Order Block กับ Demand ต่าง กัน อย่างไร

Order Block คืออะไร

Order Block กับ Demand ต่างกันอย่างไร
Order Block กับ Demand ต่างกันอย่างไร
  • เป็นบริเวณบนกราฟที่แสดงถึงการสะสมออเดอร์ของนักลงทุนรายใหญ่ มักปรากฏเป็นแท่งเทียนขนาดใหญ่ มีไส้เทียนยาว
  • มีลักษณะเฉพาะคือ เกิดขึ้นหลังจากราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวได้ระยะหนึ่ง แล้วจู่ๆ ก็พลิกกลับทิศทางอย่างรวดเร็ว
  • Order Block ที่ราคาพุ่งขึ้น เรียกว่า Bullish Order Block ส่วน Order Block ที่ราคาร่วงลง เรียกว่า Bearish Order Block
  • เชื่อว่าเกิดจากการกระทำของ Smart Money หรือกลุ่มนักลงทุนที่มีเงินทุนและอำนาจในการกำหนดทิศทางตลาด
  • โดยทั่วไปราคามักจะเคลื่อนไหวในทิศทางของ Order Block ต่อไปอีกระยะหนึ่ง จนกว่าจะถึงจุดชะลอตัวหรือจุดกลับตัว

Demand Zone คืออะไร

  • เป็นระดับราคาที่นักลงทุนเชื่อว่ามีแรงซื้อเข้ามาหนุนอย่างหนาแน่น ทำให้ราคาเด้งตัวขึ้นจากแนวรับ
  • อยู่ตรงบริเวณที่ราคาเคยลงไปทำจุดต่ำ แล้วดีดกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว บ่งบอกว่ามีแรงซื้อเข้ามาพยุงตลาด
  • Demand Zone ที่แข็งแกร่งมักมีขนาดใหญ่ และเกิดขึ้นหลังจากราคาร่วงลงมาได้ระยะหนึ่ง เรียกว่า Deep Pullback
  • คู่ตรงข้ามของ Demand Zone คือ Supply Zone หรือบริเวณที่คาดว่ามีแรงขายออกมาอย่างหนาแน่น กดดันให้ราคาตกลงจากแนวต้าน
  • ถ้าราคาย้อนกลับมาที่ Demand Zone อีกครั้ง โดยไม่ทะลุผ่านลงไป แสดงว่าแนวรับยังแข็งแกร่งและน่าจะดันให้ราคาขึ้นต่อ

ความเหมือนของ Order Block และ Demand Zone

  • ทั้งสองคือบริเวณสำคัญที่สะท้อนอุปสงค์ของตลาด หรือแรงซื้อที่เข้ามาหนุนราคาให้สูงขึ้น
  • มักเกิดขึ้นหลังจากราคาเคลื่อนไหวต่ำลงมาได้พักใหญ่ แล้วมีแรงซื้อเข้ามาพยุงไม่ให้ตกลงไปมากกว่านี้
  • สามารถใช้เป็นจุดอ้างอิงในการเทรด โดยมองหาสัญญาณการกลับตัวของราคา เพื่อเปิดออเดอร์ตามทิศทางขาขึ้น
  • ควรใช้ควบคู่กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น แนวรับแนวต้าน, เทรนด์ไลน์ หรือรูปแบบกราฟ เพื่อยืนยันสัญญาณให้แม่นยำยิ่งขึ้น

ความแตกต่างของ Order Block และ Demand Zone

  • Order Block เน้นไปที่ลักษณะของแท่งเทียนเป็นหลัก ขณะที่ Demand Zone พิจารณาระดับราคาที่เกิดการดีดกลับเป็นสำคัญ
  • Order Block มักมีขนาดเล็กกว่า และอยู่ในกรอบเวลาที่สั้นกว่า Demand Zone ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว้างและใช้เวลานานกว่าในการพัฒนา
  • Order Block สะท้อนถึงการกระทำของนักลงทุนรายใหญ่ที่เฉพาะเจาะจงกว่า ส่วน Demand Zone สะท้อนภาพรวมของอุปสงค์ในตลาดมากกว่า
  • การเกิด Order Block ไม่ได้การันตีว่าจะเกิด Demand Zone เสมอไป เพราะต้องมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่น ปริมาณการซื้อขายและทิศทางของเทรนด์

วิธีการหา Order Block บนกราฟ

  • สังเกตแท่งเทียนในช่วงที่ราคากลับตัวหลังจากเคลื่อนไหวไปทางเดียวนานๆ
  • มองหาแท่งเทียนขนาดใหญ่ ที่มีไส้เทียนยาวเกินกว่าแท่งอื่นๆ ข้างเคียง
  • Order Block มักอยู่หลังจุด Swing High หรือ Swing Low ที่ราคาเพิ่งทะลุผ่านไป
  • ดูว่าแท่งเทียน Order Block อยู่ใน Liquidity Zone หรือบริเวณที่คาดว่ามีคำสั่งซื้อขายหนาแน่นหรือไม่
  • ใช้อินดิเคเตอร์ Volume ประกอบ เพื่อยืนยันการกระจุกตัวของออเดอร์ในช่วงนั้นๆ

วิธีการหา Demand Zone บนกราฟ

  • ลากเทรนด์ไลน์เชื่อมจุดต่ำสุด (Swing Low) หลายๆ จุด แล้วดูว่ามีจุดไหนที่ราคาดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
  • Demand Zone ควรมีระยะห่างที่พอสมควรจากเทรนด์ในขณะนั้น เรียกว่า Deep Pullback
  • สังเกตปริมาณการซื้อขายในบริเวณ Demand Zone ว่ามากกว่าช่วงก่อนหน้าหรือไม่
  • หลังจากราคาดีดตัวออกจาก Demand มักตามมาด้วยการพักฐานและไต่ระดับขึ้นในที่สุด
  • อาจใช้ Fibonacci Retracement ช่วยหาระดับของ Demand Zone เพิ่มเติม โดยมักอยู่แถวๆ 38.2%, 50% หรือ 61.8%

สรุป

Order Block และ Demand Zone เป็นสองแนวคิดที่ใกล้เคียงกัน โดยเน้นไปที่การวิเคราะห์แรงซื้อในตลาดซึ่งผลักดันให้ราคาสูงขึ้น อย่างไรก็ดี Order Block มองในมุมที่เฉพาะเจาะจงและเชื่อมโยงกับพฤติกรรมของนักลงทุนกลุ่มใหญ่มากกว่า

ในทางปฏิบัติ เราสามารถประยุกต์ใช้ทั้ง Order Block และ Demand Zone เพื่อช่วยวิเคราะห์กราฟ คาดการณ์ทิศทางของราคา รวมถึงวางแผนจุดเข้าออกออเดอร์ได้ โดยอาจใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ เช่น อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค หรือการวิเคราะห์แนวโน้ม เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ จึงเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ในการนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมและมีประสิทธิผลสูงสุด

 

ที่มา: forexbee.co