สรุปหนังสือ ลงทุนหุ้นท่ามกลางวิกฤติ

ลงทุนหุ้นท่ามกลางวิกฤติ
ลงทุนหุ้นท่ามกลางวิกฤติ

Table of Contents

ข้อมูลทั่วไป

ชื่อหนังสือ : ลงทุนหุ้นท่ามกลางวิกฤติ

ชื่อผู้แต่ง : ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

สำนักพิมพ์ : ซีเอ็ดยูเคชั่น

ปีที่พิมพ์ : 2564

จำนวนหน้า :  250 หน้า

หมวดหนังสือ : การเงินการลงทุน

สารบัญ

  • ลงทุนในตัวเอง
  • ลงทุนหุ้นปันผล
  • ลงทุนในหุ้นตัวใหญ่
  • ลงทุนหุ้นท่ามกลางวิกฤติ
  • เล่นหุ้นท่ามกลางมรสุม
  • หุ้นโรงพยาบาลก็ติดโควิด-19
  • SET vs VN Index
  • Super Stock ใน 10 ปีข้างหน้า
  • Corner หุ้น IPO
  • ฯลฯ

สรุปข้อคิดจากหนังสือ

หนังสือ “ลงทุนหุ้นท่ามกลางวิกฤติ” โดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นำเสนอมุมมองและแนวทางการลงทุนในช่วงวิกฤติโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นทั่วโลก ผู้เขียนวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยและต่างประเทศ พร้อมให้ข้อคิดและคำแนะนำในการปรับตัวและเลือกลงทุนอย่างชาญฉลาดท่ามกลางความไม่แน่นอน หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนทุกระดับที่ต้องการเข้าใจภาพรวมตลาดและหาโอกาสลงทุนในยามวิกฤติ ผู้เขียนเน้นย้ำถึงความสำคัญของการวิเคราะห์พื้นฐานบริษัท การกระจายความเสี่ยง และการรักษาวินัยในการลงทุนระยะยาว นอกจากนี้ ยังแนะนำให้นักลงทุนปรับตัวกับ New Normal และมองหาโอกาสใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคและรูปแบบธุรกิจ

1. เรียนรู้บทเรียนจากวิกฤติในอดีต

ผู้เขียนชี้ให้เห็นว่าวิกฤติเศรษฐกิจและตลาดหุ้นเกิดขึ้นเป็นวัฏจักร โดยมักเกิดขึ้นทุก 10 ปีโดยประมาณ การศึกษาบทเรียนจากวิกฤติในอดีต เช่น วิกฤติต้มยำกุ้ง วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ จะช่วยให้เราเข้าใจรูปแบบและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ทำให้สามารถเตรียมตัวรับมือและหาโอกาสลงทุนได้ดีขึ้น นักลงทุนควรศึกษาประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจ

2. ปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะกับสถานการณ์

ในช่วงวิกฤติ รูปแบบการลงทุนแบบเดิมๆ อาจไม่ได้ผล ผู้เขียนแนะนำให้ปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสมกับสภาพตลาด เช่น อาจต้องเน้นการลงทุนระยะสั้นมากขึ้น หรือเลือกลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากวิกฤติ นักลงทุนควรมีความยืดหยุ่นและพร้อมปรับเปลี่ยนแนวทางตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่ยึดติดกับวิธีการลงทุนแบบใดแบบหนึ่งมากเกินไป

3. มองหาโอกาสในวิกฤติ

แม้ว่าวิกฤติจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโดยรวม แต่ก็มักจะมีธุรกิจบางกลุ่มที่ได้ประโยชน์หรือเติบโตขึ้นในช่วงนี้ ผู้เขียนแนะนำให้วิเคราะห์หาธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตท่ามกลางวิกฤติ เช่น ธุรกิจ e-commerce หรือเทคโนโลยีในช่วงโควิด-19 การมองหาโอกาสใหม่ๆ จะช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้แม้ในภาวะตลาดขาลง

4. ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์พื้นฐานมากขึ้น

ในช่วงวิกฤติ ราคาหุ้นมักผันผวนและไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท ผู้เขียนเน้นย้ำถึงความสำคัญของการวิเคราะห์พื้นฐานบริษัทอย่างละเอียด ทั้งในแง่ของฐานะการเงิน โครงสร้างธุรกิจ และความสามารถในการปรับตัวรับมือวิกฤติ การเลือกลงทุนในบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสทำกำไรในระยะยาว นักลงทุนควรให้เวลากับการศึกษาข้อมูลบริษัทมากขึ้น

5. กระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม

วิกฤติมักส่งผลกระทบต่อตลาดและอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่เท่ากัน ผู้เขียนแนะนำให้กระจายการลงทุนทั้งในแง่ของประเภทสินทรัพย์ กลุ่มอุตสาหกรรม และภูมิภาค เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวน การกระจายความเสี่ยงที่ดีจะช่วยให้พอร์ตการลงทุนสามารถต้านทานผลกระทบจากวิกฤติได้ดีขึ้น นักลงทุนควรทบทวนและปรับสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมอยู่เสมอ

6. เตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวน

ตลาดหุ้นในช่วงวิกฤติมักมีความผันผวนสูง ผู้เขียนเตือนให้นักลงทุนเตรียมใจรับมือกับการขึ้นลงของราคาอย่างรุนแรง โดยไม่ตื่นตระหนกหรือตัดสินใจผิดพลาดเพราะอารมณ์ชั่ววูบ การมีแผนการลงทุนที่ชัดเจนและยึดมั่นในหลักการจะช่วยให้นักลงทุนสามารถฝ่าฟันช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้ ควรมองการลงทุนในระยะยาวและไม่หวั่นไหวกับความผันผวนระยะสั้น

7. ให้ความสำคัญกับสภาพคล่อง

ในภาวะวิกฤติ สภาพคล่องมีความสำคัญมาก ผู้เขียนแนะนำให้รักษาสภาพคล่องในพอร์ตการลงทุน โดยอาจถือเงินสดหรือสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงในสัดส่วนที่เหมาะสม การมีเงินสดพร้อมจะช่วยให้นักลงทุนสามารถฉวยโอกาสลงทุนเมื่อราคาหุ้นลงมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจ อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกบังคับขายในราคาที่ไม่ต้องการ

8. ติดตามปัจจัยมหภาคอย่างใกล้ชิด

วิกฤติมักส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ผู้เขียนเน้นย้ำถึงความสำคัญของการติดตามข้อมูลเศรษฐกิจมหภาค เช่น อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ นโยบายการเงินการคลัง อัตราเงินเฟ้อ เป็นต้น การเข้าใจภาพรวมเศรษฐกิจจะช่วยให้นักลงทุนสามารถคาดการณ์ทิศทางตลาดและปรับกลยุทธ์การลงทุนได้อย่างเหมาะสม ควรติดตามข่าวสารและวิเคราะห์ผลกระทบต่อการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ

9. ระวังกับดักทางจิตวิทยาการลงทุน

ในช่วงวิกฤติ อารมณ์และความกลัวมักมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของนักลงทุน ผู้เขียนเตือนให้ระวังกับดักทางจิตวิทยาต่างๆ เช่น การขายทิ้งเพราะตื่นตระหนก หรือการยึดติดกับราคาต้นทุน การตระหนักรู้ถึงอคติและความลำเอียงในการลงทุนจะช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผลมากขึ้น ควรพยายามแยกอารมณ์ออกจากการวิเคราะห์และตัดสินใจลงทุน

10. เรียนรู้จากความผิดพลาด

วิกฤติมักเผยให้เห็นจุดอ่อนในกลยุทธ์การลงทุน ผู้เขียนแนะนำให้นักลงทุนใช้โอกาสนี้ทบทวนและเรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีต ทั้งในแง่ของการเลือกหุ้น การบริหารความเสี่ยง และการควบคุมอารมณ์ การวิเคราะห์ข้อผิดพลาดอย่างตรงไปตรงมาจะช่วยให้นักลงทุนพัฒนาทักษะและปรับปรุงวิธีการลงทุนให้ดีขึ้นในอนาคต ควรจดบันทึกบทเรียนจากการลงทุนเพื่อนำมาทบทวนและพัฒนาตนเอง

11. มองการณ์ไกลและเตรียมพร้อมสำหรับการฟื้นตัว

แม้ว่าวิกฤติจะสร้างความเสียหายในระยะสั้น แต่ตลาดมักจะฟื้นตัวในที่สุด ผู้เขียนแนะนำให้นักลงทุนมองการณ์ไกลและเตรียมพร้อมสำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและตลาดหุ้น การวิเคราะห์และเลือกลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโตหลังวิกฤติจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว นักลงทุนควรมองหาโอกาสในการสะสมหุ้นดีๆ ในราคาที่เหมาะสมระหว่างที่ตลาดยังอยู่ในช่วงขาลง

12. ปรับตัวกับ New Normal

วิกฤติโควิด-19 ได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคและรูปแบบการดำเนินธุรกิจ ผู้เขียนเน้นย้ำถึงความสำคัญของการวิเคราะห์และปรับตัวกับ New Normal ที่เกิดขึ้น นักลงทุนควรพิจารณาว่าธุรกิจใดจะได้ประโยชน์หรือเสียเปรียบจากการเปลี่ยนแปลงนี้ และปรับพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับแนวโน้มใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น การเข้าใจและปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงจะช่วยให้นักลงทุนสามารถค้นพบโอกาสใหม่ๆ ในการลงทุน

13. พิจารณาโอกาสการลงทุนในต่างประเทศ

วิกฤติส่งผลกระทบต่อแต่ละประเทศไม่เท่ากัน ผู้เขียนแนะนำให้นักลงทุนพิจารณาโอกาสการลงทุนในต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยงและแสวงหาผลตอบแทนที่ดีกว่า โดยเฉพาะในประเทศที่มีแนวโน้มฟื้นตัวเร็วหรือได้รับผลกระทบน้อยกว่า การลงทุนในต่างประเทศอาจทำผ่านกองทุนรวมหรือ ETF เพื่อลดความเสี่ยงและความยุ่งยากในการบริหารจัดการ นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและประเมินความเสี่ยงอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ

14. ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคประกอบการตัดสินใจ

แม้ว่าการวิเคราะห์พื้นฐานจะมีความสำคัญ แต่ผู้เขียนก็แนะนำให้ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคประกอบการตัดสินใจด้วย โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง การวิเคราะห์กราฟและใช้เครื่องมือทางเทคนิคจะช่วยให้นักลงทุนสามารถหาจังหวะเข้าซื้อหรือขายที่เหมาะสมได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นเพียงส่วนเสริม ไม่ควรยึดติดกับเครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่งมากเกินไป

15. รักษาวินัยและความอดทนในการลงทุน

ท้ายที่สุด ผู้เขียนเน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีวินัยและความอดทนในการลงทุน โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติที่ตลาดมีความผันผวนสูง นักลงทุนควรยึดมั่นในแผนการลงทุนระยะยาว ไม่หวั่นไหวกับความผันผวนระยะสั้น และมีความอดทนรอคอยผลตอบแทนในระยะยาว การมีวินัยในการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เช่น การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (DCA) จะช่วยลดความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวได้

สรุป

หนังสือ “ลงทุนหุ้นท่ามกลางวิกฤติ” โดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นำเสนอมุมมองและแนวทางการลงทุนที่เป็นประโยชน์สำหรับนักลงทุนในช่วงเวลาที่ท้าทาย ผู้เขียนชี้ให้เห็นว่าวิกฤติไม่เพียงแต่สร้างความเสียหาย แต่ยังเปิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับนักลงทุนที่มีการเตรียมตัวและวางแผนที่ดี การปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ การวิเคราะห์อย่างรอบคอบ และการรักษาวินัยในการลงทุน เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้นักลงทุนสามารถฝ่าฟันช่วงเวลาที่ยากลำบากและสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวได้ หนังสือเล่มนี้ไม่เพียงให้ความรู้และข้อคิดเกี่ยวกับการลงทุน แต่ยังกระตุ้นให้ผู้อ่านพัฒนาทักษะการวิเคราะห์และการตัดสินใจ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จในระยะยาว