับผิดชอบของผู้สร้างต่อสิ่งที่ถูกสร้างขึ้น
4. Nineteen Eighty-Four

นวนิยายดิสโทเปียที่นำเสนอภาพสังคมเผด็จการที่ควบคุมความคิดและพฤติกรรมของประชาชน เป็นงานที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อการวิพากษ์สังคมและการเมือง
5. Things Fall Apart

นวนิยายที่นำเสนอผลกระทบของการล่าอาณานิคมต่อสังคมแอฟริกาดั้งเดิม เป็นงานสำคัญที่นำเสนอมุมมองของชาวแอฟริกันต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม
6. One Thousand and One Nights

ชุดนิทานพื้นบ้านตะวันออกกลางที่มีอิทธิพลต่อวรรณกรรมโลก นำเสนอเรื่องราวหลากหลายผ่านการเล่าเรื่องซ้อนเรื่อง สะท้อนวิถีชีวิต วัฒนธรรม และจินตนาการของโลกอาหรับ
7. Don Quixote

นวนิยายสเปนที่ถือเป็นหนึ่งในงานเขียนสำคัญที่สุดของวรรณกรรมตะวันตก เล่าเรื่องราวของอัศวินจินตนาการที่ออกผจญภัย วิพากษ์วิจารณ์สังคมและวรรณกรรมอัศวินในยุคนั้น
8. Hamlet

บทละครโศกนาฏกรรมของเชกสเปียร์ที่เล่าเรื่องราวของเจ้าชายเดนมาร์กผู้แสวงหาการแก้แค้น นำเสนอประเด็นเกี่ยวกับจิตวิทยามนุษย์ การแก้แค้น และความเป็นมนุษย์
9. One Hundred Years of Solitude

นวนิยายมหัศจรรย์นิยมที่เล่าเรื่องราวของตระกูลบูเอนเดียผ่านหลายรุ่น นำเสนอประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของละตินอเมริกาผ่านมุมมองที่ผสมผสานระหว่างความจริงและจินตนาการ
10. The Iliad

มหากาพย์โบราณกรีกอีกเรื่องของโฮเมอร์ที่เล่าเรื่องราวของสงครามเมืองทรอย นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับสงคราม เกียรติยศ และชะตากรรมของมนุษย์
11. Beloved
นวนิยายที่เล่าเรื่องราวของทาสหญิงที่หนีจากการเป็นทาส นำเสนอผลกระทบของการเป็นทาสต่อจิตใจและครอบครัว ผ่านการผสมผสานระหว่างความจริงและเหนือธรรมชาติ
12. The Divine Comedy
บทกวีมหากาพย์ภาษาอิตาลีที่บรรยายการเดินทางของดันเตผ่านนรก วรรคระหว่าง และสวรรค์ นำเสนอแนวคิดทางศาสนา ปรัชญา และการเมืองของยุคกลาง
13. Romeo and Juliet
บทละครโศกนาฏกรรมของเชกสเปียร์ที่เล่าเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวจากตระกูลที่เป็นศัตรูกัน นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับความรัก ความขัดแย้ง และโชคชะตา
14. The Epic of Gilgamesh
มหากาพย์โบราณของเมโสโปเตเมียที่เล่าเรื่องราวของกษัตริย์กิลกาเมช นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับมิตรภาพ ความเป็นอมตะ และการยอมรับความตาย
15. Harry Potter Series
ชุดนวนิยายแฟนตาซีที่เล่าเรื่องราวของเด็กกำพร้าผู้มีพลังวิเศษ นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับมิตรภาพ ความกล้าหาญ และการต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่ว
16. The Handmaid’s Tale
นวนิยายดิสโทเปียที่นำเสนอภาพสังคมที่ผู้หญิงถูกกดขี่และถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสืบพันธุ์ วิพากษ์วิจารณ์สังคมที่ควบคุมสิทธิสตรีและเสรีภาพส่วนบุคคล
17. Ulysses
นวนิยายโมเดิร์นนิสต์ที่เล่าเรื่องราวของชายคนหนึ่งในดับลินในช่วงเวลาหนึ่งวัน นำเสนอเทคนิคการเขียนแบบใหม่และการสำรวจจิตใจของตัวละคร
18. Animal Farm
นิทานการเมืองที่ใช้สัตว์เป็นตัวแทนของมนุษย์ วิพากษ์วิจารณ์การปฏิวัติรัสเซียและระบอบคอมมิวนิสต์ผ่านเรื่องราวของฟาร์มที่สัตว์ปกครองกันเอง
19. Jane Eyre
นวนิยายโรแมนติกที่เล่าเรื่องราวของหญิงสาวกำพร้าที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากและความรัก นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับอิสรภาพของผู้หญิงและศีลธรรม
20. Madame Bovary
นวนิยายสัจนิยมที่เล่าเรื่องราวของหญิงสาวที่แต่งงานแล้วแต่ไม่พอใจกับชีวิตในชนบท วิพากษ์วิจารณ์สังคมชนชั้นกลางและความฝันแบบโรแมนติก
21. Romance of the Three Kingdoms
นวนิยายอิงประวัติศาสตร์จีนที่เล่าเรื่องราวของสามอาณาจักรในช่วงปลายราชวงศ์ฮั่น นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับสงคราม การเมือง และกลยุทธ์
22. Journey to the West
นวนิยายแฟนตาซีจีนที่เล่าเรื่องราวการเดินทางไปอินเดียของพระถังซำจั๋งและสหายสามคน นำเสนอแนวคิดทางพุทธศาสนาและการผจญภัย
23. Crime and Punishment
[เว้นที่สำหรับใส่ภาพปก]
นวนิยายจิตวิทยาที่เล่าเรื่องราวของนักศึกษาที่ก่ออาชญากรรมและต่อสู้กับความรู้สึกผิด
24. Pride and Prejudice
นวนิยายโรแมนติกของเจน ออสเตน ที่วิพากษ์วิจารณ์สังคมชนชั้นกลางในอังกฤษยุคจอร์เจียน นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการแต่งงาน ชนชั้น และอคติทางสังคม
25. Water Margin
นวนิยายคลาสสิกจีนที่เล่าเรื่องราวของกลุ่มโจรสลัดที่ต่อต้านรัฐบาลที่ฉ้อฉล นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับความยุติธรรม ความซื่อสัตย์ และการต่อต้านการกดขี่
26. War and Peace
มหานวนิยายของลีโอ ตอลสตอย ที่เล่าเรื่องราวของชีวิตหลายครอบครัวในช่วงสงครามนโปเลียน นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ สงคราม และความรัก
27. To Kill a Mockingbird
นวนิยายที่เล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของเด็กหญิงในช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดทางเชื้อชาติในอเมริกาใต้ นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับความยุติธรรม ความเท่าเทียม และการเติบโต
28. Wide Sargasso Sea
นวนิยายที่เป็นภาคก่อนของ Jane Eyre เล่าเรื่องราวของตัวละครเบิร์ธา เมสัน นำเสนอมุมมองใหม่เกี่ยวกับอาณานิคม เชื้อชาติ และสุขภาพจิต
29. Aesop’s Fables
ชุดนิทานสั้นๆ ที่ใช้สัตว์เป็นตัวละครหลัก มีบทเรียนทางศีลธรรมในแต่ละเรื่อง สอนแง่คิดและคติธรรมที่เป็นสากล
30. Candide
นวนิยายเสียดสีของวอลแตร์ที่วิพากษ์วิจารณ์แนวคิดเรื่องโลกที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้ นำเสนอการผจญภัยที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายและความไม่ยุติธรรม
31. Medea
บทละครโศกนาฏกรรมกรีกโบราณที่เล่าเรื่องราวของหญิงสาวที่แก้แค้นสามีที่ทรยศ นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับความรัก ความแค้น และการแก้แค้น
32. The Mahabharata
มหากาพย์ของอินเดียที่เล่าเรื่องราวของสงครามระหว่างตระกูลกุรุและปาณฑพ นำเสนอแนวคิดทางปรัชญา ศาสนา และจริยธรรม
33. King Lear
บทละครโศกนาฏกรรมของเชกสเปียร์ที่เล่าเรื่องราวของกษัตริย์ที่แบ่งอาณาจักรให้ลูกสาว นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับอำนาจ ความชรา และความไม่กตัญญู
34. The Tale of Genji
นวนิยายคลาสสิกญี่ปุ่นที่เล่าเรื่องราวชีวิตรักและการเมืองในราชสำนักเฮอัน นำเสนอภาพสังคมและวัฒนธรรมญี่ปุ่นโบราณ
35. The Sorrows of Young Werther
นวนิยายของโยฮันน์ โวล์ฟกัง ฟอน เกอเธ ที่เล่าเรื่องราวของชายหนุ่มที่ตกหลุมรักหญิงสาวที่หมั้นแล้ว นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับความรักที่ไม่สมหวังและอารมณ์รุนแรง
36. The Trial
นวนิยายของฟรันซ์ คาฟคา ที่เล่าเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ถูกจับกุมและดำเนินคดีโดยไม่รู้สาเหตุ นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับความยุติธรรม ระบบราชการ และความไร้สาระของชีวิต
37. Remembrance of Things Past
นวนิยายชุดของมาร์เซล พรูสต์ ที่สำรวจความทรงจำและประสบการณ์ของผู้เล่าเรื่อง นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับเวลา ความทรงจำ และศิลปะ
38. Wuthering Heights
นวนิยายโรแมนติกของเอมิลี บรอนเต ที่เล่าเรื่องราวความรักอันเร่าร้อนและการแก้แค้นบนทุ่งมัวร์ของอังกฤษ นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับความรัก ความแค้น และชนชั้นทางสังคม
39. Invisible Man
นวนิยายของราล์ฟ เอลลิสัน ที่เล่าเรื่องราวของชายผิวดำที่รู้สึกว่าตัวเองมองไม่เห็นในสังคมอเมริกัน นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับเชื้อชาติ อัตลักษณ์ และการกดขี่
40. Moby-Dick
นวนิยายของเฮอร์แมน เมลวิลล์ ที่เล่าเรื่องราวการล่าปลาวาฬสีขาวของกัปตันเอแฮบ นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับความหมกมุ่น การแก้แค้น และธรรมชาติของมนุษย์
41. Their Eyes Were Watching God
นวนิยายของโซรา นีล เฮิร์สตัน ที่เล่าเรื่องราวของหญิงผิวดำในฟลอริดาต้นศตวรรษที่ 20 นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับเชื้อชาติ เพศ และการค้นหาตัวตน
42. To the Lighthouse
นวนิยายของเวอร์จิเนีย วูล์ฟ ที่สำรวจความสัมพันธ์ในครอบครัวและการรับรู้เวลา นำเสนอเทคนิคการเขียนแบบกระแสจิตสำนึก
43. The True Story of Ah Q
เรื่องสั้นของลู่ซวิ่น ที่วิพากษ์วิจารณ์สังคมจีนผ่านตัวละครชาวนาที่ไม่ประสบความสำเร็จ นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการปฏิวัติและสภาพสังคม
44. Alice’s Adventures in Wonderland
นวนิยายแฟนตาซีของลูอิส แครอล ที่เล่าเรื่องราวการผจญภัยของเด็กหญิงในดินแดนมหัศจรรย์ นำเสนอจินตนาการ ตรรกะแปลกประหลาด และการวิพากษ์สังคมวิคตอเรียน
45. Anna Karenina
นวนิยายของลีโอ ตอลสตอย ที่เล่าเรื่องราวความรักต้องห้ามของหญิงสาวแต่งงานแล้ว นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับสังคม ศีลธรรม และความรัก
46. Heart of Darkness
นวนิยายของโจเซฟ คอนราด ที่เล่าเรื่องราวการเดินทางเข้าไปในแอฟริกากลาง นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับจักรวรรดินิยม ความป่าเถื่อน และธรรมชาติของมนุษย์
47. Monkey Grip
นวนิยายของเฮเลน การ์เนอร์ ที่เล่าเรื่องราวของแม่เลี้ยงเดี่ยวในเมลเบิร์น ออสเตรเลีย นำเสนอภาพชีวิตในยุค 70 และความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน
48. Mrs Dalloway
นวนิยายของเวอร์จิเนีย วูล์ฟ ที่เล่าเรื่องราวของหญิงชนชั้นสูงในลอนดอนช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 นำเสนอเทคนิคกระแสจิตสำนึกและการสำรวจจิตใจของตัวละคร
49. Oedipus the King
บทละครโศกนาฏกรรมกรีกโบราณของโซโฟคลีส ที่เล่าเรื่องราวของกษัตริย์ที่พยายามหลีกหนีชะตากรรม นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับโชคชะตา การรู้จักตนเอง และความยุติธรรม
50. The Metamorphosis
เรื่องสั้นของฟรันซ์ คาฟคา ที่เล่าเรื่องราวของชายหนุ่มที่ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองกลายเป็นแมลงขนาดใหญ่ นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการแปลกแยก ครอบครัว และสังคมสมัยใหม่
51. The Oresteia
ไตรภาคบทละครโศกนาฏกรรมกรีกโบราณของเอสคิลัส ที่เล่าเรื่องราวการแก้แค้นและความยุติธรรมในตระกูลอาเทรอุส นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับกฎหมาย ความยุติธรรม และการลงโทษ
52. Cinderella
นิทานพื้นบ้านที่มีหลายเวอร์ชันทั่วโลก เล่าเรื่องราวของหญิงสาวที่ถูกกดขี่แต่ได้พบกับเจ้าชาย นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับความยุติธรรม การเอาชนะอุปสรรค และความฝัน
53. Howl
บทกวีของอัลเลน กินส์เบิร์ก ที่เป็นเสียงสะท้อนของคนรุ่น Beat Generation วิพากษ์วิจารณ์สังคมอเมริกันและนำเสนอวิถีชีวิตอันเสรี
54. Les Misérables
นวนิยายของวิกตอร์ อูโก ที่เล่าเรื่องราวของอดีตนักโทษที่พยายามสร้างชีวิตใหม่ในฝรั่งเศสช่วงต้นศตวรรษที่ 19 นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับความยุติธรรม การไถ่บาป และการปฏิวัติ
55. Middlemarch
นวนิยายของจอร์จ เอลเลียต ที่เล่าเรื่องราวชีวิตของผู้คนในเมืองสมมติในช่วงการปฏิรูปของอังกฤษ นำเสนอภาพสังคมชนบทและการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
56. Pedro Páramo
นวนิยายของฮวน รูลโฟ ที่เล่าเรื่องราวของชายหนุ่มที่เดินทางไปยังเมืองร้างเพื่อตามหาพ่อ นำเสนอเทคนิคการเล่าเรื่องแบบใหม่และภาพของเม็กซิโกชนบท
57. The Butterfly Lovers
ตำนานความรักจีนโบราณที่เล่าเรื่องราวของคู่รักที่ไม่สมหวังแต่ได้กลับมาพบกันในรูปของผีเสื้อ นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับความรักที่เหนือความตาย
58. The Canterbury Tales
ชุดเรื่องเล่าของเจฟฟรีย์ ชอเซอร์ ที่นำเสนอเรื่องราวของกลุ่มผู้แสวงบุญที่เดินทางไปแคนเทอร์บีรี นำเสนอภาพสังคมอังกฤษในยุคกลางและตัวละครหลากหลาย
59. The Panchatantra
ชุดนิทานสอนใจของอินเดียโบราณที่ใช้สัตว์เป็นตัวละคร นำเสนอบทเรียนทางปรัชญาและจริยธรรมผ่านเรื่องราวสนุกสนาน
60. The Posthumous Memoirs of Bras Cubas
นวนิยายของฆัวกิม มาเรีย มาชาโด เด อัสซิส ที่เล่าเรื่องราวชีวิตของตัวละครหลักหลังความตาย นำเสนอมุมมองที่แปลกใหม่และการวิพากษ์สังคมบราซิล
61. The Prime of Miss Jean Brodie
นวนิยายของมูเรียล สปาร์ก ที่เล่าเรื่องราวของครูสาวที่มีอิทธิพลต่อนักเรียนของเธอ นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการศึกษา อำนาจ และการทรยศ
62. The Ragged-Trousered Philanthropists
นวนิยายของโรเบิร์ต เทรสเซล ที่เล่าเรื่องราวของกลุ่มคนงานในอังกฤษ นำเสนอแนวคิดสังคมนิยมและวิพากษ์ระบบทุนนิยม
63. Song of Lawino
บทกวีของโอโกต์ ปีบีเทก ที่เล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของหญิงชาวอาโชลิในยูกันดา วิพากษ์การล่าอาณานิคมและการสูญเสียวัฒนธรรมดั้งเดิม
64. The Golden Notebook
นวนิยายของดอริส เลสซิง ที่เล่าเรื่องราวของนักเขียนหญิงที่พยายามจัดการกับชีวิตส่วนตัวและการเมือง นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับสตรีนิยมและจิตวิทยา
65. Midnight’s Children
นวนิยายของซัลมาน รัชดี ที่เล่าเรื่องราวของเด็กที่เกิดในวันที่อินเดียได้รับเอกราช นำเสนอประวัติศาสตร์อินเดียผ่านมุมมองแบบมหัศจรรย์นิยม
66. Nervous Conditions
นวนิยายของทสิทสิ ดันกาเรมบกา ที่เล่าเรื่องราวของเด็กหญิงในซิมบับเวช่วงยุคอาณานิคม นำเสนอประเด็นเกี่ยวกับเพศ การศึกษา และการล่าอาณานิคม
67. The Little Prince
นิทานปรัชญาของอ็องตวน เดอ แซ็งเต็กซูเปรี ที่เล่าเรื่องราวของเจ้าชายน้อยจากดาวดวงอื่น นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับความรัก มิตรภาพ และความหมายของชีวิต
68. The Master and Margarita
นวนิยายของมีคาอิล บูลกาคอฟ ที่ผสมผสานเรื่องราวของซาตานที่มาเยือนมอสโควกับเรื่องของพระเยซูและปอนทิอัส ปีลาต วิพากษ์สังคมโซเวียตและนำเสนอแนวคิดทางปรัชญา
69. The Ramayana
มหากาพย์ของอินเดียที่เล่าเรื่องราวของพระรามและการผจญภัยเพื่อช่วยนางสีดาจากทศกัณฐ์ นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับหน้าที่ ความซื่อสัตย์ และความดี
70. Antigone
บทละครโศกนาฏกรรมกรีกโบราณของโซโฟคลีส ที่เล่าเรื่องราวของหญิงสาวที่ท้าทายคำสั่งของกษัตริย์เพื่อฝังศพพี่ชาย นำเสนอความขัดแย้งระหว่างกฎหมายของรัฐและศีลธรรมส่วนบุคคล
71. Dracula
นวนิยายกอทิกของแบรม สโตกเกอร์ ที่เล่าเรื่องราวของแวมไพร์เคานต์ดราคูลา นำเสนอความกลัวของยุควิคตอเรียนและแนวคิดเกี่ยวกับเพศและความตาย
72. The Left Hand of Darkness
นวนิยายไซไฟของเออร์ซูลา เค เลอ กวิน ที่เล่าเรื่องราวการติดต่อระหว่างมนุษย์กับสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่สามารถเปลี่ยนเพศได้ นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับเพศ การเมือง และวัฒนธรรม
73. A Christmas Carol
นวนิยายของชาร์ลส์ ดิกเกนส์ ที่เล่าเรื่องราวของนายทุนขี้เหนียวที่เปลี่ยนแปลงตัวเองหลังได้รับการเยือนจากวิญญาณ นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการกลับใจและความเมตตา
74. América
นวนิยายของราอูล โอเตโร ไรเช ที่เล่าเรื่องราวของชาวอเมริกาใต้ที่อพยพไปยังสหรัฐอเมริกา นำเสนอประเด็นเกี่ยวกับการอพยพ อัตลักษณ์ และการปรับตัว
75. Before the Law
เรื่องสั้นของฟรันซ์ คาฟคา ที่เล่าเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่พยายามเข้าถึงกฎหมาย นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับอำนาจ ความยุติธรรม และระบบราชการ
76. Children of Gebelawi
นวนิยายของนากีบ มาห์ฟูซ ที่เล่าเรื่องราวอุปมาอุปไมยเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ศาสนา นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับความเชื่อ อำนาจ และความยุติธรรม
77. Il Canzoniere
รวมบทกวีของปีแทราร์ก ที่ส่วนใหญ่เขียนถึงความรักที่มีต่อลอรา นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับความรักในอุดมคติและการสำรวจจิตใจมนุษย์
78. Kebra Nagast
ตำนานของเอธิโอเปียที่เล่าเรื่องราวของกษัตริย์โซโลมอนและราชินีแห่งเชบา นำเสนอประวัติศาสตร์และความเชื่อของเอธิโอเปีย
79. Little Women
นวนิยายของลูอิซา เมย์ อัลคอตต์ ที่เล่าเรื่องราวของพี่น้องสี่คนในช่วงสงครามกลางเมืองอเมริกัน นำเสนอภาพชีวิตครอบครัวและการเติบโตของเด็กผู้หญิง
80. Metamorphoses
บทกวีของโอวิด ที่รวบรวมตำนานการเปลี่ยนรูปในเทพปกรณัมกรีกและโรมัน นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงและธรรมชาติของมนุษย์
81. Omeros
บทกวีของเดเร็ก วอลคอตต์ ที่นำเอาตำนานกรีกมาประยุกต์ใช้กับเรื่องราวในแคริบเบียน นำเสนอประเด็นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ อัตลักษณ์ และการล่าอาณานิคม
82. One Day in the Life of Ivan Denisovich
นวนิยายของอเล็กซานเดอร์ โซลเชนิทซิน ที่เล่าเรื่องราวหนึ่งวันในชีวิตของนักโทษในค่ายกักกันโซเวียต นำเสนอสภาพชีวิตที่โหดร้ายและการต่อสู้เพื่อความอยู่รอด
83. Orlando
นวนิยายของเวอร์จิเนีย วูล์ฟ ที่เล่าเรื่องราวของตัวละครที่มีชีวิตยาวนานหลายศตวรรษและเปลี่ยนเพศได้ นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับเพศ อัตลักษณ์ และเวลา
84. Rainbow Serpent
ตำนานของชาวอะบอริจินออสเตรเลียเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างโลก นำเสนอความเชื่อและโลกทัศน์ของชนพื้นเมืองออสเตรเลีย
85. Revolutionary Road
นวนิยายของริชาร์ด เยตส์ ที่เล่าเรื่องราวของคู่สมรสในชานเมืองอเมริกันยุค 1950s นำเสนอภาพความไม่พอใจในชีวิตและการต่อต้านบรรทัดฐานทางสังคม
86. Robinson Crusoe
นวนิยายของแดเนียล เดอโฟ ที่เล่าเรื่องราวของชายที่ติดเกาะร้าง นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการอยู่รอด การพึ่งพาตนเอง และการล่าอาณานิคม
87. Song of Myself
บทกวีของวอลต์ วิตแมน ที่เฉลิมฉลองตัวตนและความเชื่อมโยงกับธรรมชาติและผู้อื่น นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับประชาธิปไตยและความเป็นอเมริกัน
88. The Adventures of Huckleberry Finn
นวนิยายของมาร์ก ทเวน ที่เล่าเรื่องราวการผจญภัยของเด็กชายและทาสหนีรอดบนแม่น้ำมิสซิสซิปปี นำเสนอการวิพากษ์สังคมอเมริกันและปัญหาการเหยียดเชื้อชาติ
89. The Adventures of Tom Sawyer
นวนิยายของมาร์ก ทเวน ที่เล่าเรื่องราวการผจญภัยของเด็กชายในชนบทอเมริกัน นำเสนอภาพชีวิตริมแม่น้ำมิสซิสซิปปีและการเติบโตของเด็ก
90. The Aleph
เรื่องสั้นของฮอร์เฮ ลุยส์ บอร์เฆส ที่เล่าถึงจุดในอวกาศที่สามารถมองเห็นทุกสิ่งในจักรวาลได้พร้อมกัน นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับอนันต์และการรับรู้
91. The Eloquent Peasant
นิทานอียิปต์โบราณที่เล่าเรื่องราวของชาวนาที่ร้องเรียนความไม่ยุติธรรมต่อขุนนาง นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับความยุติธรรมและวาทศิลป์
92. The Emperor’s New Clothes
นิทานของฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน ที่เล่าเรื่องราวของจักรพรรดิที่ถูกหลอกให้เชื่อว่าสวมเสื้อผ้าวิเศษ นำเสนอการวิพากษ์ความโง่เขลาและการหลงตัวเอง
93. The Jungle
นวนิยายของอัพตัน ซินแคลร์ ที่เปิดเผยสภาพการทำงานที่โหดร้ายในโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ในชิคาโก นำไปสู่การปฏิรูปกฎหมายอาหารและยา
94. The Khamriyyat
บทกวีเกี่ยวกับไวน์ของอาบู นูวาส กวีมุสลิมในยุคทองของอิสลาม นำเสนอความตึงเครียดระหว่างความสุขทางโลกและศาสนา
95. The Radetzky March
นวนิยายของโยเซฟ ร็อธ ที่เล่าเรื่องราวของสามรุ่นในครอบครัวทหารออสเตรีย-ฮังการี นำเสนอภาพการล่มสลายของจักรวรรดิ
96. The Raven
บทกวีของเอ็ดการ์ อัลลัน โพ ที่เล่าเรื่องราวของชายที่เศร้าโศกถูกเยี่ยมเยียนโดยอีกาที่พูดได้ นำเสนอภาพความสิ้นหวังและความเศร้าโศก
97. The Satanic Verses
นวนิยายของซัลมาน รัชดี ที่ผสมผสานเรื่องจริงกับแฟนตาซี นำเสนอประเด็นเกี่ยวกับศาสนา อัตลักษณ์ และการอพยพ สร้างความขัดแย้งทางศาสนาอย่างมาก
98. The Secret History
นวนิยายของดอนนา ทาร์ต ที่เล่าเรื่องราวของกลุ่มนักศึกษาที่เรียนภาษากรีกโบราณและเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับจริยธรรม ความลับ และผลกระทบของการกระทำ
99. The Snowy Day
หนังสือภาพสำหรับเด็กของเอซรา แจ็ค คีตส์ ที่เล่าเรื่องราวของเด็กชายผิวดำที่สำรวจเมืองในวันที่หิมะตก นำเสนอความหลากหลายในวรรณกรรมเด็กและความสวยงามของชีวิตประจำวัน
100. Toba Tek Singh
เรื่องสั้นของซาดัต ฮาซัน มันโต ที่เล่าเรื่องราวของผู้ป่วยในโรงพยาบาลจิตเวชในช่วงการแบ่งแยกอินเดีย-ปากีสถาน นำเสนอความไร้สาระของการแบ่งแยกดินแดนและผลกระทบต่อปัจเจกบุคคล
ที่มา :https://www.bbc.com/culture/article/20180521-the-100-stories-that-shaped-the-world